<10 นาทีต่อมา>
ทัตสึมิ: อึ้ก อึ้ก อึ้ก♪
เฮ้อ ชาอร่อยจัง
ตื่นเต็มตาแล้วล่ะครับ คิดถูกจริงๆ ที่ชงแบบเข้มข้น
จุน: "นักเรียนทุน" กำลังดื่มชาที่ตัวเองชงเองอยู่...
ทัตสึมิ: ? ถึงจะเป็น "นักเรียนทุน" แต่ก็เป็นมนุษย์เหมือนๆ กันนี่ครับ จะดื่มชาก็ไม่น่ามีอะไรแปลกนี่นา?
จุน: ไม่ใช่เรื่องนั้น ก็พวกนายน่ะ ขนาดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการเตรียมชาก็จะโยนมาให้พวกเราทำตลอดไม่ใช่เหรอ อย่างหนักก็อาจถึงขั้นให้เปลี่ยนเสื้อให้เลยนะ?
ขุนนางกับทาสในเรือนเบี้ยหรือไง งี่เง่าชะมัด
ทัตสึมิ: ครับ น่าแปลกจังเลยนะ ทั้งที่ถ้าชงเองก็จะได้รสชาติกับอุณภูมิที่ตัวเองชอบแล้วแท้ๆ
จุน: คนอยากดื่มด่ำกับความรู้สึกเหนือกว่าด้วยการจิกหัวใช้งานคนอื่นล่ะมั้ง
ทัตสึมิ: หืม... ก็จริงนะครับ การที่มีคนอื่นคอยทำให้ทุกเรื่องก็คงจะมีความสุขอยู่หรอก
แต่การให้คนอื่นทำแทนทุกเรื่อง จะทำให้กลายเป็นมนุษย์ที่ใช้การไม่ได้เอานะครับ
จุน: ใช่ไหมล่ะ ที่นี่มันไม่ใช่โรงเรียนเสริมสร้างไอดอลแล้ว เป็นโรงงานผลิตมนุษย์ไม่ได้เรื่องต่างหาก
ทัตสึมิ: ฮึฮึ พูดฟังดูเข้าท่าดีนะครับ
อ๊ะ... แล้วก็ใบชานี้ เป็นใบชาเพาะเองที่ผมนำมาจากที่บ้านน่ะครับ
จุน: ก็ไม่ได้คิดว่าคุณไปขโมยของใครมาซะหน่อย
ทัตสึมิ: ฮึฮึ ถ้าไม่รังเกียจ คุณเองก็ดื่มด้วยสิครับ พอดีว่าเผลอต้มน้ำร้อนเยอะเกินไปหน่อย ถ้าเหลือทิ้งมันน่าเสียดายน่ะครับ
จุน: งั้น เออ~ ทานล่ะนะครับ
ทัตสึมิ: เชิญเลยๆ
จุน: .........
ทัตสึมิ: .........
จุน: ...คือว่า
ทัตสึมิ: ครับ? ถ้าจะคุยขอเอาไว้หลังดื่มชาเสร็จนะครับ เพราะถ้าพูดตอนมีอะไรอยู่ในปากมันเสียมารยาทน่ะครับ?
จุน: งั้นก็ขอโทษทีแล้วกัน พอดีโดนเลี้ยงมาไม่ดีเท่าไหร่
ทัตสึมิ: ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ถึงจะมีน้ำชากระเซ็นใส่หน้า ผมก็ไม่ได้ขุ่นข้องใจอะไรอยู่แล้ว เดี๋ยวค่อยไปล้างเอาที่หลังก็ได้น่ะครับ
จุน: ประหลาดคนจังนะ
ทัตสึมิ: ก็โดนบอกแบบนั้นบ่อยๆ นะครับ จะว่าไปแล้ว คุณน่ะ ชื่อว่าอะไรนะ?
มีแค่ทางนี้ที่ถูกรู้ชื่ออย่างเดียวแล้วมันรู้สึกไม่สบายใจน่ะครับ ถ้าไม่รังเกียจช่วยบอกหน่อยได้หรือเปล่า?
จุน: อ๊ะ ผมชื่อซาซานามิ จุน... ครับ
ทัตสึมิ: หืม ซาซานามิ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนเลย
จุน: นี่ผม เป็นข่าวลือไปไกลแค่ไหนแล้วครับเนี่ย?
ทัตสึมิ: ไม่ใช่ครับๆ จริงอยู่ที่การมีเด็กถูกพักการเรียนตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนมันจะหายากก็เถอะ
แต่น่าเสียดายที่ "นักเรียนทุน" ไม่ค่อยจะให้ความสนใจ "พวกคุณ" เท่าไหร่หรอกครับ
อย่างมากก็แค่ได้ยินแว่วระหว่างเวลาน้ำชาว่า "ไอ้เจ้าเด็กใหม่อวดดี!" ก็จริง แต่ก็ไม่ได้เห็นอยู่ในสายตาเสียด้วยซ้ำ
จุน: .........
ทัตสึมิ: อ๋อ จริงด้วย นึกออกแล้วล่ะครับ เมื่อก่อนเคยมีไอดอลที่ชื่อซาซานามิอยู่ด้วยนี่นา
ในเรย์เมย์มีคาบเรียนประวัติศาสตร์ไอดอลด้วย คุ้นๆ ว่าเคยได้ยินชื่อจากตอนนั้นน่ะ
จุน: ต้องบอกว่าเป็นคาบเรียนสำหรับ "นักเรียนทุน" อย่างพวกนายมากกว่ามั้ง พวกเราโดนยัดงานให้ทำตลอดตั้งแต่เช้ายันเย็นจนแทบไม่ได้เรียนอะไรเป็นชิ้นเป็นอันด้วยซ้ำ
แถมคาบเรียนก็ดูธรรมดาๆ เหมือนโรงเรียนทั่วๆ ไปด้วย นี่มันโรงเรียนเสริมสร้างไอดอลพรรค์ไหนกัน
ยังไง "ไม่ใช่นักเรียนทุน" อย่างพวกเราก็เป็นไอดอลไม่ได้อยู่แล้ว ก็เลยเหมือนสอนส่งๆ ให้ไม่ต้องลำบากตอนไปอยู่ในสังคมจริงอย่างเดียวー
ทัตสึมิ: นั่นเองก็เป็นปัญหาเหมือนกันครับ เพราะข้ออ้างที่ว่า "เพื่อให้พวกคุณไม่ต้องลำบากในอนาคต" กดหัดอยู่ ก็เลยวิจารณ์อะไรได้ลำบากด้วย
ละเรื่องนั้นไว้ก่อน นี่หรือว่า คุณจะเป็นลูกชายของคุณซาซานิมิผู้เคยเป็นไอดอลโด่งดังในอดีตเหรอครับ
หน้าตาเองก็ดูคล้ายๆ กับรูปของคุณซาซานามิที่อยู่ในหนังสือเรียนด้วย
จุน: ถ้าใช่แล้วทำไมล่ะครับ
ทัตสึมิ: เปล่าครับ แต่ก็ทำให้เข้าใจอะไรหลายๆ อย่างได้แล้วล่ะ
จุน: หา? ก็แล้วถ้าผมเป็นลูกชายของหมาขี้แพ้ที่โดนซุปเปอร์ไอดอลซากามิ จิน บดขยี้จนต้องหายไปจากวงการบันเทิงแล้วมันทำไมกันล่ะครับ?
ทัตสึมิ: ผมก็ไม่ได้คิดยังไงหรอกครับ แต่เหมือนว่าเหล่าอาจารย์จะเอะใจถึงเรื่องนั้นได้แล้วน่ะ
จุน: หมายความว่ายังไงครับ...?
ทัตสึมิ: คนใหญ่คนโตของเรย์เมย์ー ไม่สิ ของคอสโปรน่ะ หวาดกลัวเรื่องอื้อฉาวที่สุดเลยล่ะครับ ไม่สิ เรียกว่ากลัวสิ่งที่จะมาทำร้ายชื่อเสียงของแบรนด์ดีกว่า
ในส่วนนั้น เพราะคุณมีพ่อที่โดนดูถูกว่าเป็น "หมาที่แว้งกัดซุปเปอร์ไอดอล" อยู่ คุณก็เลยถูกหักคะแนนการประเมินยังไงล่ะครับ
เป็นไปได้ว่า เพราะเป็นลูกของคนที่โดนดูถูก คุณเองก็เลยโดนดูถูกไปด้วยน่ะครับ
จุน: ...ไม่เกี่ยวกับพ่อซักหน่อย
ทัตสึมิ: ถึงจะน่าเศร้าแต่ก็มีคนที่ไม่ได้คิดเช่นนั้นอยู่นะครับ น่าเสียดายที่บนโลกนี้มีคนจำพวกที่คิดว่าลูกไม้ต้องหล่นไม่ไกลต้นอยู่มากด้วย
ลูกเป็นผู้รับผลกรรมที่พ่อก่อー อันที่จริงคุณพ่อของคุณ ก็ไม่ได้ก่อเรื่องอื้อฉาวถึงขนาด "อาเคโฮชิคนนั้น" เสียด้วยซ้ำ
ชื่อของคุณที่ถูกตราสัญลักษณ์ของหมาขี้แพ้เอาไว้ สำหรับผู้บริหารแล้วมันคงเป็น "รอยแปดเปื้อน" ที่เมินเฉยไปไม่ได้น่ะครับ
จุน: อะไรเนี่ย... ไม่เห็นเข้าใจเลยซักนิด
ทัตสึมิ: นั่นสินะครับ ผมคงพูดได้แค่ว่า คุณค่าความเป็นมนุษย์ของไอดอลอย่างพวกเรานั้น อยู่ในจุดยืนที่จะต้องถูกตัดสินจากผู้อื่นยังไงล่ะครับ
ทั้งความดีความชั่วของพวกเราจะถูกแฟนคลับและสังคม ผ่าชำแหละออกมาตัดสินอย่างละเอียดถี่ถ้วน ดังนั้นแล้ว พวกเราจึงต้องตระหนักรู้ถึงข้อดีข้อเสียของตัวเองไว้ให้ดีー
จุน: ...ฮะๆ♪
ทัตสึมิ: ? เป็นอะไรเหรอครับ นี่ผมพูดอะไรตลกๆ ออกไปเหรอ?
จุน: เปล่า ขอโทษที ก็เมื่อกี๊ นายพูดว่า "ไอดอลอย่างพวกเรา" ไม่ใช่เหรอ
เป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้ามาในโรงเรียนนี้เลยที่ผมถูกปฏิบัติด้วยอย่างไอดอล... พอคิดแบบนั้นมันก็เลย หัวเราะออกมาน่ะ
ทัตสึมิ: .........
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น