วันพุธที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2566

Obbligato - ศรัทธาต่อคาเซฮายะ ทัตสึมิ/ตอนที่ 4

 

<เวลาเดียวกัน ห้องโหลยโท่ยของโรงเรียนเรย์เมย์>

ทัตสึมิ: ーครับ เท่านี้ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ

คานาเมะ: .........

ทัตสึมิ: ผมขอให้ทุกคนออกไปข้างนอกก่อนแล้วล่ะครับ
แถมล็อกประตูเข้าออกเอาไว้อย่างแน่นหนา ตั้งบาริเคทเผื่อเอาไว้ แล้วก็แน่นอนว่าปิดหน้าต่างเอาไว้แล้วด้วยครับ
ตอนนี้ที่นี่เป็นห้องลับที่เหมือนกับห้องสารภาพบาปแล้วล่ะครับ ไม่ว่าคุณจะกล่าวอะไร ผู้ที่ฟังอยู่ก็จะมีเพียงพระเจ้ากับผมเท่านั้น
โปรดวางใจ และระบายปัญหามาเถอะครับ

คานาเมะ: .........

ทัตสึมิ: อย่ากลัวไปเลยนะครับ นี่ไง ที่นี่ไม่มีคนอื่นนอกจากผมกับคุณเลยนะครับ
แล้วก็ ผมจะไม่ขยับไปไหน จนกว่าคุณจะเปิดปากพูดอะไรครับ จะกี่วันหรือกี่สัปดาห์ ก็ขอนั่งรออยู่ตรงนี้จนกว่าคุณจะเริ่มพูดเอง

คานาเมะ: เพื่ออะไร...? อะไรของเธอครับเนี่ย...?

ทัตสึมิ: ในที่สุดก็เปิดปากพูดแล้วสินะครับ ต้องแบบนั้นสิ♪
แล้วก็ อาจจะแนะนำตัวช้าไปหน่อย แต่ผมชื่อคาเซฮายะ ทัตสึมิครับ
จำว่าเป็น สายลมอันรวดเร็วที่พัดพามาจากฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ก็ได้ อ๋อ ส่วนทัตสึมิ(巽) ก็หมายถึงมังกรกับงู(辰巳) สมัยก่อนสื่อถึงตะวันออกเฉียงใต้น่ะครับ
ฮึฮึ ตะวันออกเฉียงใต้(Tounan) ฟังเหมือนคำว่าขโมย(Tounan) ดูไม่ดีเท่าไหร่เลยสินะครับ

คานาเมะ: คาเซฮายะ ทัตสึมิー

ทัตสึมิ: ครับ เชิญเรียกตามที่สะดวกได้เลยนะ จะ "คาเซฮายะเซมไป" หรือ "ทัตสึมิคุง" ก็ได้ แต่ช่วงนี้ตาม TV ชอบเรียกผมว่า "คุณนักบวช" ซะด้วย
เหมือนแนวศาสนาจะได้รับความนิยมน่ะครับ ฮะๆๆ ถึงตามนิกายผมจะไม่เรียกกันว่านักบวชก็เถอะ แต่ใช้คำเรียกแบบนั้นมันเป็นที่รู้จักกันมากกว่าน่ะครับ

คานาเมะ: ทำไมเธอ ถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ...?

ทัตสึมิ: คุณเองก็เหมือนกัน เออ รู้สึกว่า HiMERUซัง จะเป็น "นักเรียนทุน" นี่นา น่าจะได้รับห้องส่วนตัวหรูหราที่หอพักใหม่ไม่ใช่เหรอครับ
ถึงเรื่องนั้นผมเองจะเหมือนกันก็เถอะ ได้ห้องกว้างขวางขนาดนั้นมาก็ไม่รู้จะใช้ทำอะไรอยู่ดี ช่วงนี้ก็เลยปรับปรุงให้เป็นห้องฝึกซ้อมสำหรับให้ทุกคนได้ใช้น่ะครับ
แล้วก็เปิดให้ใช้งานแบบฟรีๆ เป็นสถานที่พบปะและฝึกซ้อมของทุกคน ถึงเด็กในหอพักคนอื่นๆ จะไม่ค่อยพอใจที่มีคนเข้าออกมากๆ จนเกิดเสียงดังอึกทึกก็เถอะ

คานาเมะ: อา เหมือนจะเคยได้ยินเรื่องนั้นอยู่ครับ ว่ามี "นักเรียนทุน" ที่ไปกลับจากบ้านมากขึ้นเพราะหอพักเริ่มไม่น่าอยู่น่ะ

ทัตสึมิ: อย่างนั้นสินะครับ อืม~ ผมก็ตั้งใจทำให้มีบรรยากาศน่าอยู่เท่าที่ทำได้แล้วเชียวนะ
ไม่ว่าเมื่อไหร่ ความเห็นของผมกับ "นักเรียนทุน" คนอื่นก็ไม่ค่อยลงรอยกันเลยนะครับ ถึงจะมีเด็กที่ยอมเข้าใจการกระทำของผม ค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาทีละนิดก็เถอะ
หนทางยังอีกยาวไกล บททดสอบยังคงไม่มีสิ้นสุดครับ
ฮึฮึ น่าตื่นเต้นจังเลยนะครับ

คานาเมะ: .........

ทัตสึมิ: โอ๊ะ ตอนนี้เรื่องของผมจะอย่างไรก็ช่างเถอะครับ ยิ่งไปกว่านั้น HiMERUซัง ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่งั้นเหรอครับ?
คิดว่าถ้ามัวแต่นั่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน เด็กหอคนอื่นๆ จะลำบากเพราะไม่มีที่ให้นอนเอานะครับ อ๋อ ไม่ได้จะว่าอะไรคุณหรอกนะครับ แค่ตั้งคำถามเฉยๆ

คานาเมะ: ...เธอนั่นล่ะครับที่ทำอะไรอยู่? ถ้าบอกว่าปรับปรุงห้องส่วนตัวในหอไปแล้ว ก็แปลว่าไม่มีที่ให้นอนแล้วน่ะสิ?

ทัตสึมิ: สงสัยเรื่องของผมขนาดนั้นเลยเหรอครับ
สำหรับผมแล้ว ขอแค่มีถุงนอนไม่ว่าที่ไหนก็หลับได้ทั้งนั้น ช่วงนี้มักทำกิจกรรมจนดึกดื่นเลยจะไปนอนที่คาตาคอมส์(สุสานใต้ดิน) น่ะครับ
สนุกเหมือนได้ตั้งแคมป์ทุกวันเลยล่ะครับ ได้ทำบาร์บีคิวกับทุกคนด้วย

คานาเมะ: ถึงผมจะไม่ได้บ้าแต่ไม่เข้าใจคำที่เธอเลยซักนิดเดียวครับ ฟังดูไม่เหมือนเรื่องของคนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนเดียวกันได้เลย

ทัตสึมิ: ฮึฮึ สำหรับ "นักเรียนทุน" แล้ว คงทนมองคนที่ไม่ได้เป็นอย่างตัวเองได้ยากสินะครับ
ดังนั้นผมจึงอภัยให้ตัวเองที่เคยเป็นแบบนั้นไม่ได้เหมือนกัน ตอนนี้ถึงพยายามข้องเกี่ยวกับพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ไงล่ะครับ

คานาเมะ: ...เธอ เกลียดการที่ตัวเองเป็น "นักเรียนทุน" เหรอครับ

ทัตสึมิ: ก็ไม่ได้ถึงกับเกลียดหรอกครับ แต่โครงสร้างของโรงเรียนเรย์เมย์อันไม่เป็นธรรมที่มั่นคงได้จากการที่ผู้อ่อนแอถูกเหยียบย่ำนั้น ผมคิดว่ามันจำเป็นต้องเปลี่ยนครับ
การกระทำของผมในตอนนี้ ก็เป็นการประท้วงเล็กๆ น้อยๆ ต่อโครงสร้างนั้นเช่นกัน

คานาเมะ: ถ้าเกลียดการที่เป็น "นักเรียนทุน" ถึงขนาดนั้นล่ะก็ー

ทัตสึมิ: ......!?
หวา... โดนผลักจนล้มซะแล้วสิ ปกติไม่ค่อยได้ใกล้ชิดผู้อื่นถึงขนาดนี้เท่าไหร่ ทำเอาใจเต้นเลยนะครับ ฮึฮึ

คานาเมะ: คาเซฮายะ ทัตสึมิ、คาเซฮายะ ทัตสึมิ、คาเซฮายะ ทัตสึมิー

ทัตสึมิ: ครับ ผมคือคาเซฮายะ ทัตสึมิครับ ดีใจจังที่จำชื่อกันได้

คานาเมะ: หนึ่งในจุดสูงสุดของนักเรียนไอดอล ผู้โดดเด่นที่สุดแม้ในหมู่ "นักเรียนทุน" ของโรงเรียนเรย์เมย์ด้วยกันเอง เด็กอัจฉริยะผู้เดินอยู่ในเส้นทางแห่งความรุ่งโรจน์อันเปล่งประกาย ยอดคนแห่งยุคสมัย

ทัตสึมิ: ก็รู้อยู่แล้วล่ะครับว่าตัวเองมีชื่อเสียงในแบบนั้น

คานาเมะ: ชื่อเสียงนั้น ยศฐานั่น ทั้งที่มันคู่ควรกับผมมากกว่าแท้ๆ

ทัตสึมิ: จำได้ว่าคุณเอง ก็มีชื่อเสียงพอๆ กันนะครับ

คานาเมะ: ขอเถอะ ขอทีเถอะครับ... ขอร้องล่ะ ขอจุดยืนนั้นของเธอให้ผมทีเถอะ

ทัตสึมิ: .........?

คานาเมะ: ...ถ้าไม่ได้เป็น "นักเรียนทุน" แล้วล่ะก็ ผมก็ไม่มีค่าจะมีชีวิตอยู่หรอก

วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2566

Obbligato - ศรัทธาต่อคาเซฮายะ ทัตสึมิ/ตอนที่ 3

 

จุน: (เฮ้อ~ อุตส่าห์เป็นพักกลางวันแท้ๆ)
(คาเซฮายะเซมไป ดันบอกว่าอยากจะคุยกับโทโจ คานาเมะー ไม่สิ ต้องเรียกว่า HiMERU สินะ บอกว่าอยากคุยกับหมอนั่นสองต่อสอง)
(ก็เลยให้ทุกคนออกมาข้างนอกจนเข้าไปในห้องโหลยโท่ยไม่ได้แล้ว อันที่จริงคาเซฮายะเซมไปก็ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก แต่ก็แย่ล่ะสิ)
(เพราะปกติคาเซฮายะเซมไปจะทำข้าวกลางวันให้ ก็เลยไม่ได้เตรียมข้าวกล่องหรืออะไรเอาไว้เลย)
(ช่วยไม่ได้ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" ออกไปนอกเขตโรงเรียนเรย์เมย์โดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ได้ซะด้วยー)
(แค่ก้าวเท้าออกไปนิดเดียว ก็โดนโกรธ หาว่า "หลบหนี!" แล้ว)
(หิวจนไส้จะกิ่วแล้วด้วย รีบวิ่งไปให้ถึงร้านสะดวกซื้อดีไหมนะ ถึงจะไกลก็เหอะ ไหงถึงมาตั้งอยู่ในสถานที่ที่อย่างกับเกาะร้างอย่างนี้เนี่ย ไอ้โรงเรียนเรย์เมย์)
(จะซื้อจากร้านขายของในโรงเรียนก็ได้อยู่หรอก แต่โรงเรียนเรารวมหัวกับพ่อค้าหรือไงก็ไม่รู้ ถ้าขายให้พวกเราที่ไม่ได้มีส่วนลดเหมือนอย่าง "นักเรียนทุน" แล้ว ราคาจะแพงเป็นบ้าเป็นหลังเลย)
(ขนาดเรื่องแบบนี้ยังโดนแบ่งแยกชนชั้นเลย น่าหงุดหงิดชะมัด... หือ?)
(อ้าว? เหมือนมีควันลอยขึ้นมาจากทางฝั่งโน้น...?)
หรือว่า จะไฟไหม้? ชิบแล้ว ถังดับเพลิง ถังดับเพลิงอยู่ไหน...!?
เอ๊ะ อ้าว? เฮ้~ นาย โทโจเซมไปเหรอ?
ทะ ทำไมถึงมาก่อกองไฟแถวนี้เนี่ย...? นึกว่าไฟไหม้ซะอีก ตกใจหมด~!
อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องก้มหัวให้ผมปลกๆ ก็ได้ ผมไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร "ไม่ใช่นักเรียนทุน" แถมยังเป็นนักเรียนใหม่วรรณะต่ำสุดด้วย
หือ? ถึงอย่างนั้นนายก็ยังลำดับต่ำกว่าผม? หมายความว่าไง?
ยิ่งไปกว่านั้น ดูดีๆ แล้วกำลังวางตะแกรง ย่างเนื้อกับผักน่าอร่อยอยู่บนกองไฟไม่ใช่หรือไงครับเนี่ย! ขอผมกินบ้างได้หรือเปล่า~?
ที่จริงแล้วมันเกิดเรื่องอย่างงู้นอย่างงี้ ปล่อยไว้ต้องอดข้าวกลางวันแน่ๆ เลยครับ
อ๋อ OK สินะครับ งั้นก็ขอร่วมวงด้วยไม่เกรงใจนะครับ~
เฮะๆ ก็คิดมาตั้งแต่ตอนเจอกันครั้งแรกแล้วนะครับ นายเนี่ยเป็นคนดีจังเลยนะ โทโจเซมไป ถึงการกระทำจะลึบลับไปหน่อยก็เหอะ
ว่าแต่ นายเนี่ย ปกติจะไปทำอะไรอยู่ที่ไหนเหรอ? ไม่เคยเห็นอยู่ที่ห้องโหลยโท่ยหรือห้องเรียนของ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" เลย แปลว่านายเป็น "นักเรียนทุน" เหรอ?
ไม่ใช่? อยู่นอกเหนือจากระบบแบ่งชนชั้นพวกนั้น? ก็แล้วมันหมายความว่ายังไงกันแน่เล่า?
เออ ไม่ได้จะว่าอะไรซะหน่อย... แบบว่า ขอโทษนะครับ ที่ทำตัวปากเสียไปหน่อย ทั้งที่ทางนั้นอยู่ปีสูงกว่าแท้ๆ
อ๊ะ ครับ ขอรับเนื้อไปนะครับ ขอบคุณสำหรับอาหาร
ง่ำๆ อร่อยจัง แต่ว่า นี่มันเนื้ออะไรเหรอครับ...?
อ๊ะ จะว่าไปก็อยากถามเรื่องนี้เหมือนกัน นายเนี่ย รู้จักคนชื่อโทโจ คานาเมะหรือเปล่า? เค้าเป็นญาติหรืออะไรกับนายหรือเปล่า?
แบบว่า~ รู้สึกว่าเหมือนกันอยู่หน่อยๆ น่ะ... โครงหน้างี้ นามสกุลก็เหมือนกัน ไม่คิดว่าจะบังเอิญหน้าคล้ายกันเฉยๆ ด้วย
ーเหวอ!?
อะ อะไรเนี่ย? มากันไม่หยุดไม่หย่อนเลย!



อิบาระ: ขออภัย! พวกคนตรงนั้น ได้รับบาดเจ็บหรือเปล่าครับ!

จุน: (หา? อะไรเนี่ย ไอ้รถสุดหรูนี่? พุ่งเข้ามาแบบเร็วจี๋เลย...!)

อิบาระ: ขอโทษด้วยจริงๆ ครับ! ไม่นึกว่าจะมีคนมานั่งทานอาหารกันอยู่ในที่แบบนี้!
เกือบจะเผลอชนเข้าซะแล้วครับ! เดี๋ยวเราจะตักเตือนคนขับรถอย่างเข้มงวดที่หลัง โปรดยกโทษให้ด้วยเถอะครับ!

จุน: หา? ว่าแต่ นายเป็นใครมาจากไหนเนี่ย? ไม่ใช่ชุดโรงเรียนเรานี่นา...?

อิบาระ: อ๊า แนะนำตัวช้าไปซะแล้วสิ! รับนี่ไปสิครับ!

จุน: (หืม? อะไรของหมอนี่ อายุพอๆ กับเราแท้ๆ ดันยื่นนามบัตรมาให้ด้วยท่าทางอวดเบ่งเฉยเลย...?)
(ไหนๆ? [ปีหนึ่งโรงเรียนชูเอทสึ/นักเรียนทุน ซาเอกุสะ อิบาระ(七種 茨)]...? ชื่ออ่านว่าอะไรฟะเนี่ย? นานะ ทาเนะ อะไร๊? ชื่อแปลกชะมัด! นี่ก็ชื่อในวงการเหรอ?)
(ว่าแต่ ชูเอทสึนี่ มันโรงเรียนโคตรหัวกะทิที่ทุกคนเป็น "นักเรียนทุน" ไม่ใช่เหรอ)
(เป็นแหล่งรวมของ "ไอดอลผู้เป็นเลิศที่สุด" ที่คัดเลือกมาจากโรงเรียนในเครือคอสโปรทั่วประเทศ)
(หมอนี่ เป็นนักเรียนของที่นั่นเหรอ? ด้วยอายุเท่ากับเรา? นี่น่ะเหรอชนชั้นสูง โลกที่อยู่มันต่างกันจริงๆ น๊า~...?)

อิบาระ: ขอโทษด้วย! พอดีว่ากำลังรีบอยู่ ต้องขอตัวเท่านี้ก่อน! หากมีอะไรอยากจะกล่าวล่ะก็ โปรดใช้ช่องทางติดต่อบนนามบัตรนั่นนะครับ!
เช่นนั้นก็ ขออภัยด้วย! ต้องขออภัยยิ่งเป็นอย่างสูงจริงๆ ครับ!

จุน: (ฮะๆ ขับรถหรูแล่นฉิวหายไปแล้ว ไม่หันมองมาทางนี้ซักนิด ไม่อยู่ในสายตาเลยสินะ โคตรน่าหงุดหงิด)
(หมอนั่นกับเรา มีอะไรที่แตกต่างกันกันนะ?)

Obbligato - ศรัทธาต่อคาเซฮายะ ทัตสึมิ/ตอนที่ 2

 

<พักกลางวันของวันนั้น>

จุน: ฮ้าว...♪
(เฮ้อ~ จะนอนเท่าไหร่ก็ไม่หายเหนื่อยจริงๆ แฮะ ทั้งที่ก็แทบไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ๆ ชักจะเริ่มน่ารำคาญแล้วสิ)
(ยังไงก็ต้องเอาความกระปรี้กระเปร่ากลับมาให้ได้ ไม่งั้นเดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไปก่อน)
(ฉะนั้นแล้ว ในที่สุดก็ถึงเวลาแห่งการเยียวยาเพียงหนึ่งเดียวภายในคืนวันที่เหมือนกับนรก พักกลางวันนั่นเอง~♪)
(ถึงตามตึกเรียนจะมีพวก "นักเรียนทุน" เกะกะขวางตา ที่ชอบสั่งนู่นสั่งนี่จนไม่ได้พักอยู่ด้วยก็จริง)
(แต่ "นักเรียนทุน" ชอบคิดว่าห้องโหลยโท่ยสกปรกโสโครกก็เลยไม่เข้ามาเฉียด ค่อยนอนกลางวันได้สบายใจหน่อย...♪)
(แล้วก็ ไม่รู้หรอกนะเพราะอะไร แต่ช่วงนี้คาเซฮายะเซมไปชอบทำอาหารหรือขนมอร่อยๆ มาจากจ่ายทุกคนด้วย)
(นั่นเองก็เป็นความตื่นเต้นในทุกๆ วันเหมือนกัน...)
(เพราะ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" ทุกคนต่างก็ลำบากเรื่องค่าเทอมกัน แค่ได้ข้าวฟรีก็น่าขอบคุณมากแล้ว แล้วการนั่งล้อมวงกินข้าวพลางคุยเรื่องสัพเพเหระกันก็สนุกดีด้วย)
(พักกลางวันนี่แหละคือการเยียวยาเพียงหนึ่งเดียว! เป็นการพักผ่อนโดยแท้จริง~♪)
(...ที่จริงก็อยากใช้เวลาว่างในการฝึกซ้อมอยู่หรอก แต่แทบจะไม่มีโอกาศได้ทำแบบนั้นอยู่แล้ว แบบว่า คนจนก็ไร้ทางเลือกงี้แหละ)

ทัตสึมิ: .........

จุน: หืม? อ้าว คาเซฮายะเซมไป...?
ทำอะไรเหรอครับ ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าออกแบบนั้นมันเกะกะคนอื่นนะ

ทัตสึมิ: อา จุนซัง สวัสดีครับ

จุน: อุส ดีคร้าบ~

ทัตสึมิ: ครับ จุนซังเริ่มทักทายคนอื่นเป็นแล้ว เก่งมากเลยนะครับ เด็กดีๆ

จุน: ...ก็ไม่ได้ทำอะไรให้น่าโดนชมซักหน่อยครับ

ทัตสึมิ: ไม่หรอกครับ มีแต่เรื่องควรชมทั้งนั้นเลยนะ พวกคุณน่ะ เก่งแล้วที่เดินด้วยขาของตัวเองได้ เก่งแล้วที่เอื้อนเอ่ยคำพูดได้ เก่งแล้ว ที่มีลมหายใจอยู่...♪
เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน นี่มันเกิดเรื่องอะไรเหรอครับ? ทำความเข้าใจสถานการณ์ไม่ได้ จนทำเอาลังเลที่จะเข้าห้องเลยนะครับ?

จุน: หือ? หมายถึงเรื่องอะไร... เออ เหวอ!?


คานาเมะ: อ๊าาาาาาาาา
อ๊าาาาาาา อ๊าาาาาาาาาาาา อ๊าาาาาาาาาาา

จุน: นี่อะไรเนี่ย!?

ทัตสึมิ: นั่นน่ะสิ... มันเรื่องอะไรกันนะครับ ทุกคนก็ดูท่าทางสับสน เลยเอาแต่มองห่างๆ อย่างกลัวๆ น่ะ
เหมือนว่าจะไม่มีใครรู้ต้นสายปลายเหตุเลย แย่จังนะครับ

จุน: งะ งั้นก็เรียกอาจารย์มาน่าจะดี... ก็คงเปล่าประโยชน์สินะ พวกอาจารย์ไม่มีทางจะเคลื่อนไหวเพื่อ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" อยู่แล้ว

ทัตสึมิ: ไม่ได้มีแต่อาจารย์แบบนั้นหรอกนะครับ แต่ว่า ตัดสินใจลำบากน่าดูเลยว่าจะเรียกอาจารย์มาให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ดีหรือเปล่า
ทำแบบไหนถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับเขาー สำหรับ HiMERUซังนั้น ต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนค่อยตัดสินใจ

จุน: ฮิเมรุ...?

ทัตสึมิ: อ้าว ไม่ทราบหรอกเหรอครับ เขาเป็นเหมือนตัวแทนของ "นักเรียนทุน" ในหมู่นักเรียนเข้าใหม่ ไอดอลชื่อดัง HiMERUซังไงครับ

จุน: อ้าว? ชื่อนั้นหรอกเหรอเนี่ย...?
(ไม่สิ เหมือนตอนพิธีปฐมนิเทศน์จะแนะนำตัวเองว่าชื่อโทโจ คานาเมะนี่นา? หรือคนละคน? ไม่สิแต่ว่า ดูยังไงก็คนเดียวกันชัดๆ...?)
(...ว่าไปแล้วถึงจะไม่เกี่ยวกับตอนนี้ก็จริง "โทโจเซมไป" ที่หน้าตาเหมือนโทโจ คานาเมะคนนั้นเค้าไปทำอะไรอยู่ที่ไหนแล้วกันนะ? หลังเข้าเรียนมาก็ไม่เคยเจอกันเลย?)
(ที่ไม่เคยเจอแถวห้องโหลยโท่ย แปลว่าคนๆ นั้นเองก็เป็น "นักเรียนทุน" เหรอ?)

ทัตสึมิ: ฮึฮึ เหมือนว่า HiMERU จะเป็นชื่อในวงการนะครับ ถึงที่ยูเมะโนะซากิจะมีธรรมเนียมให้ใช้ชื่อจริงก็เถอะ แต่โรงเรียนเราก็มีอยู่เยอะเลยนะครับー ไอดอลที่ใช้ชื่อในวงการน่ะ
แล้วก็ในโรงเรียนเรย์เมย์นี้ บุคคลใดที่มีความน่าเคารพนับถือในฐานะไอดอล เราก็จะเรียกเขาด้วยชื่อในวงการน่ะครับ

จุน: งั้นเหรอครับเนี่ย งี้นี่เองー ชื่อในวงการสินะ?

ทัตสึมิ: แล้ว จุนซังเนี่ย ใช้ชื่อจริงตามปกติเลยสินะครับ?

จุน: ครับ เพราะว่าเข้าเรียนมาด้วยชื่อจริงโดยไม่ได้คิดอะไร เลยโดนหัวเราะเยาะว่าเป็น "ลูกชายของหมาขี้แพ้" เลยเนี่ย แม่งเอ้ย
ไม่รู้หรอกนะว่าใครเอาไปป่าวประกาศ แต่ข่าวลือแย่ๆ แบบนั้นมันแพร่กันเร็วจังนะครับ

ทัตสึมิ: นั่นสินะครับ ในโรงเรียนเรย์เมย์ที่เข้มงวดเรื่องการแบ่งชนชั้น "ความเป็นจริงที่มีไว้เหยียดหยามผู้อื่น" ถือเป็นอาวุธเพื่อให้ตนเองไต่เต้าขึ้นสูงได้น่ะครับ
เป็นอาวุธเพียงหนึ่งเดียว ที่เปลียนแปลงสถานการณ์ปัจจุบันได้เลย
ดังนั้นเรื่องถึงแพร่ไปไกลไงล่ะครับ ไม่ดีเลยนะครับ ไม่ดีเลยจริงๆ
ยังไงก็ต้องเปลี่ยนแปลงจริงๆ ด้วย โลกอันแสนเศร้าใบนี้ที่ไม่ว่าใครต่างก็ทำร้ายกันและกันได้โดยง่าย

จุน: ...?

ทัตสึมิ: ที่สำคัญกว่านั้น ทุกคนดูจะลำบากใจกันอยู่ด้วย เดี๋ยวขอลองไปคุยกับ HiMERUซังดูก่อนนะครับ
ถ้าเค้ามีปัญหาอะไร ก็อยากจะช่วยให้คำปรึกษาน่ะครับ

จุน: แบบว่า อย่าไปยุ่งมากนักจะดีกว่าหรือเปล่าครับ? ไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เจ้าหมอนั่นเอาแต่ส่งเสียงแปลกๆ แล้วอาละวาดไม่หยุดเลย

ทัตสึมิ: ไม่ว่าใครสมัยเป็นทารกยามแรกเกิดก็เป็นแบบนั้นกันทั้งนั้นล่ะครับ และหากอีกฝ่ายเป็นทารก การจะยื่นมือไปโอบอุ้มก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วครับ
ผม อยากจะทำเรื่องธรรมดาๆ แบบนั้นล่ะครับ ถือเป็นเรื่องแน่นอนในฐานะมนุษย์
HiMERUซัง ผมจะขอมอบในสิ่งที่คุณปรารถนา ให้จงได้เลยครับ

วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2566

Obbligato - ศรัทธาต่อคาเซฮายะ ทัตสึมิ/ตอนที่ 1

 

<สามปีก่อน นหึ่งเดือนให้หลังจากพิธีปฐมนิเทศ ห้องโหลยโท่ยแห่งโรงเรียนเรย์เมย์>

จุน: หาว~,,, ฮู่ว♪
(เอาล่ะ หนึ่งวันอันแสนน่ารังเกียจก็เริ่มขึ้นอีกแล้ว~ ...ฮึ้บ)
(นับตั้งแต่ที่เข้าเรียนมา สถานการณ์ก็ไม่เคยหันกลับมาเป็นใจให้เราบ้างเลย ทุกวันๆ ก็ยังต้องคอยรับใช้เหล่าท่านๆ "นักเรียนทุน" เฮงซวยไม่เปลี่ยน แม่งเอ้ย)
(โรงเรียนเรย์เมย์นี่ ไม่ใช่ว่าเป็นโรงเรียนเสริมสร้างไอดอลหรือไง จนถึงตอนนี้เรายังไม่เคยได้ทำอะไรที่ดูสมเป็นไอดอลซักครั้งเลยนะ)
(แต่ยังไงซะ "เรื่องแบบนั้น" ก็คงเป็นเอกสิทธิ์พิเศษเฉพาะเหล่าท่านๆ "นักเรียนทุน" อยู่แล้ว)
(แบบนี้ทำให้รู้สึกว่าตอนก่อนมาเข้าเรียนยังได้ฝึกซ้อมอะไรเป็นชิ้นเป็นอันกว่านี้ซะอีก อันที่จริงก็แอบซ้อมด้วยตัวเองอยู่ด้วยก็เถอะ แต่มันก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน)
(แค่ซักเสื้อผ้า หาข้าวหาปลาให้ "นักเรียนทุน" ก็เหนื่อยจะแย่ พอกลับมาห้องโหลยโท่ยก็หมดแรงทำอะไรแล้ว)
(ถึงจะก็ฝืนซ้อมด้วยตัวเองอยู่ก็จริง แต่เหมือนกำลังเดินทางอ้อมแบบเปล่าประโยชน์อยู่เลย... จะบอกว่าเดินทางอ้อมหรือเปลืองเวลาดีล่ะ)
(แต่ก็ได้ยินมาว่าพวกโรงเรียนเบสบอลระดับโปรที่เค้าเคร่งๆ ก็แทบจะไม่ได้ให้นักเรียนใหม่ได้จับลูกในช่วงหนึ่งปีแรกด้วยนี่นะ)
(นี่เองก็อาจจะเป็นเวอร์ชั่นไอดอลก็ได้)
(ยังไงก็ยอมรับไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ~...! โถ่เว้ย ทำไมไม่เกิดอุบัติเหตุอะไรซักอย่างให้พวก "นักเรียนทุน" มันตายๆ กันไปให้หมดกันนะ?)

ทัตสึมิ: อรุณสวัสดิ์ครับ♪

จุน: หือ... โอ๊ะ อรุณสวัสดิ์ฮะ คาเซฮายะเซมไป
แบบว่า มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในห้องโหลยโท่ยนี่โดยสมบูรณ์แล้วสินะ ไอ้ผมก็นึกว่าจะโอดโอยยอมแพ้แล้วออกไปตั้งแต่เนิ่นๆ ซะอีก

ทัตสึมิ: หากปล่อยวางอะไรก็ทำได้ล่ะครับ หากลองมองดูทุกมุมโลกแล้ว ยังมีผู้คนที่ต้องอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายกว่านี้อีกมากมายเลยฮะ
เช่นนั้น มนุษย์ที่พรั่งพร้อมเช่นผม จะมัวแต่พร่ำบ่นถึงความไม่เป็นธรรมอยู่ได้อย่างไรล่ะครับ

จุน: อย่างนั้นเองเหรอครับ ว่าแต่ "นักเรียนทุน" ทั่วไปที่สามารถไปใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่พรั่งพร้อมถึงขนาดนั้นได้อย่างนาย ทำไมถึงต้องมาเกลือกกลั้วอยู่ที่จุดต่ำตมอย่างนี้ล่ะฮะ
ที่ถามคำถามเดิมซ้ำๆ หลายรอบมันก็ แบบว่า เกรงใจอยู่หรอกนะครับ

ทัตสึมิ: ไม่ต้องฝืนพูดสุภาพก็ได้นะครับ คำพูดน่ะ ขอแค่สื่อสารกันได้ผมก็ไม่ถือสาอยู่แล้ว

จุน: ทำงั้นได้ที่ไหนเล่า พื้นฐานคนเรามันก็มีแต่พวกเฮงซวยที่ชอบพูดแทรกแล้วว่าร้ายโจมตีคนอื่นเท่านั้นล่ะครับ

ทัตสึมิ: อย่างนั้นเองเหรอครับ ฮึฮึ พอได้พูดคุยกับจุนซังแล้วก็ได้เรียนรู้ขึ้นเยอะเลย

จุน: (แปลกคนจังแฮะ... มันยังไงกันแน่เนี่ย)
(ตามข่าวลือแล้ว เหมือนว่าจะยื่นเรื่องขอให้เพิกถอนตัวเองจากการเป็น "นักเรียนทุน" กับทางโรงเรียน แล้วโดนปฏิเสธอยู่ด้วย)
(หรือว่าจะไปกันไม่สวยกับพวก "นักเรียนทุน" ด้วยกันเองหรือเปล่านะ)
(แต่ว่า เท่าที่เห็นคาเซฮายะเซมไปตอนอยู่ในตึกเรียนส่วนใหญ่ก็จะสนิทสนมกับทั้ง "นักเรียนทุน" และ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" เหมือนๆ กันหมดนี่นา)
(ในโรงเรียนเรย์เมย์นี้ที่เข้มงวดเรื่องความสัมพันธ์สูงต่ำโดยสมบูรณ์แบบ มีแค่คนๆ นี้ที่เป็น "ข้อยกเว้น")
(เป็นตัวอะไรกันแน่เนี่ย~... ไอดอลก็ไม่ได้สนใจไอดอลคนอื่น โดยเฉพาะไอดอลนักเรียนที่เหมือนยังไม่ฟักจากไข่ดีเลยซักนิด ก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ด้วย)
(พอลองค้นดูแล้ว คาเซฮายะเซมไปก็เดบิ้วเป็นไอดอลในฐานะ "นักเรียนทุน" ตามปกติ แถมโด่งดังสุดๆ ไปเลยด้วย)
(เพราะพวกเจ้าใหญ่ๆ ในวงการนี้พักหลังไม่ค่อยเตะตาต้องใจฝั่งยูเมะโนะซากิเท่าไหร่ โดยเฉพาะปีที่แล้วก็เลยยิ่งพากันคว้าตัวไอดอลชายหนุ่มๆ ในระดับชนชั้นที่ต้องการกันใหญ่)
(แน่นอนว่าส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะสังเวยไอดอลคนอื่นๆ นอกเครือคอสโปร กับ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" อย่างพวกเราไปด้วยก็เถอะ แต่ท่าทางจะทำให้เหลิงกันใหญ่เลย)
(แล้วคนๆ นี้ แม้แต่ในหมู่คนเหล่านั้นก็ยังอยู่ในระดับโดดเด่น)
(ถึงอย่างนั้นแต่ก็ไม่ได้เริงร่าแล้วใช้ชีวิตอย่างหรูหรา แต่กลับมาเกลือกกลั้วใช้ชีวิตอยู่กับคนระดับต่ำอย่างพวกเราในห้องโหลยโท่ย แถมยังดื่มชาสูตรบ้านตัวเองอยู่อีก)

ทัตสึมิ: ...? จุนซังก็จะเอาชาด้วยเหรอครับ?

จุน: เอาสิครับ ช่วงนี้รู้สึกว่านอนยังไงก็ไม่หายเหนื่อยเลย ดื่มซักหน่อยให้สร่างง่วงดีกว่า~...

ทัตสึมิ: พูดจาอย่างกับเป็นคนวัยกลางคนที่อิดโรยเลยนะครับ จุนซังยังหนุ่มอยู่เลยนะ

จุน: นายเองก็เหมือนกันแหละ เฮ้อ ชาอร่อยจัง เจ้านี่เป็นสิ่งบันเทิงอันน้อยนิดในการใช้ชีวิตอยู่ในเรย์เมย์เลยนะครับ

ทัตสึมิ: ฮึฮึ ถ้าทำให้คุณรู้สึกดีได้บ้าง ผมก็โชคดีที่ได้มาเป็นไอดอลแล้วล่ะครับ
แต่ว่า ดูท่าทางเหนื่อยล้าจริงๆ ด้วยสิ...
ที่รู้สึกเหนื่อยไม่หายอาจเป็นเพราะอาการเครียดก็ได้นะครับ ก่อนที่มันจะหนักข้อก็มาปรึกษาปัญหาเล็กๆ น้อยๆ บ้างได้นะ
หากไม่รังเกียจล่ะก็ ผมพร้อมที่จะรับฟังทุกเมื่อครับ

จุน: งั้นก็พอดีเลยล่ะครับ~ นายเนี่ย ยังไงก็คงจะพูดแบบนี้กับทุกคนเลยใช่ไหมล่ะ
เพราะงั้นก็เลยมีพวกหน้าตาซังกะตายโผล่มาห้องโหล่ยโท่ยนี่ระบายให้นายรับฟังอยู่ทุกวัน...
ทำเอาเริ่มคิดขึ้นมาแล้วนะครับว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาลหรือสถานศาสนาหรือเปล่า


ทัตสึมิ: ขอโทษนะครับที่ทำให้ต้องวุ่นวายตลอด ผมก็บอกทุกคนอยู่เสมอนะว่าถ้าเป็นไปได้อย่ามาที่นี่ดีกว่า
พวกอาจารย์เองก็ดูจะไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ด้วย เพราะกฎโรงเรียนค่อนข้างเข้มงวดสำหรับนักเรียนที่ไม่ใช่นักเรียนทุน ถ้าที่นี่เกิดกลายเป็นเหมือนแหล่งซ่องสุมขึ้นมาเดี๋ยวจะถูกว่ากล่าวตักเตือนเอาได้

จุน: แต่ก็ไม่เห็นเป็นไรใช่ไหมล่ะ ไม่ว่าใครก็อยากมีสถานที่ให้หนีไปได้กันทั้งนั้น
ก่อนที่ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" ที่ถูกกลั่นแกล้งจะเครียดฝังหัวจนจบชีวิตตัวเองแล้วไปสวรรค์ของจริงเข้า ก็จะมีนายที่อยู่ในห้องโหล่ยโท่ยนี่คอยหยุดยั้งคนพวกนั้นไง
พอคิดแบบนั้นแล้ว ทั้งที่แค่ใช้ชีวิตอาศัยอยู่ใกล้กันเฉยๆ แท้ๆ แต่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเกี่ยวพันกับเรื่องที่สูงส่งไปด้วยเลยー แบบว่า ยังไงดีล่ะ รู้สึกขอบคุณน่ะ

Obbligato - เรือของคนโง่/ตอนที่ 3

 

HiMERU: ーแต่ก็ พอจะจับทิศทางแนวโน้มส่วนใหญ่ของ [COMP] ได้แล้วล่ะครับ

ทัตสึมิ: นั่นสินะครับ เรื่องที่ต้องพูดกันตรงๆ ต่อหน้าถึงจะสื่อสารกันได้เนี่ย มันก็มีอยู่จริงๆ นั่นแหละ

HiMERU: ーว่าแต่ กลัวจะถูกแอบดูขนาดนั้นเลยเหรอ
ในเอกสารที่รองผอ.ส่งมา มีแต่คำอธิบายคลุมเครือทั้งนั้น ทำให้จับใจความรายละเอียดไม่ได้เลยล่ะครับ
ถึงอย่างนั้น พวกเรา [Crazy:B] ที่อยู่ในจุดยืนเปราะบาง หากถูกเรียกตัวก็ต้องโผล่หน้ามาแบบนี้อยู่ดี

อิบาระ: เหนื่อยหน่อยนะครับ... แล้วคราวหน้าหากทำอะไรลงไปอีกทางเราก็อาจช่วยปกป้องไม่ได้แล้วด้วย ช่วยกระทำตัวดีๆ เท่าที่ทำได้ด้วยนะครับ

HiMERU: ーจะบ่นก็ไปบ่นกับอามากิเถอะครับ

อิบาระ: เพราะพูดกับคนๆ นั้นยังไงเค้าก็ไม่ฟัง ถึงต้องมาบอกกับคุณแทนไงครับ
(แต่ก็เอาเถอะครับ ถึงคุณอามากิ รินเนะจะน่ารำคาญเสียจนชวนหงุดหงิดก็เถอะ แต่ช่วงนี้ก็เริ่มมีแน้วโน้มจะเพลาๆ ลงเพราะนึกถึงพวกพ้องบ้างแล้วด้วย)
(ทั้งเรื่องความวุ่นวายเมื่อหน้าร้อนกับเรื่องของ [SS] คงทำให้ถูกตำหนิอย่างหนักที่ทำอะไรเองตามอำเภอใจโดยไม่บอกเพื่อนสินะ...)
(แต่ว่า ถึงคนแบบนั้นคงจะไม่ค่อยสำนึกเท่าไหร่อยู่แล้วก็เถอะ)
(แต่ประสบการณ์เหล่านั้น ก็จะกลายเป็นตรวนคอยเหนี่ยวรั้งเขาเอาไว้)
(หากจะยิงขุนก็ต้องยิงม้าก่อน คราวนี้ เราจะใช้ [COMP] เป็นข้ออ้าง แล้วขุดคุ้ยประวัติศาสตร์ของโรงเรียนเรย์เมย์ที่ยังกลบฝังอยู่ในความมืดขึ้นมาー)
(แล้วกุมจุดอ่อนของคุณ HiMERU ที่พัวพันกับเหตุการณ์นั้นเอาไว้ เพราะดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นแค่ตัวปลอมที่มาเคลื่อนไหวแทน "ตัวจริง" เสียด้วยสิ)
(หากเปิดโปงความจริงนั้น อาจทำให้ชีวิตการเป็นไอดอลของคุณ HiMERU ต้องสั่นคลอนก็จริง แต่อย่างไรเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อกรของพวกเราอยู่แล้ว)
(และเพื่อจากนี้จะยังคงใช้การเขาในฐานะ "เบี้ยที่ใช้การได้" ต่อไป จึงจำเป็นต้องเสาะหาอดีตยังไงล่ะครับ หึหึหึ♪)

HiMERU: .........

จุน: เป็นอะไรไปครับ อิบาระ ทำหน้าประหลาดเชียว...
แหม เพราะพูดคำที่ไม่เข้ากับตัวเองบ่อยๆ อย่าง "รักทุกคน" อะไรนั่น สุขภาพร่างกายเลยทรุดโทรมใช่ไหมล่ะ?

อิบาระ: นี่คิดว่าเราเป็นตัวอะไรครับ

HiMERU: ปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำใสสะอาดไม่ได้ーมั้งครับ

อิบาระ: ครับ แม้จะคิดถึงบึงโคลนเก่าก่อนอยู่บ้างก็จริง แต่ถึงจะมาโหยหาอดีตไปก็ไม่ได้อะไรนี่ครับ ต้องมองความเป็นจริงแล้วปรับตัวสิ
และ [COMP] ก็มีไว้เพื่อการนั้นอย่างไรล่ะครับ เรื่องกำหนดการในวันนี้ ขออธิบายเนื้อหารายละเอียดเท่านี้ก่อนก็แล้วกัน
จากนี้ หลังช่วงกลางวันจะไปรวมตัวกับฝ่าบาทฮิโยริ แล้วพาทุกท่านเยี่ยมชมเรย์เมย์นะครับ
แล้วระหว่างนั้นขอให้ทุกท่านช่วยเล่าถึงประสบการณ์ช่วงวัยรุ่นแสนสนุกสมัยอยู่ในโรงเรียนเรย์เมย์พร้อมรอยยิ้มด้วยนะครับ เพราะว่านั่นจะเป็นการถ่ายทำวิดีโอโปรโมทโรงเรียนน่ะ

ทัตสึมิ: โอ๊ะ? ไม่ใช่ว่าจะเป็นการถ่ายไลฟ์สดหรอกเหรอครับ?

อิบาระ: เรื่องนั้นเอาไว้วันหลังน่ะครับ ถ้าสะดวกพอก็อยากปรับจูนเสียงภายในวันนี้อยู่หรอก
แต่ว่ากันตามปกติ พวกคุณก็ไม่ได้ถือว่าสังกัดอยู่กับยูนิตด้วยนี่ครับ
ในวันนี้ เพราะเรียกพวกคุณมาแบบกระทันหันก็เลยไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วล่ะครับว่าจะได้ไลฟ์อะไรดีๆ
แน่นอนว่าด้วยศักยภาพของพวกคุณก็คงจะแสดงเพอฟอร์แมนซ์แบบไปวัดไปวาได้ก็จริง แต่ที่กังวลคือมันแค่ระดับพอไปวัดไปวานี่ล่ะครับ
เพราะอย่างไรก็ต้องทำให้ผู้คนที่เห็นคลิปนั้นคิดว่า "อยากเป็นไอดอลแบบนี้!" ให้ได้

HiMERU: ーว่าไงดี ได้กลิ่นเหมือนเป็นการโพรพาแกนด้าอย่างเต็มรูปแบบเลยนะครับ

อิบาระ: ก็เพราะ [COMP] เป็น "แผนงานแบบนั้น" โดยสมบูรณ์ไงครับ มีตรงไหนไม่พอใจหรือเปล่า?
จำนวนนั้นคือพลัง หากเราไม่ได้นักเรียนซึ่งเปรียบเสมือนไข่ของลูกเจี๊ยบไอดอลมาในจำนวนมากๆ ล่ะก็ จากนี้ พวกเราคอสโปรจะต้องตกต่ำใน ES แน่ครับ
การดึงดูดผู้คนจำนวนมากและทำให้มาเป็น "พรรคพวก" นั้น จะเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตต่อจากนี้อย่างแน่นอนครับ

จุน: ก็นั่นสินะครับ~... ผมเองก็ยังเป็นนักเรียนอยู่ เลยยังนึกถึงเรื่องในอนาคตไม่ค่อยออกเท่าไหร่ หรือจะบอกว่ามองแต่สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าแทนดี
ถ้าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ต้องคิดถึงเรื่องจากนี้สินะครับ~... เพราะว่าชีวิตเราไม่ได้จบสิ้นลงไปพร้อมๆ กับการเรียนจบด้วย

อิบาระ: ครับ กลับกันแล้วชีวิต "ถัดจากวัยรุ่น" ต่างหากที่ยาวนานและห่างไกลกว่ากันตั้งเยอะ อยากให้ทุกท่านตระหนักถึงเรื่องนี้กันหน่อยนะครับ

HiMERU: ーเรื่องแบบนั้น ถึงไม่ต้องเตือนก็เข้าใจอยู่แล้วล่ะครับ
กลับกันแล้วโดยเฉพาะพวกจากยูเมะโนะซากิ ยังสลัดภาพความรู้สึกตอนเป็นนักเรียนกันไม่ได้เลย เลยมีคนที่รู้สึกอับอายอยู่บ้างน่ะครับ
แต่เพราะ HiMERU เป็นผู้ใหญ่ และเป็นมืออาชีพ ต้องทำงานให้สำเร็จลุล่วงอยู่แล้ว
ถึงการที่ให้ความทรงจำวัยรุ่นแสนสนุก มันจะยุ่งยากอยู่บ้างก็เถอะนะครับ
แต่เป็นถึงรองผอ.เสียอย่าง ยังไงก็คงจะแต่งเนื้อเรื่องสนุกสนานที่ดูไม่ขัดกับความเป็นจริงมาเขียนเป็นสคริปต์อยู่แล้วใช่ไหมล่ะครับ?
หากได้ลองอ่านมันดูสักรอบล่ะก็ จะขอแสดงภาพที่คุณต้องการเห็นอย่างไม่มีผิดพลาดให้ดูเองครับ ให้เรียกทัตสึมิหรือจุนว่าเป็นเพื่อน แล้วควงแขนกันด้วยเลยไหมล่ะครับ

จุน: ...เปลี่ยนไปจริงๆ นะครับเนี่ย~ นายน่ะ

HiMERU: ? ตรงไหนกันครับ? HiMERU ก็เป็น HiMERU ที่เที่ยงธรรมและสมบูรณ์แบบมาตลอดนี่ครับ?

จุน: เอาเถอะ คนเราก็เปลี่ยนกันได้ตลอดนี่เนอะ~ แต่เมื่อก่อนรู้สึกไม่ค่อยมั่นคงกว่านี้ หรือพยายามลากเลือดกว่านี้ดีー
อุตส่าห์มองว่าเป็นมนุษย์แบบเดียวกันกับผมแท้ๆ แต่นายในตอนนี้อย่างกับหุ่นยนต์เลยนะครับ

HiMERU: .........

Obbligato - ศรัทธาต่อคาเซฮายะ ทัตสึมิ/ตอนที่ 4

  <เวลาเดียวกัน ห้องโหลยโท่ยของโรงเรียนเรย์เมย์> ทัตสึมิ: ーครับ เท่านี้ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ คานาเมะ: ......... ทัตสึมิ: ผมขอให้ทุกคนออกไ...