วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2566

Obbligato - ศรัทธาต่อคาเซฮายะ ทัตสึมิ/ตอนที่ 1

 

<สามปีก่อน นหึ่งเดือนให้หลังจากพิธีปฐมนิเทศ ห้องโหลยโท่ยแห่งโรงเรียนเรย์เมย์>

จุน: หาว~,,, ฮู่ว♪
(เอาล่ะ หนึ่งวันอันแสนน่ารังเกียจก็เริ่มขึ้นอีกแล้ว~ ...ฮึ้บ)
(นับตั้งแต่ที่เข้าเรียนมา สถานการณ์ก็ไม่เคยหันกลับมาเป็นใจให้เราบ้างเลย ทุกวันๆ ก็ยังต้องคอยรับใช้เหล่าท่านๆ "นักเรียนทุน" เฮงซวยไม่เปลี่ยน แม่งเอ้ย)
(โรงเรียนเรย์เมย์นี่ ไม่ใช่ว่าเป็นโรงเรียนเสริมสร้างไอดอลหรือไง จนถึงตอนนี้เรายังไม่เคยได้ทำอะไรที่ดูสมเป็นไอดอลซักครั้งเลยนะ)
(แต่ยังไงซะ "เรื่องแบบนั้น" ก็คงเป็นเอกสิทธิ์พิเศษเฉพาะเหล่าท่านๆ "นักเรียนทุน" อยู่แล้ว)
(แบบนี้ทำให้รู้สึกว่าตอนก่อนมาเข้าเรียนยังได้ฝึกซ้อมอะไรเป็นชิ้นเป็นอันกว่านี้ซะอีก อันที่จริงก็แอบซ้อมด้วยตัวเองอยู่ด้วยก็เถอะ แต่มันก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน)
(แค่ซักเสื้อผ้า หาข้าวหาปลาให้ "นักเรียนทุน" ก็เหนื่อยจะแย่ พอกลับมาห้องโหลยโท่ยก็หมดแรงทำอะไรแล้ว)
(ถึงจะก็ฝืนซ้อมด้วยตัวเองอยู่ก็จริง แต่เหมือนกำลังเดินทางอ้อมแบบเปล่าประโยชน์อยู่เลย... จะบอกว่าเดินทางอ้อมหรือเปลืองเวลาดีล่ะ)
(แต่ก็ได้ยินมาว่าพวกโรงเรียนเบสบอลระดับโปรที่เค้าเคร่งๆ ก็แทบจะไม่ได้ให้นักเรียนใหม่ได้จับลูกในช่วงหนึ่งปีแรกด้วยนี่นะ)
(นี่เองก็อาจจะเป็นเวอร์ชั่นไอดอลก็ได้)
(ยังไงก็ยอมรับไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ~...! โถ่เว้ย ทำไมไม่เกิดอุบัติเหตุอะไรซักอย่างให้พวก "นักเรียนทุน" มันตายๆ กันไปให้หมดกันนะ?)

ทัตสึมิ: อรุณสวัสดิ์ครับ♪

จุน: หือ... โอ๊ะ อรุณสวัสดิ์ฮะ คาเซฮายะเซมไป
แบบว่า มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในห้องโหลยโท่ยนี่โดยสมบูรณ์แล้วสินะ ไอ้ผมก็นึกว่าจะโอดโอยยอมแพ้แล้วออกไปตั้งแต่เนิ่นๆ ซะอีก

ทัตสึมิ: หากปล่อยวางอะไรก็ทำได้ล่ะครับ หากลองมองดูทุกมุมโลกแล้ว ยังมีผู้คนที่ต้องอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายกว่านี้อีกมากมายเลยฮะ
เช่นนั้น มนุษย์ที่พรั่งพร้อมเช่นผม จะมัวแต่พร่ำบ่นถึงความไม่เป็นธรรมอยู่ได้อย่างไรล่ะครับ

จุน: อย่างนั้นเองเหรอครับ ว่าแต่ "นักเรียนทุน" ทั่วไปที่สามารถไปใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่พรั่งพร้อมถึงขนาดนั้นได้อย่างนาย ทำไมถึงต้องมาเกลือกกลั้วอยู่ที่จุดต่ำตมอย่างนี้ล่ะฮะ
ที่ถามคำถามเดิมซ้ำๆ หลายรอบมันก็ แบบว่า เกรงใจอยู่หรอกนะครับ

ทัตสึมิ: ไม่ต้องฝืนพูดสุภาพก็ได้นะครับ คำพูดน่ะ ขอแค่สื่อสารกันได้ผมก็ไม่ถือสาอยู่แล้ว

จุน: ทำงั้นได้ที่ไหนเล่า พื้นฐานคนเรามันก็มีแต่พวกเฮงซวยที่ชอบพูดแทรกแล้วว่าร้ายโจมตีคนอื่นเท่านั้นล่ะครับ

ทัตสึมิ: อย่างนั้นเองเหรอครับ ฮึฮึ พอได้พูดคุยกับจุนซังแล้วก็ได้เรียนรู้ขึ้นเยอะเลย

จุน: (แปลกคนจังแฮะ... มันยังไงกันแน่เนี่ย)
(ตามข่าวลือแล้ว เหมือนว่าจะยื่นเรื่องขอให้เพิกถอนตัวเองจากการเป็น "นักเรียนทุน" กับทางโรงเรียน แล้วโดนปฏิเสธอยู่ด้วย)
(หรือว่าจะไปกันไม่สวยกับพวก "นักเรียนทุน" ด้วยกันเองหรือเปล่านะ)
(แต่ว่า เท่าที่เห็นคาเซฮายะเซมไปตอนอยู่ในตึกเรียนส่วนใหญ่ก็จะสนิทสนมกับทั้ง "นักเรียนทุน" และ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" เหมือนๆ กันหมดนี่นา)
(ในโรงเรียนเรย์เมย์นี้ที่เข้มงวดเรื่องความสัมพันธ์สูงต่ำโดยสมบูรณ์แบบ มีแค่คนๆ นี้ที่เป็น "ข้อยกเว้น")
(เป็นตัวอะไรกันแน่เนี่ย~... ไอดอลก็ไม่ได้สนใจไอดอลคนอื่น โดยเฉพาะไอดอลนักเรียนที่เหมือนยังไม่ฟักจากไข่ดีเลยซักนิด ก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ด้วย)
(พอลองค้นดูแล้ว คาเซฮายะเซมไปก็เดบิ้วเป็นไอดอลในฐานะ "นักเรียนทุน" ตามปกติ แถมโด่งดังสุดๆ ไปเลยด้วย)
(เพราะพวกเจ้าใหญ่ๆ ในวงการนี้พักหลังไม่ค่อยเตะตาต้องใจฝั่งยูเมะโนะซากิเท่าไหร่ โดยเฉพาะปีที่แล้วก็เลยยิ่งพากันคว้าตัวไอดอลชายหนุ่มๆ ในระดับชนชั้นที่ต้องการกันใหญ่)
(แน่นอนว่าส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะสังเวยไอดอลคนอื่นๆ นอกเครือคอสโปร กับ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" อย่างพวกเราไปด้วยก็เถอะ แต่ท่าทางจะทำให้เหลิงกันใหญ่เลย)
(แล้วคนๆ นี้ แม้แต่ในหมู่คนเหล่านั้นก็ยังอยู่ในระดับโดดเด่น)
(ถึงอย่างนั้นแต่ก็ไม่ได้เริงร่าแล้วใช้ชีวิตอย่างหรูหรา แต่กลับมาเกลือกกลั้วใช้ชีวิตอยู่กับคนระดับต่ำอย่างพวกเราในห้องโหลยโท่ย แถมยังดื่มชาสูตรบ้านตัวเองอยู่อีก)

ทัตสึมิ: ...? จุนซังก็จะเอาชาด้วยเหรอครับ?

จุน: เอาสิครับ ช่วงนี้รู้สึกว่านอนยังไงก็ไม่หายเหนื่อยเลย ดื่มซักหน่อยให้สร่างง่วงดีกว่า~...

ทัตสึมิ: พูดจาอย่างกับเป็นคนวัยกลางคนที่อิดโรยเลยนะครับ จุนซังยังหนุ่มอยู่เลยนะ

จุน: นายเองก็เหมือนกันแหละ เฮ้อ ชาอร่อยจัง เจ้านี่เป็นสิ่งบันเทิงอันน้อยนิดในการใช้ชีวิตอยู่ในเรย์เมย์เลยนะครับ

ทัตสึมิ: ฮึฮึ ถ้าทำให้คุณรู้สึกดีได้บ้าง ผมก็โชคดีที่ได้มาเป็นไอดอลแล้วล่ะครับ
แต่ว่า ดูท่าทางเหนื่อยล้าจริงๆ ด้วยสิ...
ที่รู้สึกเหนื่อยไม่หายอาจเป็นเพราะอาการเครียดก็ได้นะครับ ก่อนที่มันจะหนักข้อก็มาปรึกษาปัญหาเล็กๆ น้อยๆ บ้างได้นะ
หากไม่รังเกียจล่ะก็ ผมพร้อมที่จะรับฟังทุกเมื่อครับ

จุน: งั้นก็พอดีเลยล่ะครับ~ นายเนี่ย ยังไงก็คงจะพูดแบบนี้กับทุกคนเลยใช่ไหมล่ะ
เพราะงั้นก็เลยมีพวกหน้าตาซังกะตายโผล่มาห้องโหล่ยโท่ยนี่ระบายให้นายรับฟังอยู่ทุกวัน...
ทำเอาเริ่มคิดขึ้นมาแล้วนะครับว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาลหรือสถานศาสนาหรือเปล่า


ทัตสึมิ: ขอโทษนะครับที่ทำให้ต้องวุ่นวายตลอด ผมก็บอกทุกคนอยู่เสมอนะว่าถ้าเป็นไปได้อย่ามาที่นี่ดีกว่า
พวกอาจารย์เองก็ดูจะไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ด้วย เพราะกฎโรงเรียนค่อนข้างเข้มงวดสำหรับนักเรียนที่ไม่ใช่นักเรียนทุน ถ้าที่นี่เกิดกลายเป็นเหมือนแหล่งซ่องสุมขึ้นมาเดี๋ยวจะถูกว่ากล่าวตักเตือนเอาได้

จุน: แต่ก็ไม่เห็นเป็นไรใช่ไหมล่ะ ไม่ว่าใครก็อยากมีสถานที่ให้หนีไปได้กันทั้งนั้น
ก่อนที่ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" ที่ถูกกลั่นแกล้งจะเครียดฝังหัวจนจบชีวิตตัวเองแล้วไปสวรรค์ของจริงเข้า ก็จะมีนายที่อยู่ในห้องโหล่ยโท่ยนี่คอยหยุดยั้งคนพวกนั้นไง
พอคิดแบบนั้นแล้ว ทั้งที่แค่ใช้ชีวิตอาศัยอยู่ใกล้กันเฉยๆ แท้ๆ แต่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเกี่ยวพันกับเรื่องที่สูงส่งไปด้วยเลยー แบบว่า ยังไงดีล่ะ รู้สึกขอบคุณน่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Obbligato - ศรัทธาต่อคาเซฮายะ ทัตสึมิ/ตอนที่ 4

  <เวลาเดียวกัน ห้องโหลยโท่ยของโรงเรียนเรย์เมย์> ทัตสึมิ: ーครับ เท่านี้ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ คานาเมะ: ......... ทัตสึมิ: ผมขอให้ทุกคนออกไ...