วันพุธที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2566

Obbligato - ศรัทธาต่อคาเซฮายะ ทัตสึมิ/ตอนที่ 4

 

<เวลาเดียวกัน ห้องโหลยโท่ยของโรงเรียนเรย์เมย์>

ทัตสึมิ: ーครับ เท่านี้ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ

คานาเมะ: .........

ทัตสึมิ: ผมขอให้ทุกคนออกไปข้างนอกก่อนแล้วล่ะครับ
แถมล็อกประตูเข้าออกเอาไว้อย่างแน่นหนา ตั้งบาริเคทเผื่อเอาไว้ แล้วก็แน่นอนว่าปิดหน้าต่างเอาไว้แล้วด้วยครับ
ตอนนี้ที่นี่เป็นห้องลับที่เหมือนกับห้องสารภาพบาปแล้วล่ะครับ ไม่ว่าคุณจะกล่าวอะไร ผู้ที่ฟังอยู่ก็จะมีเพียงพระเจ้ากับผมเท่านั้น
โปรดวางใจ และระบายปัญหามาเถอะครับ

คานาเมะ: .........

ทัตสึมิ: อย่ากลัวไปเลยนะครับ นี่ไง ที่นี่ไม่มีคนอื่นนอกจากผมกับคุณเลยนะครับ
แล้วก็ ผมจะไม่ขยับไปไหน จนกว่าคุณจะเปิดปากพูดอะไรครับ จะกี่วันหรือกี่สัปดาห์ ก็ขอนั่งรออยู่ตรงนี้จนกว่าคุณจะเริ่มพูดเอง

คานาเมะ: เพื่ออะไร...? อะไรของเธอครับเนี่ย...?

ทัตสึมิ: ในที่สุดก็เปิดปากพูดแล้วสินะครับ ต้องแบบนั้นสิ♪
แล้วก็ อาจจะแนะนำตัวช้าไปหน่อย แต่ผมชื่อคาเซฮายะ ทัตสึมิครับ
จำว่าเป็น สายลมอันรวดเร็วที่พัดพามาจากฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ก็ได้ อ๋อ ส่วนทัตสึมิ(巽) ก็หมายถึงมังกรกับงู(辰巳) สมัยก่อนสื่อถึงตะวันออกเฉียงใต้น่ะครับ
ฮึฮึ ตะวันออกเฉียงใต้(Tounan) ฟังเหมือนคำว่าขโมย(Tounan) ดูไม่ดีเท่าไหร่เลยสินะครับ

คานาเมะ: คาเซฮายะ ทัตสึมิー

ทัตสึมิ: ครับ เชิญเรียกตามที่สะดวกได้เลยนะ จะ "คาเซฮายะเซมไป" หรือ "ทัตสึมิคุง" ก็ได้ แต่ช่วงนี้ตาม TV ชอบเรียกผมว่า "คุณนักบวช" ซะด้วย
เหมือนแนวศาสนาจะได้รับความนิยมน่ะครับ ฮะๆๆ ถึงตามนิกายผมจะไม่เรียกกันว่านักบวชก็เถอะ แต่ใช้คำเรียกแบบนั้นมันเป็นที่รู้จักกันมากกว่าน่ะครับ

คานาเมะ: ทำไมเธอ ถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะครับ...?

ทัตสึมิ: คุณเองก็เหมือนกัน เออ รู้สึกว่า HiMERUซัง จะเป็น "นักเรียนทุน" นี่นา น่าจะได้รับห้องส่วนตัวหรูหราที่หอพักใหม่ไม่ใช่เหรอครับ
ถึงเรื่องนั้นผมเองจะเหมือนกันก็เถอะ ได้ห้องกว้างขวางขนาดนั้นมาก็ไม่รู้จะใช้ทำอะไรอยู่ดี ช่วงนี้ก็เลยปรับปรุงให้เป็นห้องฝึกซ้อมสำหรับให้ทุกคนได้ใช้น่ะครับ
แล้วก็เปิดให้ใช้งานแบบฟรีๆ เป็นสถานที่พบปะและฝึกซ้อมของทุกคน ถึงเด็กในหอพักคนอื่นๆ จะไม่ค่อยพอใจที่มีคนเข้าออกมากๆ จนเกิดเสียงดังอึกทึกก็เถอะ

คานาเมะ: อา เหมือนจะเคยได้ยินเรื่องนั้นอยู่ครับ ว่ามี "นักเรียนทุน" ที่ไปกลับจากบ้านมากขึ้นเพราะหอพักเริ่มไม่น่าอยู่น่ะ

ทัตสึมิ: อย่างนั้นสินะครับ อืม~ ผมก็ตั้งใจทำให้มีบรรยากาศน่าอยู่เท่าที่ทำได้แล้วเชียวนะ
ไม่ว่าเมื่อไหร่ ความเห็นของผมกับ "นักเรียนทุน" คนอื่นก็ไม่ค่อยลงรอยกันเลยนะครับ ถึงจะมีเด็กที่ยอมเข้าใจการกระทำของผม ค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาทีละนิดก็เถอะ
หนทางยังอีกยาวไกล บททดสอบยังคงไม่มีสิ้นสุดครับ
ฮึฮึ น่าตื่นเต้นจังเลยนะครับ

คานาเมะ: .........

ทัตสึมิ: โอ๊ะ ตอนนี้เรื่องของผมจะอย่างไรก็ช่างเถอะครับ ยิ่งไปกว่านั้น HiMERUซัง ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่งั้นเหรอครับ?
คิดว่าถ้ามัวแต่นั่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน เด็กหอคนอื่นๆ จะลำบากเพราะไม่มีที่ให้นอนเอานะครับ อ๋อ ไม่ได้จะว่าอะไรคุณหรอกนะครับ แค่ตั้งคำถามเฉยๆ

คานาเมะ: ...เธอนั่นล่ะครับที่ทำอะไรอยู่? ถ้าบอกว่าปรับปรุงห้องส่วนตัวในหอไปแล้ว ก็แปลว่าไม่มีที่ให้นอนแล้วน่ะสิ?

ทัตสึมิ: สงสัยเรื่องของผมขนาดนั้นเลยเหรอครับ
สำหรับผมแล้ว ขอแค่มีถุงนอนไม่ว่าที่ไหนก็หลับได้ทั้งนั้น ช่วงนี้มักทำกิจกรรมจนดึกดื่นเลยจะไปนอนที่คาตาคอมส์(สุสานใต้ดิน) น่ะครับ
สนุกเหมือนได้ตั้งแคมป์ทุกวันเลยล่ะครับ ได้ทำบาร์บีคิวกับทุกคนด้วย

คานาเมะ: ถึงผมจะไม่ได้บ้าแต่ไม่เข้าใจคำที่เธอเลยซักนิดเดียวครับ ฟังดูไม่เหมือนเรื่องของคนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนเดียวกันได้เลย

ทัตสึมิ: ฮึฮึ สำหรับ "นักเรียนทุน" แล้ว คงทนมองคนที่ไม่ได้เป็นอย่างตัวเองได้ยากสินะครับ
ดังนั้นผมจึงอภัยให้ตัวเองที่เคยเป็นแบบนั้นไม่ได้เหมือนกัน ตอนนี้ถึงพยายามข้องเกี่ยวกับพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ไงล่ะครับ

คานาเมะ: ...เธอ เกลียดการที่ตัวเองเป็น "นักเรียนทุน" เหรอครับ

ทัตสึมิ: ก็ไม่ได้ถึงกับเกลียดหรอกครับ แต่โครงสร้างของโรงเรียนเรย์เมย์อันไม่เป็นธรรมที่มั่นคงได้จากการที่ผู้อ่อนแอถูกเหยียบย่ำนั้น ผมคิดว่ามันจำเป็นต้องเปลี่ยนครับ
การกระทำของผมในตอนนี้ ก็เป็นการประท้วงเล็กๆ น้อยๆ ต่อโครงสร้างนั้นเช่นกัน

คานาเมะ: ถ้าเกลียดการที่เป็น "นักเรียนทุน" ถึงขนาดนั้นล่ะก็ー

ทัตสึมิ: ......!?
หวา... โดนผลักจนล้มซะแล้วสิ ปกติไม่ค่อยได้ใกล้ชิดผู้อื่นถึงขนาดนี้เท่าไหร่ ทำเอาใจเต้นเลยนะครับ ฮึฮึ

คานาเมะ: คาเซฮายะ ทัตสึมิ、คาเซฮายะ ทัตสึมิ、คาเซฮายะ ทัตสึมิー

ทัตสึมิ: ครับ ผมคือคาเซฮายะ ทัตสึมิครับ ดีใจจังที่จำชื่อกันได้

คานาเมะ: หนึ่งในจุดสูงสุดของนักเรียนไอดอล ผู้โดดเด่นที่สุดแม้ในหมู่ "นักเรียนทุน" ของโรงเรียนเรย์เมย์ด้วยกันเอง เด็กอัจฉริยะผู้เดินอยู่ในเส้นทางแห่งความรุ่งโรจน์อันเปล่งประกาย ยอดคนแห่งยุคสมัย

ทัตสึมิ: ก็รู้อยู่แล้วล่ะครับว่าตัวเองมีชื่อเสียงในแบบนั้น

คานาเมะ: ชื่อเสียงนั้น ยศฐานั่น ทั้งที่มันคู่ควรกับผมมากกว่าแท้ๆ

ทัตสึมิ: จำได้ว่าคุณเอง ก็มีชื่อเสียงพอๆ กันนะครับ

คานาเมะ: ขอเถอะ ขอทีเถอะครับ... ขอร้องล่ะ ขอจุดยืนนั้นของเธอให้ผมทีเถอะ

ทัตสึมิ: .........?

คานาเมะ: ...ถ้าไม่ได้เป็น "นักเรียนทุน" แล้วล่ะก็ ผมก็ไม่มีค่าจะมีชีวิตอยู่หรอก

วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2566

Obbligato - ศรัทธาต่อคาเซฮายะ ทัตสึมิ/ตอนที่ 3

 

จุน: (เฮ้อ~ อุตส่าห์เป็นพักกลางวันแท้ๆ)
(คาเซฮายะเซมไป ดันบอกว่าอยากจะคุยกับโทโจ คานาเมะー ไม่สิ ต้องเรียกว่า HiMERU สินะ บอกว่าอยากคุยกับหมอนั่นสองต่อสอง)
(ก็เลยให้ทุกคนออกมาข้างนอกจนเข้าไปในห้องโหลยโท่ยไม่ได้แล้ว อันที่จริงคาเซฮายะเซมไปก็ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก แต่ก็แย่ล่ะสิ)
(เพราะปกติคาเซฮายะเซมไปจะทำข้าวกลางวันให้ ก็เลยไม่ได้เตรียมข้าวกล่องหรืออะไรเอาไว้เลย)
(ช่วยไม่ได้ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" ออกไปนอกเขตโรงเรียนเรย์เมย์โดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ได้ซะด้วยー)
(แค่ก้าวเท้าออกไปนิดเดียว ก็โดนโกรธ หาว่า "หลบหนี!" แล้ว)
(หิวจนไส้จะกิ่วแล้วด้วย รีบวิ่งไปให้ถึงร้านสะดวกซื้อดีไหมนะ ถึงจะไกลก็เหอะ ไหงถึงมาตั้งอยู่ในสถานที่ที่อย่างกับเกาะร้างอย่างนี้เนี่ย ไอ้โรงเรียนเรย์เมย์)
(จะซื้อจากร้านขายของในโรงเรียนก็ได้อยู่หรอก แต่โรงเรียนเรารวมหัวกับพ่อค้าหรือไงก็ไม่รู้ ถ้าขายให้พวกเราที่ไม่ได้มีส่วนลดเหมือนอย่าง "นักเรียนทุน" แล้ว ราคาจะแพงเป็นบ้าเป็นหลังเลย)
(ขนาดเรื่องแบบนี้ยังโดนแบ่งแยกชนชั้นเลย น่าหงุดหงิดชะมัด... หือ?)
(อ้าว? เหมือนมีควันลอยขึ้นมาจากทางฝั่งโน้น...?)
หรือว่า จะไฟไหม้? ชิบแล้ว ถังดับเพลิง ถังดับเพลิงอยู่ไหน...!?
เอ๊ะ อ้าว? เฮ้~ นาย โทโจเซมไปเหรอ?
ทะ ทำไมถึงมาก่อกองไฟแถวนี้เนี่ย...? นึกว่าไฟไหม้ซะอีก ตกใจหมด~!
อ๋อ ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องก้มหัวให้ผมปลกๆ ก็ได้ ผมไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร "ไม่ใช่นักเรียนทุน" แถมยังเป็นนักเรียนใหม่วรรณะต่ำสุดด้วย
หือ? ถึงอย่างนั้นนายก็ยังลำดับต่ำกว่าผม? หมายความว่าไง?
ยิ่งไปกว่านั้น ดูดีๆ แล้วกำลังวางตะแกรง ย่างเนื้อกับผักน่าอร่อยอยู่บนกองไฟไม่ใช่หรือไงครับเนี่ย! ขอผมกินบ้างได้หรือเปล่า~?
ที่จริงแล้วมันเกิดเรื่องอย่างงู้นอย่างงี้ ปล่อยไว้ต้องอดข้าวกลางวันแน่ๆ เลยครับ
อ๋อ OK สินะครับ งั้นก็ขอร่วมวงด้วยไม่เกรงใจนะครับ~
เฮะๆ ก็คิดมาตั้งแต่ตอนเจอกันครั้งแรกแล้วนะครับ นายเนี่ยเป็นคนดีจังเลยนะ โทโจเซมไป ถึงการกระทำจะลึบลับไปหน่อยก็เหอะ
ว่าแต่ นายเนี่ย ปกติจะไปทำอะไรอยู่ที่ไหนเหรอ? ไม่เคยเห็นอยู่ที่ห้องโหลยโท่ยหรือห้องเรียนของ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" เลย แปลว่านายเป็น "นักเรียนทุน" เหรอ?
ไม่ใช่? อยู่นอกเหนือจากระบบแบ่งชนชั้นพวกนั้น? ก็แล้วมันหมายความว่ายังไงกันแน่เล่า?
เออ ไม่ได้จะว่าอะไรซะหน่อย... แบบว่า ขอโทษนะครับ ที่ทำตัวปากเสียไปหน่อย ทั้งที่ทางนั้นอยู่ปีสูงกว่าแท้ๆ
อ๊ะ ครับ ขอรับเนื้อไปนะครับ ขอบคุณสำหรับอาหาร
ง่ำๆ อร่อยจัง แต่ว่า นี่มันเนื้ออะไรเหรอครับ...?
อ๊ะ จะว่าไปก็อยากถามเรื่องนี้เหมือนกัน นายเนี่ย รู้จักคนชื่อโทโจ คานาเมะหรือเปล่า? เค้าเป็นญาติหรืออะไรกับนายหรือเปล่า?
แบบว่า~ รู้สึกว่าเหมือนกันอยู่หน่อยๆ น่ะ... โครงหน้างี้ นามสกุลก็เหมือนกัน ไม่คิดว่าจะบังเอิญหน้าคล้ายกันเฉยๆ ด้วย
ーเหวอ!?
อะ อะไรเนี่ย? มากันไม่หยุดไม่หย่อนเลย!



อิบาระ: ขออภัย! พวกคนตรงนั้น ได้รับบาดเจ็บหรือเปล่าครับ!

จุน: (หา? อะไรเนี่ย ไอ้รถสุดหรูนี่? พุ่งเข้ามาแบบเร็วจี๋เลย...!)

อิบาระ: ขอโทษด้วยจริงๆ ครับ! ไม่นึกว่าจะมีคนมานั่งทานอาหารกันอยู่ในที่แบบนี้!
เกือบจะเผลอชนเข้าซะแล้วครับ! เดี๋ยวเราจะตักเตือนคนขับรถอย่างเข้มงวดที่หลัง โปรดยกโทษให้ด้วยเถอะครับ!

จุน: หา? ว่าแต่ นายเป็นใครมาจากไหนเนี่ย? ไม่ใช่ชุดโรงเรียนเรานี่นา...?

อิบาระ: อ๊า แนะนำตัวช้าไปซะแล้วสิ! รับนี่ไปสิครับ!

จุน: (หืม? อะไรของหมอนี่ อายุพอๆ กับเราแท้ๆ ดันยื่นนามบัตรมาให้ด้วยท่าทางอวดเบ่งเฉยเลย...?)
(ไหนๆ? [ปีหนึ่งโรงเรียนชูเอทสึ/นักเรียนทุน ซาเอกุสะ อิบาระ(七種 茨)]...? ชื่ออ่านว่าอะไรฟะเนี่ย? นานะ ทาเนะ อะไร๊? ชื่อแปลกชะมัด! นี่ก็ชื่อในวงการเหรอ?)
(ว่าแต่ ชูเอทสึนี่ มันโรงเรียนโคตรหัวกะทิที่ทุกคนเป็น "นักเรียนทุน" ไม่ใช่เหรอ)
(เป็นแหล่งรวมของ "ไอดอลผู้เป็นเลิศที่สุด" ที่คัดเลือกมาจากโรงเรียนในเครือคอสโปรทั่วประเทศ)
(หมอนี่ เป็นนักเรียนของที่นั่นเหรอ? ด้วยอายุเท่ากับเรา? นี่น่ะเหรอชนชั้นสูง โลกที่อยู่มันต่างกันจริงๆ น๊า~...?)

อิบาระ: ขอโทษด้วย! พอดีว่ากำลังรีบอยู่ ต้องขอตัวเท่านี้ก่อน! หากมีอะไรอยากจะกล่าวล่ะก็ โปรดใช้ช่องทางติดต่อบนนามบัตรนั่นนะครับ!
เช่นนั้นก็ ขออภัยด้วย! ต้องขออภัยยิ่งเป็นอย่างสูงจริงๆ ครับ!

จุน: (ฮะๆ ขับรถหรูแล่นฉิวหายไปแล้ว ไม่หันมองมาทางนี้ซักนิด ไม่อยู่ในสายตาเลยสินะ โคตรน่าหงุดหงิด)
(หมอนั่นกับเรา มีอะไรที่แตกต่างกันกันนะ?)

Obbligato - ศรัทธาต่อคาเซฮายะ ทัตสึมิ/ตอนที่ 2

 

<พักกลางวันของวันนั้น>

จุน: ฮ้าว...♪
(เฮ้อ~ จะนอนเท่าไหร่ก็ไม่หายเหนื่อยจริงๆ แฮะ ทั้งที่ก็แทบไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ๆ ชักจะเริ่มน่ารำคาญแล้วสิ)
(ยังไงก็ต้องเอาความกระปรี้กระเปร่ากลับมาให้ได้ ไม่งั้นเดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไปก่อน)
(ฉะนั้นแล้ว ในที่สุดก็ถึงเวลาแห่งการเยียวยาเพียงหนึ่งเดียวภายในคืนวันที่เหมือนกับนรก พักกลางวันนั่นเอง~♪)
(ถึงตามตึกเรียนจะมีพวก "นักเรียนทุน" เกะกะขวางตา ที่ชอบสั่งนู่นสั่งนี่จนไม่ได้พักอยู่ด้วยก็จริง)
(แต่ "นักเรียนทุน" ชอบคิดว่าห้องโหลยโท่ยสกปรกโสโครกก็เลยไม่เข้ามาเฉียด ค่อยนอนกลางวันได้สบายใจหน่อย...♪)
(แล้วก็ ไม่รู้หรอกนะเพราะอะไร แต่ช่วงนี้คาเซฮายะเซมไปชอบทำอาหารหรือขนมอร่อยๆ มาจากจ่ายทุกคนด้วย)
(นั่นเองก็เป็นความตื่นเต้นในทุกๆ วันเหมือนกัน...)
(เพราะ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" ทุกคนต่างก็ลำบากเรื่องค่าเทอมกัน แค่ได้ข้าวฟรีก็น่าขอบคุณมากแล้ว แล้วการนั่งล้อมวงกินข้าวพลางคุยเรื่องสัพเพเหระกันก็สนุกดีด้วย)
(พักกลางวันนี่แหละคือการเยียวยาเพียงหนึ่งเดียว! เป็นการพักผ่อนโดยแท้จริง~♪)
(...ที่จริงก็อยากใช้เวลาว่างในการฝึกซ้อมอยู่หรอก แต่แทบจะไม่มีโอกาศได้ทำแบบนั้นอยู่แล้ว แบบว่า คนจนก็ไร้ทางเลือกงี้แหละ)

ทัตสึมิ: .........

จุน: หืม? อ้าว คาเซฮายะเซมไป...?
ทำอะไรเหรอครับ ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าออกแบบนั้นมันเกะกะคนอื่นนะ

ทัตสึมิ: อา จุนซัง สวัสดีครับ

จุน: อุส ดีคร้าบ~

ทัตสึมิ: ครับ จุนซังเริ่มทักทายคนอื่นเป็นแล้ว เก่งมากเลยนะครับ เด็กดีๆ

จุน: ...ก็ไม่ได้ทำอะไรให้น่าโดนชมซักหน่อยครับ

ทัตสึมิ: ไม่หรอกครับ มีแต่เรื่องควรชมทั้งนั้นเลยนะ พวกคุณน่ะ เก่งแล้วที่เดินด้วยขาของตัวเองได้ เก่งแล้วที่เอื้อนเอ่ยคำพูดได้ เก่งแล้ว ที่มีลมหายใจอยู่...♪
เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน นี่มันเกิดเรื่องอะไรเหรอครับ? ทำความเข้าใจสถานการณ์ไม่ได้ จนทำเอาลังเลที่จะเข้าห้องเลยนะครับ?

จุน: หือ? หมายถึงเรื่องอะไร... เออ เหวอ!?


คานาเมะ: อ๊าาาาาาาาา
อ๊าาาาาาา อ๊าาาาาาาาาาาา อ๊าาาาาาาาาาา

จุน: นี่อะไรเนี่ย!?

ทัตสึมิ: นั่นน่ะสิ... มันเรื่องอะไรกันนะครับ ทุกคนก็ดูท่าทางสับสน เลยเอาแต่มองห่างๆ อย่างกลัวๆ น่ะ
เหมือนว่าจะไม่มีใครรู้ต้นสายปลายเหตุเลย แย่จังนะครับ

จุน: งะ งั้นก็เรียกอาจารย์มาน่าจะดี... ก็คงเปล่าประโยชน์สินะ พวกอาจารย์ไม่มีทางจะเคลื่อนไหวเพื่อ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" อยู่แล้ว

ทัตสึมิ: ไม่ได้มีแต่อาจารย์แบบนั้นหรอกนะครับ แต่ว่า ตัดสินใจลำบากน่าดูเลยว่าจะเรียกอาจารย์มาให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ดีหรือเปล่า
ทำแบบไหนถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับเขาー สำหรับ HiMERUซังนั้น ต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนค่อยตัดสินใจ

จุน: ฮิเมรุ...?

ทัตสึมิ: อ้าว ไม่ทราบหรอกเหรอครับ เขาเป็นเหมือนตัวแทนของ "นักเรียนทุน" ในหมู่นักเรียนเข้าใหม่ ไอดอลชื่อดัง HiMERUซังไงครับ

จุน: อ้าว? ชื่อนั้นหรอกเหรอเนี่ย...?
(ไม่สิ เหมือนตอนพิธีปฐมนิเทศน์จะแนะนำตัวเองว่าชื่อโทโจ คานาเมะนี่นา? หรือคนละคน? ไม่สิแต่ว่า ดูยังไงก็คนเดียวกันชัดๆ...?)
(...ว่าไปแล้วถึงจะไม่เกี่ยวกับตอนนี้ก็จริง "โทโจเซมไป" ที่หน้าตาเหมือนโทโจ คานาเมะคนนั้นเค้าไปทำอะไรอยู่ที่ไหนแล้วกันนะ? หลังเข้าเรียนมาก็ไม่เคยเจอกันเลย?)
(ที่ไม่เคยเจอแถวห้องโหลยโท่ย แปลว่าคนๆ นั้นเองก็เป็น "นักเรียนทุน" เหรอ?)

ทัตสึมิ: ฮึฮึ เหมือนว่า HiMERU จะเป็นชื่อในวงการนะครับ ถึงที่ยูเมะโนะซากิจะมีธรรมเนียมให้ใช้ชื่อจริงก็เถอะ แต่โรงเรียนเราก็มีอยู่เยอะเลยนะครับー ไอดอลที่ใช้ชื่อในวงการน่ะ
แล้วก็ในโรงเรียนเรย์เมย์นี้ บุคคลใดที่มีความน่าเคารพนับถือในฐานะไอดอล เราก็จะเรียกเขาด้วยชื่อในวงการน่ะครับ

จุน: งั้นเหรอครับเนี่ย งี้นี่เองー ชื่อในวงการสินะ?

ทัตสึมิ: แล้ว จุนซังเนี่ย ใช้ชื่อจริงตามปกติเลยสินะครับ?

จุน: ครับ เพราะว่าเข้าเรียนมาด้วยชื่อจริงโดยไม่ได้คิดอะไร เลยโดนหัวเราะเยาะว่าเป็น "ลูกชายของหมาขี้แพ้" เลยเนี่ย แม่งเอ้ย
ไม่รู้หรอกนะว่าใครเอาไปป่าวประกาศ แต่ข่าวลือแย่ๆ แบบนั้นมันแพร่กันเร็วจังนะครับ

ทัตสึมิ: นั่นสินะครับ ในโรงเรียนเรย์เมย์ที่เข้มงวดเรื่องการแบ่งชนชั้น "ความเป็นจริงที่มีไว้เหยียดหยามผู้อื่น" ถือเป็นอาวุธเพื่อให้ตนเองไต่เต้าขึ้นสูงได้น่ะครับ
เป็นอาวุธเพียงหนึ่งเดียว ที่เปลียนแปลงสถานการณ์ปัจจุบันได้เลย
ดังนั้นเรื่องถึงแพร่ไปไกลไงล่ะครับ ไม่ดีเลยนะครับ ไม่ดีเลยจริงๆ
ยังไงก็ต้องเปลี่ยนแปลงจริงๆ ด้วย โลกอันแสนเศร้าใบนี้ที่ไม่ว่าใครต่างก็ทำร้ายกันและกันได้โดยง่าย

จุน: ...?

ทัตสึมิ: ที่สำคัญกว่านั้น ทุกคนดูจะลำบากใจกันอยู่ด้วย เดี๋ยวขอลองไปคุยกับ HiMERUซังดูก่อนนะครับ
ถ้าเค้ามีปัญหาอะไร ก็อยากจะช่วยให้คำปรึกษาน่ะครับ

จุน: แบบว่า อย่าไปยุ่งมากนักจะดีกว่าหรือเปล่าครับ? ไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เจ้าหมอนั่นเอาแต่ส่งเสียงแปลกๆ แล้วอาละวาดไม่หยุดเลย

ทัตสึมิ: ไม่ว่าใครสมัยเป็นทารกยามแรกเกิดก็เป็นแบบนั้นกันทั้งนั้นล่ะครับ และหากอีกฝ่ายเป็นทารก การจะยื่นมือไปโอบอุ้มก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วครับ
ผม อยากจะทำเรื่องธรรมดาๆ แบบนั้นล่ะครับ ถือเป็นเรื่องแน่นอนในฐานะมนุษย์
HiMERUซัง ผมจะขอมอบในสิ่งที่คุณปรารถนา ให้จงได้เลยครับ

วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2566

Obbligato - ศรัทธาต่อคาเซฮายะ ทัตสึมิ/ตอนที่ 1

 

<สามปีก่อน นหึ่งเดือนให้หลังจากพิธีปฐมนิเทศ ห้องโหลยโท่ยแห่งโรงเรียนเรย์เมย์>

จุน: หาว~,,, ฮู่ว♪
(เอาล่ะ หนึ่งวันอันแสนน่ารังเกียจก็เริ่มขึ้นอีกแล้ว~ ...ฮึ้บ)
(นับตั้งแต่ที่เข้าเรียนมา สถานการณ์ก็ไม่เคยหันกลับมาเป็นใจให้เราบ้างเลย ทุกวันๆ ก็ยังต้องคอยรับใช้เหล่าท่านๆ "นักเรียนทุน" เฮงซวยไม่เปลี่ยน แม่งเอ้ย)
(โรงเรียนเรย์เมย์นี่ ไม่ใช่ว่าเป็นโรงเรียนเสริมสร้างไอดอลหรือไง จนถึงตอนนี้เรายังไม่เคยได้ทำอะไรที่ดูสมเป็นไอดอลซักครั้งเลยนะ)
(แต่ยังไงซะ "เรื่องแบบนั้น" ก็คงเป็นเอกสิทธิ์พิเศษเฉพาะเหล่าท่านๆ "นักเรียนทุน" อยู่แล้ว)
(แบบนี้ทำให้รู้สึกว่าตอนก่อนมาเข้าเรียนยังได้ฝึกซ้อมอะไรเป็นชิ้นเป็นอันกว่านี้ซะอีก อันที่จริงก็แอบซ้อมด้วยตัวเองอยู่ด้วยก็เถอะ แต่มันก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน)
(แค่ซักเสื้อผ้า หาข้าวหาปลาให้ "นักเรียนทุน" ก็เหนื่อยจะแย่ พอกลับมาห้องโหลยโท่ยก็หมดแรงทำอะไรแล้ว)
(ถึงจะก็ฝืนซ้อมด้วยตัวเองอยู่ก็จริง แต่เหมือนกำลังเดินทางอ้อมแบบเปล่าประโยชน์อยู่เลย... จะบอกว่าเดินทางอ้อมหรือเปลืองเวลาดีล่ะ)
(แต่ก็ได้ยินมาว่าพวกโรงเรียนเบสบอลระดับโปรที่เค้าเคร่งๆ ก็แทบจะไม่ได้ให้นักเรียนใหม่ได้จับลูกในช่วงหนึ่งปีแรกด้วยนี่นะ)
(นี่เองก็อาจจะเป็นเวอร์ชั่นไอดอลก็ได้)
(ยังไงก็ยอมรับไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ~...! โถ่เว้ย ทำไมไม่เกิดอุบัติเหตุอะไรซักอย่างให้พวก "นักเรียนทุน" มันตายๆ กันไปให้หมดกันนะ?)

ทัตสึมิ: อรุณสวัสดิ์ครับ♪

จุน: หือ... โอ๊ะ อรุณสวัสดิ์ฮะ คาเซฮายะเซมไป
แบบว่า มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในห้องโหลยโท่ยนี่โดยสมบูรณ์แล้วสินะ ไอ้ผมก็นึกว่าจะโอดโอยยอมแพ้แล้วออกไปตั้งแต่เนิ่นๆ ซะอีก

ทัตสึมิ: หากปล่อยวางอะไรก็ทำได้ล่ะครับ หากลองมองดูทุกมุมโลกแล้ว ยังมีผู้คนที่ต้องอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายกว่านี้อีกมากมายเลยฮะ
เช่นนั้น มนุษย์ที่พรั่งพร้อมเช่นผม จะมัวแต่พร่ำบ่นถึงความไม่เป็นธรรมอยู่ได้อย่างไรล่ะครับ

จุน: อย่างนั้นเองเหรอครับ ว่าแต่ "นักเรียนทุน" ทั่วไปที่สามารถไปใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่พรั่งพร้อมถึงขนาดนั้นได้อย่างนาย ทำไมถึงต้องมาเกลือกกลั้วอยู่ที่จุดต่ำตมอย่างนี้ล่ะฮะ
ที่ถามคำถามเดิมซ้ำๆ หลายรอบมันก็ แบบว่า เกรงใจอยู่หรอกนะครับ

ทัตสึมิ: ไม่ต้องฝืนพูดสุภาพก็ได้นะครับ คำพูดน่ะ ขอแค่สื่อสารกันได้ผมก็ไม่ถือสาอยู่แล้ว

จุน: ทำงั้นได้ที่ไหนเล่า พื้นฐานคนเรามันก็มีแต่พวกเฮงซวยที่ชอบพูดแทรกแล้วว่าร้ายโจมตีคนอื่นเท่านั้นล่ะครับ

ทัตสึมิ: อย่างนั้นเองเหรอครับ ฮึฮึ พอได้พูดคุยกับจุนซังแล้วก็ได้เรียนรู้ขึ้นเยอะเลย

จุน: (แปลกคนจังแฮะ... มันยังไงกันแน่เนี่ย)
(ตามข่าวลือแล้ว เหมือนว่าจะยื่นเรื่องขอให้เพิกถอนตัวเองจากการเป็น "นักเรียนทุน" กับทางโรงเรียน แล้วโดนปฏิเสธอยู่ด้วย)
(หรือว่าจะไปกันไม่สวยกับพวก "นักเรียนทุน" ด้วยกันเองหรือเปล่านะ)
(แต่ว่า เท่าที่เห็นคาเซฮายะเซมไปตอนอยู่ในตึกเรียนส่วนใหญ่ก็จะสนิทสนมกับทั้ง "นักเรียนทุน" และ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" เหมือนๆ กันหมดนี่นา)
(ในโรงเรียนเรย์เมย์นี้ที่เข้มงวดเรื่องความสัมพันธ์สูงต่ำโดยสมบูรณ์แบบ มีแค่คนๆ นี้ที่เป็น "ข้อยกเว้น")
(เป็นตัวอะไรกันแน่เนี่ย~... ไอดอลก็ไม่ได้สนใจไอดอลคนอื่น โดยเฉพาะไอดอลนักเรียนที่เหมือนยังไม่ฟักจากไข่ดีเลยซักนิด ก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ด้วย)
(พอลองค้นดูแล้ว คาเซฮายะเซมไปก็เดบิ้วเป็นไอดอลในฐานะ "นักเรียนทุน" ตามปกติ แถมโด่งดังสุดๆ ไปเลยด้วย)
(เพราะพวกเจ้าใหญ่ๆ ในวงการนี้พักหลังไม่ค่อยเตะตาต้องใจฝั่งยูเมะโนะซากิเท่าไหร่ โดยเฉพาะปีที่แล้วก็เลยยิ่งพากันคว้าตัวไอดอลชายหนุ่มๆ ในระดับชนชั้นที่ต้องการกันใหญ่)
(แน่นอนว่าส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะสังเวยไอดอลคนอื่นๆ นอกเครือคอสโปร กับ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" อย่างพวกเราไปด้วยก็เถอะ แต่ท่าทางจะทำให้เหลิงกันใหญ่เลย)
(แล้วคนๆ นี้ แม้แต่ในหมู่คนเหล่านั้นก็ยังอยู่ในระดับโดดเด่น)
(ถึงอย่างนั้นแต่ก็ไม่ได้เริงร่าแล้วใช้ชีวิตอย่างหรูหรา แต่กลับมาเกลือกกลั้วใช้ชีวิตอยู่กับคนระดับต่ำอย่างพวกเราในห้องโหลยโท่ย แถมยังดื่มชาสูตรบ้านตัวเองอยู่อีก)

ทัตสึมิ: ...? จุนซังก็จะเอาชาด้วยเหรอครับ?

จุน: เอาสิครับ ช่วงนี้รู้สึกว่านอนยังไงก็ไม่หายเหนื่อยเลย ดื่มซักหน่อยให้สร่างง่วงดีกว่า~...

ทัตสึมิ: พูดจาอย่างกับเป็นคนวัยกลางคนที่อิดโรยเลยนะครับ จุนซังยังหนุ่มอยู่เลยนะ

จุน: นายเองก็เหมือนกันแหละ เฮ้อ ชาอร่อยจัง เจ้านี่เป็นสิ่งบันเทิงอันน้อยนิดในการใช้ชีวิตอยู่ในเรย์เมย์เลยนะครับ

ทัตสึมิ: ฮึฮึ ถ้าทำให้คุณรู้สึกดีได้บ้าง ผมก็โชคดีที่ได้มาเป็นไอดอลแล้วล่ะครับ
แต่ว่า ดูท่าทางเหนื่อยล้าจริงๆ ด้วยสิ...
ที่รู้สึกเหนื่อยไม่หายอาจเป็นเพราะอาการเครียดก็ได้นะครับ ก่อนที่มันจะหนักข้อก็มาปรึกษาปัญหาเล็กๆ น้อยๆ บ้างได้นะ
หากไม่รังเกียจล่ะก็ ผมพร้อมที่จะรับฟังทุกเมื่อครับ

จุน: งั้นก็พอดีเลยล่ะครับ~ นายเนี่ย ยังไงก็คงจะพูดแบบนี้กับทุกคนเลยใช่ไหมล่ะ
เพราะงั้นก็เลยมีพวกหน้าตาซังกะตายโผล่มาห้องโหล่ยโท่ยนี่ระบายให้นายรับฟังอยู่ทุกวัน...
ทำเอาเริ่มคิดขึ้นมาแล้วนะครับว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาลหรือสถานศาสนาหรือเปล่า


ทัตสึมิ: ขอโทษนะครับที่ทำให้ต้องวุ่นวายตลอด ผมก็บอกทุกคนอยู่เสมอนะว่าถ้าเป็นไปได้อย่ามาที่นี่ดีกว่า
พวกอาจารย์เองก็ดูจะไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ด้วย เพราะกฎโรงเรียนค่อนข้างเข้มงวดสำหรับนักเรียนที่ไม่ใช่นักเรียนทุน ถ้าที่นี่เกิดกลายเป็นเหมือนแหล่งซ่องสุมขึ้นมาเดี๋ยวจะถูกว่ากล่าวตักเตือนเอาได้

จุน: แต่ก็ไม่เห็นเป็นไรใช่ไหมล่ะ ไม่ว่าใครก็อยากมีสถานที่ให้หนีไปได้กันทั้งนั้น
ก่อนที่ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" ที่ถูกกลั่นแกล้งจะเครียดฝังหัวจนจบชีวิตตัวเองแล้วไปสวรรค์ของจริงเข้า ก็จะมีนายที่อยู่ในห้องโหล่ยโท่ยนี่คอยหยุดยั้งคนพวกนั้นไง
พอคิดแบบนั้นแล้ว ทั้งที่แค่ใช้ชีวิตอาศัยอยู่ใกล้กันเฉยๆ แท้ๆ แต่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเกี่ยวพันกับเรื่องที่สูงส่งไปด้วยเลยー แบบว่า ยังไงดีล่ะ รู้สึกขอบคุณน่ะ

Obbligato - เรือของคนโง่/ตอนที่ 3

 

HiMERU: ーแต่ก็ พอจะจับทิศทางแนวโน้มส่วนใหญ่ของ [COMP] ได้แล้วล่ะครับ

ทัตสึมิ: นั่นสินะครับ เรื่องที่ต้องพูดกันตรงๆ ต่อหน้าถึงจะสื่อสารกันได้เนี่ย มันก็มีอยู่จริงๆ นั่นแหละ

HiMERU: ーว่าแต่ กลัวจะถูกแอบดูขนาดนั้นเลยเหรอ
ในเอกสารที่รองผอ.ส่งมา มีแต่คำอธิบายคลุมเครือทั้งนั้น ทำให้จับใจความรายละเอียดไม่ได้เลยล่ะครับ
ถึงอย่างนั้น พวกเรา [Crazy:B] ที่อยู่ในจุดยืนเปราะบาง หากถูกเรียกตัวก็ต้องโผล่หน้ามาแบบนี้อยู่ดี

อิบาระ: เหนื่อยหน่อยนะครับ... แล้วคราวหน้าหากทำอะไรลงไปอีกทางเราก็อาจช่วยปกป้องไม่ได้แล้วด้วย ช่วยกระทำตัวดีๆ เท่าที่ทำได้ด้วยนะครับ

HiMERU: ーจะบ่นก็ไปบ่นกับอามากิเถอะครับ

อิบาระ: เพราะพูดกับคนๆ นั้นยังไงเค้าก็ไม่ฟัง ถึงต้องมาบอกกับคุณแทนไงครับ
(แต่ก็เอาเถอะครับ ถึงคุณอามากิ รินเนะจะน่ารำคาญเสียจนชวนหงุดหงิดก็เถอะ แต่ช่วงนี้ก็เริ่มมีแน้วโน้มจะเพลาๆ ลงเพราะนึกถึงพวกพ้องบ้างแล้วด้วย)
(ทั้งเรื่องความวุ่นวายเมื่อหน้าร้อนกับเรื่องของ [SS] คงทำให้ถูกตำหนิอย่างหนักที่ทำอะไรเองตามอำเภอใจโดยไม่บอกเพื่อนสินะ...)
(แต่ว่า ถึงคนแบบนั้นคงจะไม่ค่อยสำนึกเท่าไหร่อยู่แล้วก็เถอะ)
(แต่ประสบการณ์เหล่านั้น ก็จะกลายเป็นตรวนคอยเหนี่ยวรั้งเขาเอาไว้)
(หากจะยิงขุนก็ต้องยิงม้าก่อน คราวนี้ เราจะใช้ [COMP] เป็นข้ออ้าง แล้วขุดคุ้ยประวัติศาสตร์ของโรงเรียนเรย์เมย์ที่ยังกลบฝังอยู่ในความมืดขึ้นมาー)
(แล้วกุมจุดอ่อนของคุณ HiMERU ที่พัวพันกับเหตุการณ์นั้นเอาไว้ เพราะดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นแค่ตัวปลอมที่มาเคลื่อนไหวแทน "ตัวจริง" เสียด้วยสิ)
(หากเปิดโปงความจริงนั้น อาจทำให้ชีวิตการเป็นไอดอลของคุณ HiMERU ต้องสั่นคลอนก็จริง แต่อย่างไรเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อกรของพวกเราอยู่แล้ว)
(และเพื่อจากนี้จะยังคงใช้การเขาในฐานะ "เบี้ยที่ใช้การได้" ต่อไป จึงจำเป็นต้องเสาะหาอดีตยังไงล่ะครับ หึหึหึ♪)

HiMERU: .........

จุน: เป็นอะไรไปครับ อิบาระ ทำหน้าประหลาดเชียว...
แหม เพราะพูดคำที่ไม่เข้ากับตัวเองบ่อยๆ อย่าง "รักทุกคน" อะไรนั่น สุขภาพร่างกายเลยทรุดโทรมใช่ไหมล่ะ?

อิบาระ: นี่คิดว่าเราเป็นตัวอะไรครับ

HiMERU: ปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำใสสะอาดไม่ได้ーมั้งครับ

อิบาระ: ครับ แม้จะคิดถึงบึงโคลนเก่าก่อนอยู่บ้างก็จริง แต่ถึงจะมาโหยหาอดีตไปก็ไม่ได้อะไรนี่ครับ ต้องมองความเป็นจริงแล้วปรับตัวสิ
และ [COMP] ก็มีไว้เพื่อการนั้นอย่างไรล่ะครับ เรื่องกำหนดการในวันนี้ ขออธิบายเนื้อหารายละเอียดเท่านี้ก่อนก็แล้วกัน
จากนี้ หลังช่วงกลางวันจะไปรวมตัวกับฝ่าบาทฮิโยริ แล้วพาทุกท่านเยี่ยมชมเรย์เมย์นะครับ
แล้วระหว่างนั้นขอให้ทุกท่านช่วยเล่าถึงประสบการณ์ช่วงวัยรุ่นแสนสนุกสมัยอยู่ในโรงเรียนเรย์เมย์พร้อมรอยยิ้มด้วยนะครับ เพราะว่านั่นจะเป็นการถ่ายทำวิดีโอโปรโมทโรงเรียนน่ะ

ทัตสึมิ: โอ๊ะ? ไม่ใช่ว่าจะเป็นการถ่ายไลฟ์สดหรอกเหรอครับ?

อิบาระ: เรื่องนั้นเอาไว้วันหลังน่ะครับ ถ้าสะดวกพอก็อยากปรับจูนเสียงภายในวันนี้อยู่หรอก
แต่ว่ากันตามปกติ พวกคุณก็ไม่ได้ถือว่าสังกัดอยู่กับยูนิตด้วยนี่ครับ
ในวันนี้ เพราะเรียกพวกคุณมาแบบกระทันหันก็เลยไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วล่ะครับว่าจะได้ไลฟ์อะไรดีๆ
แน่นอนว่าด้วยศักยภาพของพวกคุณก็คงจะแสดงเพอฟอร์แมนซ์แบบไปวัดไปวาได้ก็จริง แต่ที่กังวลคือมันแค่ระดับพอไปวัดไปวานี่ล่ะครับ
เพราะอย่างไรก็ต้องทำให้ผู้คนที่เห็นคลิปนั้นคิดว่า "อยากเป็นไอดอลแบบนี้!" ให้ได้

HiMERU: ーว่าไงดี ได้กลิ่นเหมือนเป็นการโพรพาแกนด้าอย่างเต็มรูปแบบเลยนะครับ

อิบาระ: ก็เพราะ [COMP] เป็น "แผนงานแบบนั้น" โดยสมบูรณ์ไงครับ มีตรงไหนไม่พอใจหรือเปล่า?
จำนวนนั้นคือพลัง หากเราไม่ได้นักเรียนซึ่งเปรียบเสมือนไข่ของลูกเจี๊ยบไอดอลมาในจำนวนมากๆ ล่ะก็ จากนี้ พวกเราคอสโปรจะต้องตกต่ำใน ES แน่ครับ
การดึงดูดผู้คนจำนวนมากและทำให้มาเป็น "พรรคพวก" นั้น จะเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตต่อจากนี้อย่างแน่นอนครับ

จุน: ก็นั่นสินะครับ~... ผมเองก็ยังเป็นนักเรียนอยู่ เลยยังนึกถึงเรื่องในอนาคตไม่ค่อยออกเท่าไหร่ หรือจะบอกว่ามองแต่สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าแทนดี
ถ้าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ต้องคิดถึงเรื่องจากนี้สินะครับ~... เพราะว่าชีวิตเราไม่ได้จบสิ้นลงไปพร้อมๆ กับการเรียนจบด้วย

อิบาระ: ครับ กลับกันแล้วชีวิต "ถัดจากวัยรุ่น" ต่างหากที่ยาวนานและห่างไกลกว่ากันตั้งเยอะ อยากให้ทุกท่านตระหนักถึงเรื่องนี้กันหน่อยนะครับ

HiMERU: ーเรื่องแบบนั้น ถึงไม่ต้องเตือนก็เข้าใจอยู่แล้วล่ะครับ
กลับกันแล้วโดยเฉพาะพวกจากยูเมะโนะซากิ ยังสลัดภาพความรู้สึกตอนเป็นนักเรียนกันไม่ได้เลย เลยมีคนที่รู้สึกอับอายอยู่บ้างน่ะครับ
แต่เพราะ HiMERU เป็นผู้ใหญ่ และเป็นมืออาชีพ ต้องทำงานให้สำเร็จลุล่วงอยู่แล้ว
ถึงการที่ให้ความทรงจำวัยรุ่นแสนสนุก มันจะยุ่งยากอยู่บ้างก็เถอะนะครับ
แต่เป็นถึงรองผอ.เสียอย่าง ยังไงก็คงจะแต่งเนื้อเรื่องสนุกสนานที่ดูไม่ขัดกับความเป็นจริงมาเขียนเป็นสคริปต์อยู่แล้วใช่ไหมล่ะครับ?
หากได้ลองอ่านมันดูสักรอบล่ะก็ จะขอแสดงภาพที่คุณต้องการเห็นอย่างไม่มีผิดพลาดให้ดูเองครับ ให้เรียกทัตสึมิหรือจุนว่าเป็นเพื่อน แล้วควงแขนกันด้วยเลยไหมล่ะครับ

จุน: ...เปลี่ยนไปจริงๆ นะครับเนี่ย~ นายน่ะ

HiMERU: ? ตรงไหนกันครับ? HiMERU ก็เป็น HiMERU ที่เที่ยงธรรมและสมบูรณ์แบบมาตลอดนี่ครับ?

จุน: เอาเถอะ คนเราก็เปลี่ยนกันได้ตลอดนี่เนอะ~ แต่เมื่อก่อนรู้สึกไม่ค่อยมั่นคงกว่านี้ หรือพยายามลากเลือดกว่านี้ดีー
อุตส่าห์มองว่าเป็นมนุษย์แบบเดียวกันกับผมแท้ๆ แต่นายในตอนนี้อย่างกับหุ่นยนต์เลยนะครับ

HiMERU: .........

วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

Obbligato - เรือของคนโง่/ตอนที่ 2

 

<10นาทีต่อมา ภายในพื้นที่โรงเรียนเรย์เมย์ หอประชุมที่สอง>

อิบาระ: เหล่าไอดอลจากโรงเรียนเรย์เมย์ทุกคน! เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่มารวมตัวกันในวันนี้! รักทุกคน~♪

ทัตสึมิ: อะไรน่ะครับ การทักทายที่แสนวิเศษแบบนั้น...♪

จุน: ก็ช่วงนี้ เจ้าหมอนี่พยายามกระเสือกกระสนเปลี่ยนคาแรกเตอร์ตัวเองไปในทางแปลกๆ โดยเปล่าประโยชน์อยู่น่ะสิครับ~?

อิบาระ: ครับ! ตั้งใจว่าจะปฏิบัติตัวโดยที่ไม้ใช้ถ้อยคำที่ก่อให้เกิดความไม่สบายใจ ในฐานะผู้รับใช้แห่งความรักและสันติภาพอยู่ครับ! วันทยาหัตถ์ー เอ้ยไม่ใช่ รักทุกคน~♪

HiMERU: ーมันจะกลายเป็นอย่าง "Dr.*trangelove" เอานะครับ (ล้อชื่อหนังDr.Strangelove เพราะคำว่ารักทุกคนของอิบาระ(博愛) มันเป็นส่วนส่วนหนึ่งของชื่อญี่ปุ่นของเรื่อง (博士の異常な愛情))

ทัตสึมิ: ฮึฮึ งดเว้นคำพูดที่ก่อให้เกิดความเกลียดชัง และแสดงความรักต่อทุกคนไม่แบ่งแยก เป็นการใส่ใจที่ยอดเยี่ยมมากเลยล่ะครับ

อิบาระ: ถึงจะเป็นแค่กลยุทธ์ทางการตลาดก็เถอะนะครับ! โดยเฉพาะตอน [SS] ที่ออกอากาศไปทั่วประเทศ มีเรื่องอื้อฉาวของ ES จะแพร่งพรายไปสู่ประชาชนทั่วไปอยู่บ้างด้วยー
ดังนั้นจึงทำให้มีแฟนๆ ที่เกิดความรู้สึกว่า "ไอดอลนี่น่ากลัวจัง...?" กันบ้างเล็กน้อย พวกเราจึงต้องมากู้คืนภาพลักษณ์กันอย่างไรล่ะครับ
[COMP] ที่มีไว้เพื่อให้โรงเรียนเสริมสร้างไอดอลในเครือคอสโปรครึกครื้นขึ้นเอง ก็เป็นโปรเจคที่สร้างขึ้นโดยเจตนารมณ์เช่นนั้นของฝั่ง ES เองด้วย
...แต่ว่าตามตรงก็ทำเอาอึดอัดน่าดูล่ะครับ เฮ้อ เครียดสุดๆ ไปเลย

จุน: ถึงอิบาระจะเป็นคนอย่างนั้นก็เถอะ แต่อย่าคาดว่าว่าสังคมจะเป็นไปตามความต้องการของตัวเองตลอดจะดีกว่านะครับ~?

อิบาระ: รู้อยู่แล้วล่ะครับ คิดว่าเราใช้ชีวิตปะปนอยู่กับผู้ใหญ่มากี่ปีแล้วกัน?

HiMERU: ーรองผอ. ขอคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนั้นเพิ่มเติมด้วยครับ

ทัตสึมิ: นั่นสิครับ คำถามยังไม่คลี่คลายเลย ถึงไม่ว่าจะได้รับงานแบบไหนมา ผมก็ตั้งใจว่าจะทำให้ดีที่สุดอยู่แล้วก็เถอะ
แล้วผม เดิมทีตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่กับคอสโปรแล้วด้วย...
จะให้เข้าร่วมใน [COMP] ที่มีวัตถุประสงค์หลักเป็นการทำให้โรงเรียนเสริมสร้างไอดอลในเครือคอสโปรครึกครื้นขึ้นเนี่ย มันจะดีเหรอครับ?

อิบาระ: ดีแน่นอนครับหากคุณไม่รังเกียจล่ะก็♪ แน่นอนว่าจะจ่ายค่าตอบแทนไม่อั้นอยู่แล้ว!

ทัตสึมิ: ฮึฮึ พวกเราไม่ได้ลำบากเรื่องเงินแล้วด้วย ไม่ได้จำเป็นต้องฝืนตัวเองเพื่อหา [L$] หรอกนะครับ
แต่ว่า ผมก็เริ่มจะคุ้นชินกับการเคลื่อนไหวเป็นหมู่คณะกับเพื่อนๆ ใน [ALKALOID] แล้วด้วย เลยคิดว่าจะมาเพิ่มทักษะสกิลส่วนบุคคลเอาที่นี่ก็น่าจะดีเหมือนกัน
เพราะคิดเช่นนั้น ถึงได้มาเข้าร่วมแผนงานในครั้งนี้ครับ ต้องขอฝากตัวด้วยนะครับ

อิบาระ: ทางนี้ก็เช่นกัน! หากได้ "ผู้ปฏิวัติแห่งโรงเรียนเรย์เมย์" มาเป็นพวกพ้องด้วยล่ะก็ เทียบได้กับกำลังคนนับร้อยเลยล่ะครับ!
อันที่จริง แม้แต่ตอนนี้ในหมู่นักเรียนที่จบจากโรงเรียนเรย์เมย์ ก็ยังมีผู้เลื่อมไสในตัวคุณอยู่มากมายเลยล่ะครับ
หากไม่ได้ผู้คนจำนวนมากถึงขนาดนั้นมาเป็นพวกล่ะก็ เราคงคาดหวังความสำเร็จของ [COMP] ไม่ได้เป็นแน่

จุน: ฮะๆ ถ้าเกิดมีปัญหากันภายในระหว่าง "นักเรียนทุน" กับ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" ขึ้นมาอีก มันจะลำบากเอานา~?

HiMERU: ーคิดว่า เรื่องมันคงไม่ง่ายแบบนั้นหรอกนะครับ

อิบาระ: ถึงอย่างนั้น ถ้าได้เห็นคนที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของ "นักเรียนทุน" และ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" อย่างพวกคุณー
ถ้าได้เห็นคุณคาเซฮายะ ทัตสึมิ และคุณHiMERU มาเข้าร่วมแผนงาน และร่วมมือกันอย่างสนิทสนมแล้วล่ะก็ คนอื่นๆ เองก็คงไม่คิดที่จะมีเรื่องกันหรอกครับ

HiMERU: ーอย่างนี้นี่เอง เหตุผลที่ให้พวกเราเข้าร่วม [COMP] คือแบบนั้นเองสินะครับ

อิบาระ: ครับ นั่นเป็นกลยุทธ์ ไม่ใช่สิ เออ เป็นไอเดียอันแสนวิเศษของเราครับ

จุน: อิบาระ โดยพื้นฐานเป็นคนพูดจาโผงผางอยู่แล้ว ต้องมาเปลี่ยนวิธีพูดคงลำบากสินะครับ~♪

ทัตสึมิ: ไม่ต้องฝืนตัวเองก็ได้นะครับ

อิบาระ: ไม่หรอกครับ เรียกว่าอดกลั้นเพื่อผลลัพธ์ก็ได้ เราจะชี้นำ [COMP] ให้ประสบความสำเร็จให้ได้เลยครับ
แต่ว่า ถึงจะอธิบายกับจุนไปแล้วก็เถอะー
ยังไงพอเทียบกับยูเมะโนะซากิที่โดนโฆษณาว่าเป็นโรงเรียนเสริมสร้างไอดอลที่ ES มาคุมเองแล้ว ความนิยมของโรงเรียนเสริมสร้างไอดอลในเครือคอสโปรก็ค่อยๆ ถดถอยลงเรื่อยๆ เลยครับ
ยูนิตส่วนใหญ่ที่ได้ไปแข่งจริงใน [SS] เองก็มาจากยูเมะโนะซากิ กำลังฮอตฮิทในสังคมแบบระเบิดเถิดเทิงเลยล่ะครับ
อาจจะช่วยไม่ได้ก็จริง แต่ถ้าเป็นเรา ในสถานการณ์แบบนี้ก็คงลงทุนกับยูเมะโนะซากิเหมือนกัน

จุน: ถ้าฉันเป็นผู้ปกครองแล้วอยากให้ลูกตัวเองเป็นไอดอลล่ะก็ คงอยากให้ไปเข้ายูเมะโนะซากิที่สร้างผลงานใน [SS] เหมือนกันล่ะมั้ง

อิบาระ: ครับ นั่นแหละประเด็นหลัก เพราะโดยพื้นฐานแล้วคนจ่ายค่าเทอมก็คือผู้ปกครองไงครับ
ทว่า ในยุคนี้ที่เศรษฐกิจด้านอื่นนอกจากอุตสาหกรรมไอดอลตกต่ำนั้น ใช่ว่าทุกครอบครัวจะมีเงินถุงเงินถังกันหมด
ถึงยูเมะโนะซากิจะจัดตั้งระบบมอบทุนการศึกษาขึ้นมาแล้วก็จริง แต่ในเรื่องค่าเทอมก็เทียบกันกับเรย์เมย์ไม่ได้อยู่แล้วー

จุน: ทุนการศึกษามันก็คือการให้กู้ยืมนี่นะครับ ก็คงเหมือนกับการผูกมัดไว้ด้วยเงินกู้ เพื่อไม่ให้หนีไปจากวงการไอดอลนั่นแหละ

อิบาระ: ครับ ช่างเป็นวิธีการที่สมกับเป็นพืชกินแมลงอย่างท่านเอย์จิจริงๆ แต่ว่าในคราวนี้นั้นแตกต่างกับสมัยวิกฤติการณ์ฟองสบู่แตก ไม่ว่าใครต่างก็เป็นห่วงอนาคตด้วยกันทั้งนั้น
คงไม่ค่อยมีใครอยากทำความฝันให้เป็นจริงทั้งที่แบกรับเงินกู้อยู่หรอกครับ
ในจุดนั้น พวกเราคอสโปรมีบริษัทมากมายที่เราพวกก่อตั้งขึ้นมาเองคอยหนุนหลังให้อยู่
ถึงความสามารถในฐานะไอดอลจะไม่งอกเงยขึ้นตลอดระยะเวลาสามปีในการเป็นนักเรียนก็ตาม แต่หากเข้าบริษัทของพวกเราก็มีโอกาสจะกลับเป็นคนทั่วไปได้ครับ
แน่นอนว่า เราก็ต้องเน้นหาบุคลากรจากนักเรียนที่จบมาจากโรงเรียนในเครืออยู่แล้ว
คนยุคนี้ที่มุ่งเน้นเรื่องความมั่นคงปลอดภัยไว้ก่อน จะต้องเลือกพวกเรามากกว่าสถานพนันอย่างยูเมะโนะซากิー แน่นอนครับ

ทัตสึมิ: ฮึฮึ เอย์จิซังมีแน้วโน้มว่าจะทำให้มนุษยชาติทุกคนเป็นไอดอลด้วยนี่นะครับ ในแง่นั้น คอสโปรที่เสนอทางเลือกให้กลับไปเป็นคนธรรมดาได้ จะได้เปรียบกว่า

อิบาระ: ครับ แม้การที่ท่านเอย์จิตั้งอุดมคติไว้สูงนั้นมันจะดีก็จริง แต่หากรีบไปจะเสียการเอาได้ โลกในตอนนี้เอง ก็ใช่ว่าจะถูกย้อมไปด้วยคอนเซปต์ของไอดอลล้วนๆ หรอกนะครับ
ไม่มีทางจะทำให้มนุษยชาติทั้งหมดเป็นไอดอลได้หรอก มันแน่นอนอยู่แล้วล่ะครับ
และตรงนั้น ก็จะมีช่องว่างให้พวกเราเข้าไปแทรกกลางได้
ไม่สิ และการทำให้ผู้คนจำนวนมาเลือกมาสถาบันของพวกเราไม่ใช่ยูเมะโนะซากินั้น ก็คือเป้าหมายของ [COMP] ยังไงล่ะครับ! รักทุกคน~♪

จุน: ยังไงก็คงชินไม่ลงสินะครับ~

Obbligato - เรือของคนโง่/ตอนที่ 1

 

*ชื่อตอน "เรือของคนโง่" อ้างอิงมาจากบทกวีแนวเสียดสีของเยอรมันที่ชื่อ Das Narrenschiff

<ปัจจุบัน หลายวันหลังจากการหารือเรื่อง [COMP] ที่สำนักงานคอสโปรー หน้าประตูโรงเรียนเรย์เมย์>

ทัตสึมิ: ...หืม นี่ผม เคยพูดแบบนั้นด้วยเหรอครับ?

จุน: ก็พูดน่ะสิครับ~! ลืมซะแล้วเหรอครับ ทัตสึมิเซมไป!?
ช็อกอยู่นะครับเนี่ย! ทั้งที่ผมได้คำพูดและท่าทีของทัตสึมิเซมไปช่วยเหลือเอาไว้ตั้งมากแท้ๆ!
เรียกว่าเพิ่งถูกปฏิบัติด้วยอย่างมนุษย์เป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้าเรย์เมย์เลย... เพราะงั้นก็เลยรู้สึกตราตรึงใจ แล้วก็มีตัวตนของทัตสึมิเซมไปคอยค้ำจุนจิตใจของผมเอาไว้มาตลอด

ทัตสึมิ: ฮึฮึ ล้อเล่นน่ะครับ เพราะผมคิดทบทวนเรื่องสมัยอยู่เรย์เมย์ซ้ำไปซ้ำมาตลอด ก็เลยยังจำบทสนทนาแรกที่คุยกับเธอได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ
ถึงจะรู้สึกอายตัวเองที่ทำท่าทางอวดเก่งอยู่บ้างก็เถอะ

จุน: ก็ทัตสึมิเซมไปเก่งจริงๆ นี่นา เพราะงั้นไม่เป็นไรหรอกครับ~! แถมยังเป็นทั้งรุ่นพี่ แล้วก็ "ผู้ปฏิวัติโรงเรียนเรย์เมย์" เลยนี่นา!

ทัตสึมิ: ผู้ปฏิวัติ เหรอครับ แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าด้วย ควรจะเรียกว่าก่อการร้ายมากกว่าปฏิวัตินะครับ

จุน: ถ่อมตัวเกินไปแล้ว! แล้วก็ ไม่ได้ถึงกับล้มเหลวนี่ครับ? ถึงระหว่างนั้นทัตสึมิเซมไปจะได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องดรอปเรียนกลางคันก็เถอะー
แต่ผลสุดท้าย ก็เปลี่ยนแปลงโรงเรียนเรย์เมย์ได้

ทัตสึมิ: ที่สำเร็จไม่ใช่เพราะผมหรอกครับ น่าจะเป็นผลงานของอิบาระซังที่ถูกส่งมาประจำที่เรย์เมย์แทนผมมากกว่า

จุน: ไม่หรอก เจ้านั่นก็แค่กอบโกยผลประโยชน์ตัวเองเฉยๆ นั่นแหละ!
แล้วก็ ที่ตอนนี้เจ้านั่นทำหน้าตาอวดเบ่งอยู่ได้ ก็เป็นเพราะทัตสึมิเซมไปปูรากฐานการปฏิวัติเอาไว้ก่อนแล้วไม่ใช่หรือไงครับ?
ถ้าไม่มีทัตสึมิเซมไปล่ะก็ คงไม่มีอะไรได้เริ่มต้นขึ้นใหม่หรอกครับ~♪

ทัตสึมิ: อวยกันน่าดูเลยนะครับ แหม เขินจังเลย

HiMERU: ーซาซานามิ ถ้าชมคนของสำนักงานอื่น เดี๋ยวจะโดนครหาว่ายื่นเกลือให้ศัตรูเอานะครับ

จุน: อย่าพูดอะไรให้มันยุ่งยากได้ไหมครับ? แล้วก็ ไอ้ที่ชวนงงที่สุดก็คือนายนั่นแหละー จู่ๆ มาวันนึวคาแรกเตอร์ก็เปลี่ยนไปเฉยเลย?
เออ ต้องเรียกว่า HiMERU ใช่ไหมนะ

HiMERU: ーก็น่าจะยืนกรานไปหลายรอบแล้วนะครับ ว่า "อดีตอันน่าอับอาย" ของ HiMERU ก็ถูกฝังไปพร้อมๆ กับชื่อจริงแล้ว
ーคุณต่างหากครับที่แปลกกว่า ทั้งที่คุณต้องลงแรงพยายามเกินจำเป็นเพราะความผิดของพ่อแท้ๆ ทำไมถึงไม่ใช้ชื่อในวงการอย่าง HiMERU ล่ะครับ

จุน: อ๋อ... ไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นมาก่อนเลยแฮะ~ ว่าไงดี อาจจะเป็นทิฐิก็ได้
เพราะถึงจะเปลี่ยนชื่อไป ผมก็ยังเป็นผมอยู่ดี ในยุคนี้ที่อินเตอเน็ทเข้าถึงอย่างเต็มรูปแบบ ถึงจะพยายามปกปิดพื้นเพของตัวเองขนาดไหนมันก็ทำไม่ได้หรอกครับ
ยังไงซะผมก็ไม่มีทางหนีไปจากชื่อซาซานามิได้ตลอดชีวิตด้วย เพราะงั้นผมก็เลยมีแต่ต้องพยายาม เพื่อยกคุณค่าของชื่อนั้นให้มากขึ้นไม่ใช่หรือไงครับ
เปลี่ยนชื่อตัวเองแล้วใช้ชีวิตเป็นคนอื่น มันก็คือการหนีนะครับ~ การหนีน่ะ

HiMERU: ー"แทงใจดำจังนะครับ" พูดแบบนี้แล้วพอใจหรือยัง

จุน: ...น่าหงุดหงิดไม่เปลี่ยนเลยนะนายเนี่ย ถึงที่ผ่านมาผมจะโดนจงใจหลบหน้าตลอด เลยไม่ได้คุยกันเป็นชิ้นเป็นอันแบบนี้นานแล้วก็เถอะ
แต่ความน่าหมั่นไส้นี่ ไม่เปลี่ยนไปจากตอนเจอกันครั้งแรกเลยนะครับ~?

HiMERU: ーงั้นเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นก็เป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยล่ะ

จุน: ...? ยิ่งไปกว่านั้น มัวแต่คุยเรื่องเมื่อก่อนกันซะเพลินเลยー ชักจะหนาวแล้วด้วย รีบเข้าไปในอาคารดีกว่าครับ

HiMERU: แล้วเห็น HiMERU อยากคุย "เรื่องนั้น" นักหรือไงครับ? พวกคุณมัวแต่ยืนคุยกันยืดยาดเองนั่นแหละー

จุน: จะทิ้งพวกเราไว้แล้วล่วงหน้าไปก่อนก็ได้แท้ๆ

HiMERU: ーHiMERU ถูกเรียกตัวมากระทันหัน ก็เลยไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวเท่าไหร่ไงครับ ทัตสึมิเองก็น่าจะเหมือนกันไม่ใช่เหรอ

ทัตสึมิ: ครับ ที่ว่าจะมาถ่ายทำการไลฟ์ในโรงเรียนเรย์เมย์นี้ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของ [COMP] อะไรซักอย่างนี่แหละ

HiMERU: ーเหมือนจะอย่างนั้นนะครับ แต่ก็คงไม่ได้จะให้ถ่ายจริงโดยไม่มีการเตรียมตัวอยู่เลย เลยสันนิษฐานว่าเดี๋ยวคงมีการไปปรึกษาหารือกันก่อนที่ไหนซักที่
แล้วคุณ ก็เลยได้รับหน้าที่ให้มาช่วยนำทางไม่ใช่หรือไงครับ ซาซานามิ?

จุน: ใช่คร้าบๆ โทษที พอเห็นทัตสึมิเซมไปมาอยู่ที่เรย์เมย์แล้ว มันก็รู้สึกอู้หูอ้าหาจนความทรงจำมันพรั่งพรูน่ะสิ♪

ทัตสึมิ: ฮึฮึ จุนซังที่แจ่นมาหาพลางพูดนู่นพูดนี่ น่ารักราวลูกสุนัขเลยล่ะครับ

HiMERU: ーครับ น่ารำคาญเหมือนลูกสุนัขเลย

จุน: ฮะๆ เข้าขากันสุดๆ สนิทกันไม่เปลี่ยนเลยนะครับ~ พวกนายเนี่ย

HiMERU: ーน่ามหัศจรรย์จังเลยนะครับที่ต่อมการรับรู้มันบิดเบือดไปเป็นแบบนั้นได้เนี่ย

จุน: ก็ พวกนายตัวติดกันมาตั้งแต่สมัยอยู่เรย์เมย์แล้วไม่ใช่เหรอ

HiMERU: ーหึ อย่างมาก HiMERU ก็เป็นแค่หนึ่งใน "ผู้ศรัทธา" ที่มีอยู่มากมายของทัตสึมิเท่านั้นล่ะครับ
ーแน่นอนว่าทัตสึมิเองก็คงรักใน "ผู้ศรัทธา" เหล่านั้นทั้งหมดอย่างเท่าเทียมเหมือนกัน

Obbligato - ศีลล้างบาปแก่ซาซานามิ จุน/ตอนที่ 6

 

<10 นาทีต่อมา>

ทัตสึมิ: อึ้ก อึ้ก อึ้ก♪
เฮ้อ ชาอร่อยจัง
ตื่นเต็มตาแล้วล่ะครับ คิดถูกจริงๆ ที่ชงแบบเข้มข้น

จุน: "นักเรียนทุน" กำลังดื่มชาที่ตัวเองชงเองอยู่...

ทัตสึมิ: ? ถึงจะเป็น "นักเรียนทุน" แต่ก็เป็นมนุษย์เหมือนๆ กันนี่ครับ จะดื่มชาก็ไม่น่ามีอะไรแปลกนี่นา?

จุน: ไม่ใช่เรื่องนั้น ก็พวกนายน่ะ ขนาดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการเตรียมชาก็จะโยนมาให้พวกเราทำตลอดไม่ใช่เหรอ อย่างหนักก็อาจถึงขั้นให้เปลี่ยนเสื้อให้เลยนะ?
ขุนนางกับทาสในเรือนเบี้ยหรือไง งี่เง่าชะมัด

ทัตสึมิ: ครับ น่าแปลกจังเลยนะ ทั้งที่ถ้าชงเองก็จะได้รสชาติกับอุณภูมิที่ตัวเองชอบแล้วแท้ๆ

จุน: คนอยากดื่มด่ำกับความรู้สึกเหนือกว่าด้วยการจิกหัวใช้งานคนอื่นล่ะมั้ง

ทัตสึมิ: หืม... ก็จริงนะครับ การที่มีคนอื่นคอยทำให้ทุกเรื่องก็คงจะมีความสุขอยู่หรอก
แต่การให้คนอื่นทำแทนทุกเรื่อง จะทำให้กลายเป็นมนุษย์ที่ใช้การไม่ได้เอานะครับ

จุน: ใช่ไหมล่ะ ที่นี่มันไม่ใช่โรงเรียนเสริมสร้างไอดอลแล้ว เป็นโรงงานผลิตมนุษย์ไม่ได้เรื่องต่างหาก

ทัตสึมิ: ฮึฮึ พูดฟังดูเข้าท่าดีนะครับ
อ๊ะ... แล้วก็ใบชานี้ เป็นใบชาเพาะเองที่ผมนำมาจากที่บ้านน่ะครับ

จุน: ก็ไม่ได้คิดว่าคุณไปขโมยของใครมาซะหน่อย

ทัตสึมิ: ฮึฮึ ถ้าไม่รังเกียจ คุณเองก็ดื่มด้วยสิครับ พอดีว่าเผลอต้มน้ำร้อนเยอะเกินไปหน่อย ถ้าเหลือทิ้งมันน่าเสียดายน่ะครับ

จุน: งั้น เออ~ ทานล่ะนะครับ

ทัตสึมิ: เชิญเลยๆ

จุน: .........

ทัตสึมิ: .........

จุน: ...คือว่า

ทัตสึมิ: ครับ? ถ้าจะคุยขอเอาไว้หลังดื่มชาเสร็จนะครับ เพราะถ้าพูดตอนมีอะไรอยู่ในปากมันเสียมารยาทน่ะครับ?

จุน: งั้นก็ขอโทษทีแล้วกัน พอดีโดนเลี้ยงมาไม่ดีเท่าไหร่

ทัตสึมิ: ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ถึงจะมีน้ำชากระเซ็นใส่หน้า ผมก็ไม่ได้ขุ่นข้องใจอะไรอยู่แล้ว เดี๋ยวค่อยไปล้างเอาที่หลังก็ได้น่ะครับ

จุน: ประหลาดคนจังนะ

ทัตสึมิ: ก็โดนบอกแบบนั้นบ่อยๆ นะครับ จะว่าไปแล้ว คุณน่ะ ชื่อว่าอะไรนะ?
มีแค่ทางนี้ที่ถูกรู้ชื่ออย่างเดียวแล้วมันรู้สึกไม่สบายใจน่ะครับ ถ้าไม่รังเกียจช่วยบอกหน่อยได้หรือเปล่า?

จุน: อ๊ะ ผมชื่อซาซานามิ จุน... ครับ

ทัตสึมิ: หืม ซาซานามิ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนเลย

จุน: นี่ผม เป็นข่าวลือไปไกลแค่ไหนแล้วครับเนี่ย?

ทัตสึมิ: ไม่ใช่ครับๆ จริงอยู่ที่การมีเด็กถูกพักการเรียนตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนมันจะหายากก็เถอะ
แต่น่าเสียดายที่ "นักเรียนทุน" ไม่ค่อยจะให้ความสนใจ "พวกคุณ" เท่าไหร่หรอกครับ
อย่างมากก็แค่ได้ยินแว่วระหว่างเวลาน้ำชาว่า "ไอ้เจ้าเด็กใหม่อวดดี!" ก็จริง แต่ก็ไม่ได้เห็นอยู่ในสายตาเสียด้วยซ้ำ

จุน: .........

ทัตสึมิ: อ๋อ จริงด้วย นึกออกแล้วล่ะครับ เมื่อก่อนเคยมีไอดอลที่ชื่อซาซานามิอยู่ด้วยนี่นา
ในเรย์เมย์มีคาบเรียนประวัติศาสตร์ไอดอลด้วย คุ้นๆ ว่าเคยได้ยินชื่อจากตอนนั้นน่ะ

จุน: ต้องบอกว่าเป็นคาบเรียนสำหรับ "นักเรียนทุน" อย่างพวกนายมากกว่ามั้ง พวกเราโดนยัดงานให้ทำตลอดตั้งแต่เช้ายันเย็นจนแทบไม่ได้เรียนอะไรเป็นชิ้นเป็นอันด้วยซ้ำ
แถมคาบเรียนก็ดูธรรมดาๆ เหมือนโรงเรียนทั่วๆ ไปด้วย นี่มันโรงเรียนเสริมสร้างไอดอลพรรค์ไหนกัน
ยังไง "ไม่ใช่นักเรียนทุน" อย่างพวกเราก็เป็นไอดอลไม่ได้อยู่แล้ว ก็เลยเหมือนสอนส่งๆ ให้ไม่ต้องลำบากตอนไปอยู่ในสังคมจริงอย่างเดียวー

ทัตสึมิ: นั่นเองก็เป็นปัญหาเหมือนกันครับ เพราะข้ออ้างที่ว่า "เพื่อให้พวกคุณไม่ต้องลำบากในอนาคต" กดหัดอยู่ ก็เลยวิจารณ์อะไรได้ลำบากด้วย
ละเรื่องนั้นไว้ก่อน นี่หรือว่า คุณจะเป็นลูกชายของคุณซาซานิมิผู้เคยเป็นไอดอลโด่งดังในอดีตเหรอครับ
หน้าตาเองก็ดูคล้ายๆ กับรูปของคุณซาซานามิที่อยู่ในหนังสือเรียนด้วย

จุน: ถ้าใช่แล้วทำไมล่ะครับ

ทัตสึมิ: เปล่าครับ แต่ก็ทำให้เข้าใจอะไรหลายๆ อย่างได้แล้วล่ะ

จุน: หา? ก็แล้วถ้าผมเป็นลูกชายของหมาขี้แพ้ที่โดนซุปเปอร์ไอดอลซากามิ จิน บดขยี้จนต้องหายไปจากวงการบันเทิงแล้วมันทำไมกันล่ะครับ?

ทัตสึมิ: ผมก็ไม่ได้คิดยังไงหรอกครับ แต่เหมือนว่าเหล่าอาจารย์จะเอะใจถึงเรื่องนั้นได้แล้วน่ะ

จุน: หมายความว่ายังไงครับ...?

ทัตสึมิ: คนใหญ่คนโตของเรย์เมย์ー ไม่สิ ของคอสโปรน่ะ หวาดกลัวเรื่องอื้อฉาวที่สุดเลยล่ะครับ ไม่สิ เรียกว่ากลัวสิ่งที่จะมาทำร้ายชื่อเสียงของแบรนด์ดีกว่า
ในส่วนนั้น เพราะคุณมีพ่อที่โดนดูถูกว่าเป็น "หมาที่แว้งกัดซุปเปอร์ไอดอล" อยู่ คุณก็เลยถูกหักคะแนนการประเมินยังไงล่ะครับ
เป็นไปได้ว่า เพราะเป็นลูกของคนที่โดนดูถูก คุณเองก็เลยโดนดูถูกไปด้วยน่ะครับ

จุน: ...ไม่เกี่ยวกับพ่อซักหน่อย

ทัตสึมิ: ถึงจะน่าเศร้าแต่ก็มีคนที่ไม่ได้คิดเช่นนั้นอยู่นะครับ น่าเสียดายที่บนโลกนี้มีคนจำพวกที่คิดว่าลูกไม้ต้องหล่นไม่ไกลต้นอยู่มากด้วย
ลูกเป็นผู้รับผลกรรมที่พ่อก่อー อันที่จริงคุณพ่อของคุณ ก็ไม่ได้ก่อเรื่องอื้อฉาวถึงขนาด "อาเคโฮชิคนนั้น" เสียด้วยซ้ำ
ชื่อของคุณที่ถูกตราสัญลักษณ์ของหมาขี้แพ้เอาไว้ สำหรับผู้บริหารแล้วมันคงเป็น "รอยแปดเปื้อน" ที่เมินเฉยไปไม่ได้น่ะครับ

จุน: อะไรเนี่ย... ไม่เห็นเข้าใจเลยซักนิด

ทัตสึมิ: นั่นสินะครับ ผมคงพูดได้แค่ว่า คุณค่าความเป็นมนุษย์ของไอดอลอย่างพวกเรานั้น อยู่ในจุดยืนที่จะต้องถูกตัดสินจากผู้อื่นยังไงล่ะครับ
ทั้งความดีความชั่วของพวกเราจะถูกแฟนคลับและสังคม ผ่าชำแหละออกมาตัดสินอย่างละเอียดถี่ถ้วน ดังนั้นแล้ว พวกเราจึงต้องตระหนักรู้ถึงข้อดีข้อเสียของตัวเองไว้ให้ดีー

จุน: ...ฮะๆ♪

ทัตสึมิ: ? เป็นอะไรเหรอครับ นี่ผมพูดอะไรตลกๆ ออกไปเหรอ?

จุน: เปล่า ขอโทษที ก็เมื่อกี๊ นายพูดว่า "ไอดอลอย่างพวกเรา" ไม่ใช่เหรอ
เป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้ามาในโรงเรียนนี้เลยที่ผมถูกปฏิบัติด้วยอย่างไอดอล... พอคิดแบบนั้นมันก็เลย หัวเราะออกมาน่ะ

ทัตสึมิ: .........

วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

Obbligato - ศีลล้างบาปแก่ซาซานามิ จุน/ตอนที่ 5

 

<สามปีก่อน หนึ่งสัปดาห์หลังพิธีปฐมนิเทศของโรงเรียนเรย์เมย์ หอพักสำหรับ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" ของโรงเรียนเรย์เมย์ ชื่อเรียก "ห้องโหลยโท่ย">

จุน: (ญี่ปุ่นยกเลิกระบบชนชั้นวรรณะมากี่ร้อยปีแล้ว ไอ้เราก็ไม่ได้เรียนมาเลยไม่ค่อยรู้ก็จริง)
(แต่ในโรงเรียนเรย์เมย์นี้ มีการใช้ระบบชนชั้นอย่างชัดเจนเลย)
(แค่สัปดาห์เดียว เราก็ได้รับรู้เรื่องนั้นซึ้งถึงกระดูกแล้ว)
(ทันทีที่เข้าเรียนในโรงเรียนเรย์เมย์ ก็จะถูกสำรวจตรวจสอบถึงคุณสมบัติและความสามารถในฐานะไอดอลอย่างละเอียดถี่ถ้วน และถูกจับแบ่งเป็น "นักเรียนทุน" และ "นอกเหนือจากนั้น" )
(และ ในโรงเรียนเรย์เมย์นี้ "นักเรียนทุน" จะถูกให้ท้ายเป็นอย่างมาก)
(ไม่สิ สำหรับที่นี่แล้ว คนที่เป็นนักเรียน คนที่เป็นไอดอล มีแค่ "นักเรียนทุน" เท่านั้น)
(ส่วนพวกเราที่ "นอกเหนือจากนั้น" จะไม่ได้รับการยอมรับจากเจ้าพวกดิเลิศประเสริฐศรีพวกนั้นว่าเป็นมนุษย์เลยด้วยซ้ำ)
(ตั้งแต่ตื่นยันนอน พวกเราถูกบังคับให้ต้องคอยดูแล "นักเรียนทุน" อย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น)
(ทั้งการเตรียมอาหาร เตรียมชุดเปลี่ยน หรือกระทั่งทำความสะอาดและเก็บกวาดห้องซ้อมที่ "นักเรียนทุน" ผู้แสนยิ่งใหญ่ใช้งาน)
(จะที่อยู่อาศัย ห้องเรียน เนื้อหาการเรียนการหรืออื่นๆ ทุกอย่างแตกต่างกับ "นักเรียนทุน" ราวฟ้ากับเหว)
(พวกเราเอาแต่โดนใช้งานเพื่อให้ "นักเรียนทุน" ได้ใช้ชีวิตและทำกิจกรรมไอดอลกันได้อย่างสุขสบาย)
(ก็มันช่วยไม่ได้นี่หว่า! ก็พวกเรามันใช้ไม่ได้ในฐานะไอดอลเองนี่นา!)
(ก็มันโดนตัดสินเป็นอย่างนั้นไปแล้วนี่นา! ทั้งที่ยังไม่ได้มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยแท้ๆ!)
(...นี่เรา คงจะไร้พรสวรรค์ในฐานะไอดอลมากกว่าที่ตัวเองคิดสินะ ก็เราไม่ได้เป็น "นักเรียนทุน" นี่นา)
(ทั้งที่พยายามมาตั้งขนาดนั้น ในขณะที่เด็กวัยเดียวกันมีพ่อแม่ใจดูคอยดูแลประคบประหงม นั่งเล่นเกมสบายใจเฉิบ)
(ทั้งที่ทุกวัน เราพยายามสายตัวแทบขาดโดยไม่อิดออดเลยแท้ๆ แม่งเอ้ย แม่งเอ้ย แม่งเอ้ย)

ทัตสึมิ: .........

จุน: ......!?
...เอ๊ะ? อ๊ะ? หือ?

ทัตสึมิ: อรุณสวัสดิ์ครับ♪

จุน: นาย เออ... คาเซฮายะ ทัตสึมิー เซมไป

ทัตสึมิ: ฮึฮึ ขอบคุณนะครับ รู้จักผมด้วยสินะ

จุน: นาย เมื่อตอนปฐมนิเทศ...

ทัตสึมิ: อ๋อ จะว่าไปแล้วก็แนะนำตัวไปเมื่อตอนนั้นนี่นะครับ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดีใจอยู่ดีครับที่คุณจำได้
ที่สำคัญกว่านั้น นี่น่าจะได้เวลาที่ "พวกคุณ" จะต้องเตรียมตัวเสร็จแล้วเข้าร่วมมีทติ้งตอนเช้าแล้วไม่ใช่เหรอครับ
ถ้าไม่รีบตื่นล่ะก็ จะไม่เหลือแม้แต่เวลาทานข้าวนะครับ

จุน: มันก็ใช่อยู่หรอกครับ... คือผม ก่อนหน้านี้ก่อเรื่องไว้นิดหน่อยก็เลยถูกอาจารย์ต่อว่าแล้วพักการเรียนอยู่น่ะ

ทัตสึมิ: อ๋อ จำได้ว่าเคยได้ยินเรื่องทำนองนั้นอยู่นะครับ ที่ว่ามีนักเรียนใหม่ใจห้าว ใช้กำลังกับ "นักเรียนทุน" อะไรนี่แหละ

จุน: ใช้กำลังซะที่ไหนเล่า! แค่เถียงกันนิดๆ หน่อยๆ เองนะเฮ้ย! นี่มันยังไงเนี่ย ในหมู่พวกคุณเรื่องมันบิดกลายเป็นว่าผมเป็นฝ่ายไปต่อย "นักเรียนทุน" งั้นเหรอ!?

ทัตสึมิ: หืม ก็ได้ยินข่าวลือแบบนั้นอยู่นะครับ แต่เหมือนจะผิดจากความเป็นจริงจริงๆ ด้วยสินะ
แค่มองตาคุณก็รู้แล้วล่ะครับ ว่าคุณคงไม่ใช่คนเลวร้ายที่จะสร้างปัญหาให้ผู้อื่นไปทั่วเป็นแน่

จุน: นายจะมาเข้าใจอะไรผมกัน... เป็นท่าน "นักเรียนทุน" ผู้แสนพรั่งพร้อมไม่ใช่หรือไง?

ทัตสึมิ: ก็จริง ที่ผมเองก็เป็น "นักเรียนทุน" เหมือนกันก็เถอะ

จุน: ไม่ต้องมาก็จริงอะไรเลย ในโรงเรียนเรย์เมย์นี้ มีแค่ฐานะนั้นที่สำคัญที่สุดไม่ใช่หรือไงー

ทัตสึมิ: ไม่หรอกครับ ถึงคุณจะพูดแบบนั้น แต่เชื่อว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เหรอครับ?

จุน: หา?

ทัตสึมิ: ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ช่างน่าเศร้าจริงๆ ครับ ที่สภาพแวดล้อมนี้ทำให้คุณต้องคิดเช่นนั้น

จุน: ...ว่าแต่ นายเป็น "นักเรียนทุน" แท้ๆ มีธุระอะไรที่ห้องโหลยโท่ยนี่ล่ะ
เข้ามาในที่แบบนี้ ไม่โดน "เพื่อนพ้อง" คนอื่นมองตาขวางเอาเหรอ

ทัตสึมิ: เดิมทีผมกับ "นักเรียนทุน" คนอื่นก็เข้าหน้ากันไม่ค่อยติดอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับว่าจะโดนมองตาขวางไหมแล้วล่ะครับ
แล้ว ถึงนี่เองก็จะเป็นความจริงอันน่าเศร้าเหมือนกันก็เถอะ แต่ถึง "นักเรียนทุน" จะคิดทำอะไร ก็ไม่ค่อยเป็นปัญหาสำหรับโรงเรียนเรย์เมย์เท่าไหร่หรอกครับ พูดกลับกันก็คือ ถึงจะประพฤติผิดระดับที่ต้องลงโทษสถานหนักก็ตามー
ตัวอย่างเช่น แม้จะใช้กำลังกับคนอื่น แต่ถ้าอีกอีกฝั่งไม่ใช่ "นักเรียนทุน" เหมือนกันล่ะก็ บางทีพวกเราก็คงไม่ถูกซักถามความผิดเลยด้วยซ้ำ

จุน: ...อา ถ้าเรื่องนั้นล่ะก็เข้าใจแจ่มแจ้งเลยล่ะ ทำเอาตกใจมากกว่าด้วยซ้ำ ที่ถึงจะไปฟ้องอาจารย์ว่าโดน "นักเรียนทุน" ต่อยมา ก็ยังไม่หือไม่อืออะไรด้วยซ้ำ
กลับกันแล้ว แค่ผมไปปากดีใส่ "นักเรียนทุน" เข้าหน่อย ก็โดนพักการเรียนซะเฉย เฮงซวยโคตรๆ ไม่เห็นเข้าใจเลย ไม่ว่าใครหน้าไหนก็สมองเพี้ยนกันไปหมดแล้วหรือไงー

ทัตสึมิ: ก็เข้าใจความรู้สึกอยู่นะครับ แต่เราก็ไม่ควรพูดจาว่าร้าย หรือประนามหาว่าผู้อื่นเป็นปีศาจนะครับ
"เจ้าพวกนั้นเป็นมนุษย์ที่แตกต่างจากพวกเรา" การแบ่งแยกเริ่มต้นขึ้นจากความคิดเช่นนั้นครับ
และ การแบ่งแยกนั้น ก็จะกลายเป็นเมล็ดพันธ์แห่งโศกนาฎกรรมนับไม่ถ้วน

จุน: ที่แบ่งแยกน่ะมันทางนั้นมากกว่ามั้ง? ที่ใช้ยศ "นักเรียนทุน" กดหัวคนอื่นน่ะ?

ทัตสึมิ: ดังนั้นแล้ว การแบ่งพรรคแบ่งพวก จึงเป็นจุดด้อยที่พวกเรามนุษยชาติทั้งมวลสมควรแก้ไขอย่างไรล่ะครับ
พวกเรานั้นเท่าเทียมกันภายใต้พระเจ้า ไม่มีพรรคไม่มีพวกอะไรทั้งนั้นครับ ทั้งผมและคุณต่างก็เป็นมนุษย์ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียเหมือนๆ กัน

จุน: อะไรเนี่ย... นี่นายมาเพื่อเทศนาคำสอนน่าสงสัยแบบนั้นกับผมเหรอ?

ทัตสึมิ: เปล่าหรอกครับ หากทำให้รู้สึกไม่ดีก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ คงเป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่เติบโตมา ก็เลยซึมซับวิธีการพูดเช่นนี้ไปแล้ว
อันที่จริง ผมไม่ได้มาเพื่อพูดเรื่องนี้หรอกครับ แค่ว่าหลังจากวันนี้ผมก็จะมาอาศัยอยู่ที่นี่เหมือนกัน ก็เลยอยากจะมาทักทายพวกคุณที่เป็นผู้อยู่อาศัยเดิมน่ะครับ

จุน: หา? มาอาศัยอยู่ที่นี่? พวกนายน่าจะมีหอพักสุดเวอร์วังโดยเปล่าประโยชน์สำหรับ "นักเรียนทุน" อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?

ทัตสึมิ: ครับ แต่ผมย้ายจากที่นั่นมาอยู่ที่นี่แทนแล้วล่ะ

จุน: ทำไมถึงต้องจงใจทำแบบนั้นด้วย...?

ทัตสึมิ: ไม่ใช่ว่าผมเพี้ยนหรืออะไรหรอกนะครับ ผมเองก็มีความคิดของผม หรือจะเรียกว่ามีแผนอยู่ก็ได้

จุน: ...?

Obbligato - ศีลล้างบาปแก่ซาซานามิ จุน/ตอนที่ 4

 

ทัตสึมิ: "ขอกล่าวอีกครั้ง ถึงนักเรียนใหม่ทุกคนー ยินดีต้อนรับสู่นรก"

จุน: ...?

ทัตสึมิ: "ผมมีเรื่องที่ควรจะบอกกับพวกคุณเอาไว้ก่อนครับ พวกคุณคงจะเข้ารั้วโรงเรียนเรย์เมย์นี้มา โดยโอบอุ้มความฝันและความหวังเอาไว้ก็จริง"
"แต่ความฝันของพวกคุณจะไม่มีวันเป็นจริง ความหวังของพวกคุณจะต้องพังทลาย ชีวิตม.ปลายของพวกคุณตลอดสามปีจากนี้ คงจะต้องถูกแต่งแต้มไปด้วยความทุกข์ทรมานและความเสียใจเพียงอย่างเดียวแน่"

จุน: พูดอะไรของคนๆ นั้นเนี่ย...? เออ คาเซฮายะ อะไรนะ?

คานาเมะ: คาเซฮายะ ทัตสึมิครับ อืม... นึกว่าจะมาชี้แนะอะไรในฐานะตัวแทนนักเรียนเสียอีก แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดูแปลกๆ อยู่นะครับ

ทัตสึมิ: "โดยจุดยืนแล้ว อาจจะทำแบบนั้นไม่ได้ก็จริงー"
"แต่หากเป็นไปได้ล่ะก็ รีบทำเรื่องอะไรต่างๆ ให้เสร็จแล้วกลับไปเถอะครับ ตอนนี้ยังไม่สายเกินแน่ ไปเข้าเรียนในโรงเรียนเสริมสร้างไอดอลแห่งอื่นเถอะ"
"เดี๋ยวผมจะช่วยเรื่องนั้นเอง จะช่วยเป็นตัวแทนทำธุรการให้เท่าที่ทำได้ หรือถ้าจำเป็นจะออกเงินจำนวนหนึ่งให้ด้วยก็ได้"
"ดังนั้นแล้ว กลับไปเถอะครับ"
"ที่นี่ โรงเรียนเรย์เมย์นี้ ไม่ใช่สถานที่ที่จะให้เกียรติคุณในฐานะมนุษย์หรอกครับ"
"และในเวลาเดียวกัน ถึงจะอยู่ที่นี่ไป พวกคุณก็ไม่อาจได้เป็นไอดอลไปตลอดกาลเหมือนกัน"
"แม้จะน่าเศร้า แต่นั่นคือความจริงครับ"
"และก่อนที่ความเป็นจริงอันน่าสมเพชนั้น จะเปลี่ยนจากสิ่งที่เกิดใน "อนาคต" มาเป็น "ปัจจุบัน" ในระหว่างที่ยังไม่ต้องสูญเสียอะไรไปนั้นー ได้โปรด ไปจากที่นี่เถอะครับ"
"แล้วก็ โปรดลืมเรื่องของโรงเรียนเรย์เมย์ไปด้วย"
"นั่นคือ หนทางช่วยเหลือเพียงหนึ่งเดียวสำหรับพวกคุณแล้วครับ"
"แม้จะทำได้เพียงภาวนาก็จริง แต่อย่างน้อยผม ก็ขอภาวนาให้พวกคุณตัดสินใจในเรื่องนี้อย่างชาญฉลาดด้วยนะครับ"
"Amen ขอให้พระเจ้าสถิตอยู่กับพวกคุณ"
"......♪"

จุน: ...นี่มันอะไรเนี่ย? ไม่เห็นเข้าใจความหมายเรื่องที่พูดเลย!

คานาเมะ: ทะ ที่สำคัญกว่านั้น คาเซฮายะ ทัตสึมิกำลังตกอยู่ในอันตรายครับ! ดูนั่น พวกผู้ชายท่าทางบึกบึนที่ท่าทางจะเป็นอาจารย์ กำลังเข้าไปหาคาเซฮายะ ทัตสึมิแล้ว!?

จุน: หา? แล้วนี่มันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย ท่าทางจะไม่ใช่สถานการณ์ปกติสินะ...?

ทัตสึมิ: "...หมดเวลาแล้วสินะครับ น่าเสียดายจริงๆ"
"ทั้งที่ยังพูดไม่หมดเลยแท้ๆ"
"แต่ว่า นี่เองก็คงเป็นโชคชะตาที่พระเจ้าประทานให้เป็นแน่"
"ฮึฮึ ใครที่อยากฟังรายละเอียดให้มากกว่านี้ ตอนกลางคืน ก็มาที่ "คาตาคอมส์" คนเดียวสิครับ ส่วนเรื่องสถานที่ ถ้าลองถามจากพวกรุ่นพี่แถวหอพักนักเรียนดู ก็คงรู้ได้เองนั่นแหละ"

จุน: คาตา คอมบุ...?

คานาเมะ: หืม แล้วทำไมจู่ๆ ถึงพูดถึงเรื่องอาหารที่ดีต่อสุขภาพออกมาล่ะ...?

ทัตสึมิ: "ไม่ต้องเป็นวันนี้ก็ได้ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ผมก็ยินดีต้อนรับพวกคุณทุกเมื่อนะครับ"
"เพื่อชีวิตอันเป็นอิสระและอิ่มเอมใจ และเพื่ออนาคตอันส่องประกายของพวกคุณ ได้โปรดเชิญใช้เวลาของผมด้วยเถอะครับ"
"ーเช่นนั้นก็ ขอตัวก่อน♪"

จุน: (โห? คนที่ชื่อคาเซฮายะ ทัตสึมิคนนั้น วิ่งฝ่าพวกอาจารย์ที่ไล่ตามได้อย่างดงามเลย! สมรรถภาพทางร่างกายสุดยอดมาก! ทั้งที่ภายนอกดูเป็นคนเอื่อยๆ แท้ๆ!)
(อย่างกับสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่เลยแฮะ! เจ๋งโคตร, ไปเลย! ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่อย่าแพ้ล่ะ หนีให้ได้ก่อนที่จะโดนอาจารย์จับนะ!)

ทัตสึมิ: ~...♪

คานาเมะ: ...หืม ดูเหมือนว่าคาเซฮายะ ทัตสึมิ จะแอบลอบบุกรุกเข้ามาเองสินะครับ
ตอนนี้ มีประกาศแจ้งไปทั่วแล้วล่ะครับ ว่าคนที่ควรเป็นตัวแทนนักเรียนมากล่าวทักทายพวกเธอที่ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" พอถึงเวลาแล้วกลับหายไปไหนไม่รู้ー
แล้วคาเซฮายะ ทัตสึมิ กลับกลายเป็นคนที่ไปอยู่บนเวทีแทนด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบ
นี่มันเรื่องอะไรกันแน่นะ?

จุน: นั่นน่ะสิ... ถึงตั้งแต่ก้าวเข้ามาในโรงเรียนเรย์เมย์จนถึงตอนนี้ จะเจอแต่เรื่องอะไรแปลกๆ ก็เถอะ
แต่ก็ยังไม่อยากลืมทุกอย่างแล้วหนีไปอย่างที่คาเซฮายะ ทัตสึมิ... เซมไปพูดเลยแฮะ ยังมีเรื่องที่ติดใจสงสัยอยู่เยอะเกินไปหน่อย


<ปัจจุบัน ตีกES คอสมิค โปรดักชั่น>

จุน: ーถ้าไม่มัวแต่คิดเรื่องแบบนั้นแล้วรีบๆ หนีไปซะก็คงจะดีแล้วเชียว~
ที่จริง ก็ควรรับรู้ได้ตั้งแต่ตอนที่โดนคนที่เพิ่งเคยเจอครั้งแรกต่อยแล้วแท้ๆ ว่าเรย์เมย์มันวายป่วงแค่ไหน
แต่เราก็ยังประมาทเพราะคิดว่าทุกอย่างคงเป็นแค่ฝัน แล้วก็ไหลไปเรื่อยโดยไม่คิดอะไรอย่างกับคนบ้าซะได้
เรื่องนั้น ทำให้ผมนึกเสียใจมาตลอด... ทั้งที่ทัตสึมิเซมไปไม่ได้ล้อเล่นอะไรเลย ทุกเรื่องที่พูดตั้งแต่ต้นจนจบเป็น "ความจริง" หมดทุกอย่างแท้ๆ

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

Obbligato - ศีลล้างบาปแก่ซาซานามิ จุน/ตอนที่ 3

 

ทัตสึมิ: "♪~♪~♪"
"~......♪"
"Amen"
"ฮึฮึ สวัสดีครับนักเรียนใหม่ทุกคน ยินดีที่ได้รู้จัก"
"ผมคือนักเรียนปีสองของโรงเรียนเรย์เมย์ คาเซฮายะ ทัตสึมิครับ"

คานาเมะ: คาเซฮายะ ทัตสึมิ...?

จุน: คนรู้จักเหรอฮะ เออ โทโจ...คุง

คานาเมะ: แล้วทำไมต้องไม่รู้จักล่ะครับ คุณเองก็เถอะ ท่าทางแบบนั้นคงไม่รู้จักกระทั่งผมสินะ?

จุน: ไม่รู้จักแล้วผิดตรงไหนล่ะ ก็ผมโดนพ่อแม่พิลึกกึ่งๆ กักบริเวณสั่งให้ฝึกตนเป็นไอดอลอย่างเดียวมาตลอด เลยไม่ค่อยรู้เรื่องโลกภายนอกเท่าไหร่นี่นา

คานาเมะ: ? ฝึกตนเป็นไอดอล? ถ้าเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับไอดอล ก็ไม่มีทางจะไม่รู้จักพวกเรานี่นา?
มันขัดแย้งกันนะครับ หรือก็คือ เธอมันขี้โกหกไงล่ะ

จุน: อะไรของไอ้นี่เนี่ย น่ารำคาญชะมัด... ดูท่าทางฉลาดแต่ไร้กึ๋นสินะ

คานาเมะ: อ๊ะ หาว่าผมบ้าสินะครับ? เรื่องนั้นผมรู้นะ แต่เพราะผมไม่ได้บ้า ฉะนั้นเธอนั่นแหละที่ขี้โกหกจริงๆ ด้วย!

จุน: อย่าโหวกเหวกดิ มันเสียงดัง... เหมือนว่าพิธีปฐมนิเทศจะเพิ่งเริ่มด้วย ถ้าไม่เงียบหน่อยล่ะก็เดี๋ยวโดนอาจารย์หมายหัวเอาหรอก

คานาเมะ: เรื่องนั้นคงไม่เป็นปัญหาหรอกครับ มองรอบๆ ดูก็น่าจะรู้แล้วนี่ ว่าคณะอาจารย์ของโรงเรียนเรย์เมย์แห่งนี้ ไม่มาสนใจพวก "ไม่ใช่นักเรียนทุน" อย่างพวกเธอหรอก

จุน: ก็จริงแฮะ จำนวนอาจารย์ก็น้อย เรียกว่าแทบไม่เห็นเลยดีกว่า

คานาเมะ: ก็เพราะพวกเธอมันก็แค่ปลาซิวปลาสร้อย ที่ไม่มีค่าพอจะลงทุนด้วย และเหตุผลที่จะต้องแบ่งเวลาให้ยังไงล่ะครับ!

จุน: ก็บอกว่าเสียงดังไงเล่า... ทั้งที่รอบข้างนี้ก็มีแต่ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" อย่างที่ว่ามาแท้ๆ ยังพูดจาล่อตีนแบบนั้นได้อยู่อีกนะ นายเนี่ย

คานาเมะ: ไม่ใช่ "นาย" ผมคือโทโจ คานาเมะต่างหากครับ
ถ้าไม่รู้จักล่ะก็ จำไว้ซะตั้งแต่ตอนนี้ด้วยล่ะ มันเป็นชื่อที่ซักวัน ไม่ว่าใครก็จะไม่อาจมองข้ามไปได้ยังไงล่ะครับ

จุน: งั้นเหรอ... แล้ว โทโจ คานาเมะคุงผู้ที่ดูจะยิ่งใหญ่และโด่งดังคนนั้น รู้จักกับเจ้าคนผมยาวๆ ที่พูดอยู่บนโพเดียมนั่นสินะ

คานาเมะ: ? รู้ได้ยังไงครับว่าผมรู้จักกับเขา? หรือว่า เธอจะเป็นนักสืบที่มาสืบเรื่องผม? หรือเป็นสปาย...!?

จุน: (อา~ ชักจะขี้เกียจสนทนากับไอ้งั่งนี่แล้วแฮะ)

คานาเมะ: อะไรครับ อย่ามาจ้องกันแบบนั้นได้หรือเปล่า ไม่งั้นจะคิดเงินแล้วนะครับ

จุน: คร้าบๆ พลาดไปแล้วคร้าบ~ ผิดเองแหละที่ถามอะไรแปลกๆ จะไม่ทักแล้วก็ได้ ช่วยลืมๆ เรื่องของผมไปทีเหอะ

คานาเมะ: ถ้าผมลืมๆ เรื่องของเธอ ก็เหมือนผมยอมฟังที่เธอพูดน่ะสิ เพราะงั้นไม่เอาครับ

จุน: น่ารำคาญเฟ้ย... น่ารำคาญโคตรๆ เลย...

คานาเมะ: หึหึ ว่าแต่ นั่นคือคาเซฮายะ ทัตสึมิที่เค้าล่ำลือกันสินะครับ

จุน: โอ๊ะ กลับเข้าเรื่องได้แบบปาฏิหาริย์เลยแฮะ

คานาเมะ: "นักเรียนทุน" ของโรงเรียนเรย์เมย์ หรือก็คือของโรงเรียนสร้างเสริมไอดอลในเครือคอสโปรนั้น ทุกคนจะได้เดบิ้วท์ในฐานะไอดอลกันหมดครับ
ถึงจะเป็นคนไร้ปัญญาอย่างเธอก็คงทราบเรื่องนั้นสินะ

จุน: คร้าบๆ... เป็นแค่นักเรียนแต่ท่าทางอวดดีจังแฉะ ซากามิ จินเองก็เดบิ้วท์ตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนเหมือนกันหรอก

คานาเมะ: ซากามิ จินเหรอ รู้จักสิครับ ซุปเปอร์ไอดอลเมื่อสมัยก่อนหน้าซักพักสินะ จะว่าไปแล้วเหมือนจะจบจากยูเมะโนะซากิซะด้วยสินะครับ

จุน: ถึงจะบ้าแต่ท่าทางความจำดีนะ นายเนี่ย

คานาเมะ: ไม่ได้บ้าครับ
โรงเรียนยูเมะโนะซากิที่ถือเป็นมือเก่าสำหรับวงการนี้ー เหมือนว่าแม้แต่นักเรียนทั่วไปที่ไม่ใช่ "นักเรียนทุน" ก็โปรดิวซ์เป็นไอดอลได้สินะครับ

จุน: สมัยซากามิ จินจะเป็นยังไงไม่รู้ล่ะ แต่เหมือนช่วงนี้จะเป็นอย่างงั้นอยู่
เพราะงั้น แทนที่ไอดอลของยูเมะโนะซากิจะมีทั้งดีและแย่ปะปนกันไปยังไง แต่ที่จริงก็มีแต่ขยะเหลือทิ้งทั้งนั้น

คานาเมะ: แต่เรย์เมย์ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ เพราะมือโปรที่จะได้ยืนอยู่บนเวทีนั้นมีเพียงแต่ "นักเรียนทุน" ที่ได้รับการยอมรับด้านความเป็นเลิศ และได้รับการยืนยันว่ามีคุณค่าสูงแล้วเท่านั้นยังไงล่ะครับ
คาเซฮายะ ทัตสึมิคนนั้น โด่งดั่งในฐานะของไอดอลที่เป็นเลิศที่สุดแม้แต่ในหมู่ "นักเรียนทุน" ของเรย์เมย์ด้วยกันเอง ถึงพออยู่ในชุดนักเรียนแล้วจะให้ภาพลักษณ์ต่างออกไปจนอาจมองไม่ออกในทันทีก็เถอะ
แต่ตอนออกพวกรายการTV จะให้ภาพลักษณ์ที่เคร่งขรึม หรือดูคูลมากกว่านี้นี่นา
เพราะอะไรกันนะ หรือเวลาปกติจะเป็นแบบนั้นกันー ทั้งเอาผมลง แล้วก็ให้ความรู้สึกนุ่มนวลขึ้นด้วย

จุน: อา~ ภาพลักษณ์แบบอยู่ด้วยแล้วสบายใจสินะ คนที่คาแรกเตอร์ตอนเป็นไอดอลกับเนื้อแท้เป็นคนละขั้วกันเลยก็น่าจะมีให้เห็นอยู่บ่อยๆ นี่นะ

คานาเมะ: ช่วงนี้มีไอดอลที่ยอมขายกระทั่งชีวิตส่วนตัวของตัวเองเยอะขึ้นด้วย คนแบบนี้คงมีให้เห็นได้น้อยแล้วล่ะครับ...
ไอดอลในเครือคอสโปร มีธรรมเนียมที่จะต้องสร้าง "คาแรกเตอร์ในฐานะไอดอล" ให้ดีด้วย
ผมเองก็เรียนจากโรงเรียนม.ต้นในเครือมาด้วย ก็เลยได้รับการชี้แนะเรื่องการสร้างคาแรกเตอร์แบบพื้นฐานเอาไว้ก่อนน่ะครับ เค้าบอกว่าเพราะผมดูท่าทางฉลาด ก็เลยต้องประพฤติตัวให้ดูฉลาดด้วย

จุน: เพราะหน้าตาดีแต่ดันพ่นแต่เรื่องบ้าๆ บอๆ ออกมา เค้าก็เลยเดาอิมเมจผิดล่ะมั้ง

คานาเมะ: ครับ เพราะผมไม่ได้บ้าก็เลยต้องฉลาดเข้าไว้ไงครับ เพราะผมเป็น "ไอดอลแบบนั้น" นี่นา

จุน: หืม... แบบนั้น ท่าทางอึดอัดแย่เลยนะ

คานาเมะ: ถึงจะอึดอัดแต่นั่นก็คือไอดอลนี่ครับ ถ้าผมไม่ใช่ตัวผมอย่างที่สังคต้องการล่ะก็ คงไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะได้ไปยืนบนเวทีหรอก

จุน: ......

วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

Obbligato - ศีลล้างบาปแก่ซาซานามิ จุน/ตอนที่ 2

 

<10 นาทีต่อมา>

จุน: (โฮ่~ ที่นี่คือ "หอประชุม" สินะ)
(ท่าทางจะลงเงินไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะตามข่าวลือจริงๆ ด้วย... ใหญ่โตอย่างเปล่าประโยชน์จริงๆ แฮะ ได้ยินว่าเรย์เมย์เป็นโรงเรียนเพิ่งก่อตั้งใหม่ด้วย พื้นนี่เงาวับจนแทบสะท้อนหน้าอยู่แล้ว)
(แต่จะว่าไงดี คนน้อยชะมัด! เงียบเหงาโคตรๆ เลยเนี่ย...?)
(เออ~? สถานที่จัดพิธีปฐมนิเทศเนี่ย มันที่นี่แน่ใช่ไหม?)
(ก็น่าจะใช่นี่นา พวกนักเรียนที่ยืนเรียงกันอยู่ทุกคนก็ดูเป็นหน้าใหม่ ท่าทางจะเป็นนักเรียนใหม่เหมือนกับกับเราด้วย แต่ไม่เห็นพวกครูอาจารย์หรือรุ่นพี่เลยแฮะ?)
(นี่มันอะไรเนี่ย? ถึงจะไม่ได้ดูแปลกถึงขนาดต้องหนีออกไปก็เหอะ แต่รู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ!)
นี่ โทโจเซมไป...? นี่มันแปลกไปหน่อยหรือเปล่าฮะ? หรือว่าสำหรับในเรย์เมย์ นี่ถือเป็น "เรื่องปกติ" กันล่ะ?
อ้าว เอ๊ะ?
(โทโจเซมไปหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้! ไปไหนของเค้าเนี่ย?)
(ไงดี~ คนนั้นก็แปลกคนเหมือนกันนะเนี่ย... จะบอกว่าถึงอยู่ต่อหน้าก็ยังสัมผัสตัวตนไม่ค่อยได้ หรือจะบอกว่าเหมือนผีดี)
(ฮึ้ย~ อะไรเนี่ย? ทุกอย่างมันจะพิลึกเกินไปแล้ว! นี่หรือว่าเรากำลังหลับฝันอยู่กันแน่?)
(ถ้าเป็นฝันก็ดีไปหรอก! ถ้าเป็นไปได้ก็อยากทำเหมือนไม่เคยโดนรุ่นพี่กระทืบตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียนด้วย!)


คานาเมะ: เธอน่ะ เธอนั่นแหละ ทำท่าทางน่าสงสัยมาตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว เป็นอะไรหรือเปล่าครับ

จุน: อ๊ะ? เอ๊ะ ผม... น่ะเหรอฮะ?

คานาเมะ: ก็เธอนั่นแหละ มีอะไรหรือเปล่าครับ หรือว่าจะปวดท้อง
แต่ก็เอาเถอะ เรื่องของเธอจะยังไงก็ช่างอยู่แล้ว

จุน: เออ... เอ๊ะ อ้าว? โทโจเซมไป?

คานาเมะ: ? ก็จริงอยู่ที่ "ผม" ชื่อโทโจก็เถอะครับ...?

จุน: อ้อ คงเป็นญาติกันสินะฮะ ก็ว่าอยู่หน้าเหมือนกันจัง แบบว่า เมื่อกี๊ผมได้ครอบครัวของนายช่วยไว้น่ะฮะ

คานาเมะ: ...? ไม่เห็นเข้าใจเลยครับ?
ประหลาดคนจังนะครับ แถมมีแผลตรงโน้นตรงนี้ไปทั่วเลย... คิดผิดหรือเปล่านะที่เข้ามาทัก
แต่ก็ช่างเถอะครับ ที่สำคัญกว่านั้น ไหนๆ แล้วก็ขอถามหน่อยแล้วกัน ช่วยตอบมาด้วยล่ะ

จุน: อ๊ะ ครับ ทะ,,, ท่าทางอวดดีโดยใช่เหตุนะ นายเนี่ย

คานาเมะ: ก็มีดีให้อวดไงครับ ...ขอถามหน่อยก็แล้วกัน ที่นี่คือ "หอประชุม" ถูกต้องไหมครับ

จุน: เห? อ้อ ฮะ ก็น่าจะใช่ มั้งนะครับ เพราะผมก็ได้คนที่ดูเหมือนเป็นครอบครัวของนายนำทางมาให้เหมือนกัน เลยไม่รู้แน่ชัดน่ะ

คานาเมะ: ก็แล้วไอ้คนที่ดูเหมือนเป็นครอบครัวนั่นมันใครกันล่ะครับ...
เอาเป็นว่า ถึงรู้สึกว่าถามเธอไปก็เสียเวลาเปล่าก็จริง แต่ที่นี่คือ "หอประชุมที่หนึ่ง" สินะครับ?

จุน: เห๊ะ? มีที่หนึ่งหรือที่สองด้วยเหรอฮะ?

คานาเมะ: ก็มีน่ะสิ เพราะ "นักเรียนทุน" อย่างพวกผมมีกำหนดการเข้าร่วมพิธีปฐมนิเทศที่ "หอประชุมที่หนึ่ง" น่ะครับ
แล้วก็ พวกปลาซิวปลาสร้อยโง่เง่าที่ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" อย่างพวกเธอ ก็จะต้องไปเข้าร่วมพิธีปฐมนิเทศที่ "หอประชุมที่สอง" ครับ

จุน: (เอ๊ะ? เมื่อกี๊ เหมือนโดนเหยียดอย่างกับเป็นเรื่องปกติโคตรๆ เลยแฮะ?)
เออ~... นายเนี่ย เป็นไอ้นั่นเหรอ "นักเรียนทุน" ที่ว่าน่ะ

คานาเมะ: เห็นชุดนักเรียนก็น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอครับ? "นักเรียนทุน" อย่างพวกเราน่ะ แตกต่างกับพวกบ้านๆ อย่างพวกเธอตั้งแต่ชุดที่ใส่แล้ว
ไม่รู้กระทั่งเรื่องแบบนั้น นี่โง่หรือเปล่าครับ ก็คงโง่สินะ เพราะไม่ใช่ "นักเรียนทุน" แล้วยังเป็นพวกด้อยความสามารถด้วยนี่นา

จุน: เหอะๆ... นายเอง ก็ไม่มีสิทธิ์จะมาหาว่าผมโง่หรอกนะ

คานาเมะ: ? หมายความว่ายังไงครับ? อธิบายมาเดี๋ยวนี้เลย

จุน: นายน่ะ คงจะมาผิดที่แล้วล่ะ~ ลองดูรอบๆ ให้ดีสิครับ เห็นไหมล่ะ ทุกคนใส่ชุดนักเรียนแบบเดียวกันกับผมหมดเลย
หรือก็คือ ที่นี่เป็น "หอประชุมที่สอง" ที่ใช้จัดพิธีปฐมนิเทศของพวก "ไม่ใช่นักเรียนทุน" ที่นายพูดถึงไงครับ~ มั้งนะ

คานาเมะ: ? อย่างนั้นหรอกเหรอครับ?

จุน: เอ๊ะ นี่ไม่เข้าใจที่อธิบายไปตะกี๊เหรอ?

คานาเมะ: ไม่เข้าใจแล้วผิดหรือไงครับ? ไม่สิ ผมน่ะไม่ผิดหรอก คนผิดคือเธอที่อธิบายให้มันเข้าใจยากเองไม่ใช่เหรอ?

จุน: อะไรของไอ้นี่วะ

คานาเมะ: "ไอ้นี่" อะไรกันครับ เป็นแค่พวกไร้ความสามารถแท้ๆ คงไม่รู้วิธีพูดจาให้มันดีๆ สินะครับ

จุน: ก็อยากจะตอบกลับไปด้วยประโยคเดียวกันอยู่หรอกนะー
แต่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะมาทะเลาะหรอก... นายน่ะ น่าจะมาผิดที่แล้วล่ะ รีบๆ ไป "หอประชุมที่หนึ่ง" อะไรนั่นน่าจะดีกว่านะ

คานาเมะ: ถ้าทำแบบนั้น มันจะกลายเป็นว่าผมผิดแล้วเธอเป็นฝ่ายถูกไป เพราะงั้นไม่เอาครับ

จุน: อะไรของไอ้นี่วะ... ถามจริงเหอะ อะไรของไอ้นี่กันแน่เนี่ย...

คานาเมะ: ก็บอกว่าไม่ใช่ "ไอ้นี่"ー หืม?

จุน: คราวนี้อะไรอีกล่ะ?

คานาเมะ: ดูนั่นสิครับ ทำเอาผมสับสนไปหมดแล้วเนี่ย

จุน: เอ๊ะ...?

คานาเมะ: นั่นน่ะ ใช่มนุษย์ จริงๆ เหรอครับ?

Obbligato - ศรัทธาต่อคาเซฮายะ ทัตสึมิ/ตอนที่ 4

  <เวลาเดียวกัน ห้องโหลยโท่ยของโรงเรียนเรย์เมย์> ทัตสึมิ: ーครับ เท่านี้ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ คานาเมะ: ......... ทัตสึมิ: ผมขอให้ทุกคนออกไ...