วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

Obbligato - เรือของคนโง่/ตอนที่ 2

 

<10นาทีต่อมา ภายในพื้นที่โรงเรียนเรย์เมย์ หอประชุมที่สอง>

อิบาระ: เหล่าไอดอลจากโรงเรียนเรย์เมย์ทุกคน! เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่มารวมตัวกันในวันนี้! รักทุกคน~♪

ทัตสึมิ: อะไรน่ะครับ การทักทายที่แสนวิเศษแบบนั้น...♪

จุน: ก็ช่วงนี้ เจ้าหมอนี่พยายามกระเสือกกระสนเปลี่ยนคาแรกเตอร์ตัวเองไปในทางแปลกๆ โดยเปล่าประโยชน์อยู่น่ะสิครับ~?

อิบาระ: ครับ! ตั้งใจว่าจะปฏิบัติตัวโดยที่ไม้ใช้ถ้อยคำที่ก่อให้เกิดความไม่สบายใจ ในฐานะผู้รับใช้แห่งความรักและสันติภาพอยู่ครับ! วันทยาหัตถ์ー เอ้ยไม่ใช่ รักทุกคน~♪

HiMERU: ーมันจะกลายเป็นอย่าง "Dr.*trangelove" เอานะครับ (ล้อชื่อหนังDr.Strangelove เพราะคำว่ารักทุกคนของอิบาระ(博愛) มันเป็นส่วนส่วนหนึ่งของชื่อญี่ปุ่นของเรื่อง (博士の異常な愛情))

ทัตสึมิ: ฮึฮึ งดเว้นคำพูดที่ก่อให้เกิดความเกลียดชัง และแสดงความรักต่อทุกคนไม่แบ่งแยก เป็นการใส่ใจที่ยอดเยี่ยมมากเลยล่ะครับ

อิบาระ: ถึงจะเป็นแค่กลยุทธ์ทางการตลาดก็เถอะนะครับ! โดยเฉพาะตอน [SS] ที่ออกอากาศไปทั่วประเทศ มีเรื่องอื้อฉาวของ ES จะแพร่งพรายไปสู่ประชาชนทั่วไปอยู่บ้างด้วยー
ดังนั้นจึงทำให้มีแฟนๆ ที่เกิดความรู้สึกว่า "ไอดอลนี่น่ากลัวจัง...?" กันบ้างเล็กน้อย พวกเราจึงต้องมากู้คืนภาพลักษณ์กันอย่างไรล่ะครับ
[COMP] ที่มีไว้เพื่อให้โรงเรียนเสริมสร้างไอดอลในเครือคอสโปรครึกครื้นขึ้นเอง ก็เป็นโปรเจคที่สร้างขึ้นโดยเจตนารมณ์เช่นนั้นของฝั่ง ES เองด้วย
...แต่ว่าตามตรงก็ทำเอาอึดอัดน่าดูล่ะครับ เฮ้อ เครียดสุดๆ ไปเลย

จุน: ถึงอิบาระจะเป็นคนอย่างนั้นก็เถอะ แต่อย่าคาดว่าว่าสังคมจะเป็นไปตามความต้องการของตัวเองตลอดจะดีกว่านะครับ~?

อิบาระ: รู้อยู่แล้วล่ะครับ คิดว่าเราใช้ชีวิตปะปนอยู่กับผู้ใหญ่มากี่ปีแล้วกัน?

HiMERU: ーรองผอ. ขอคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนั้นเพิ่มเติมด้วยครับ

ทัตสึมิ: นั่นสิครับ คำถามยังไม่คลี่คลายเลย ถึงไม่ว่าจะได้รับงานแบบไหนมา ผมก็ตั้งใจว่าจะทำให้ดีที่สุดอยู่แล้วก็เถอะ
แล้วผม เดิมทีตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่กับคอสโปรแล้วด้วย...
จะให้เข้าร่วมใน [COMP] ที่มีวัตถุประสงค์หลักเป็นการทำให้โรงเรียนเสริมสร้างไอดอลในเครือคอสโปรครึกครื้นขึ้นเนี่ย มันจะดีเหรอครับ?

อิบาระ: ดีแน่นอนครับหากคุณไม่รังเกียจล่ะก็♪ แน่นอนว่าจะจ่ายค่าตอบแทนไม่อั้นอยู่แล้ว!

ทัตสึมิ: ฮึฮึ พวกเราไม่ได้ลำบากเรื่องเงินแล้วด้วย ไม่ได้จำเป็นต้องฝืนตัวเองเพื่อหา [L$] หรอกนะครับ
แต่ว่า ผมก็เริ่มจะคุ้นชินกับการเคลื่อนไหวเป็นหมู่คณะกับเพื่อนๆ ใน [ALKALOID] แล้วด้วย เลยคิดว่าจะมาเพิ่มทักษะสกิลส่วนบุคคลเอาที่นี่ก็น่าจะดีเหมือนกัน
เพราะคิดเช่นนั้น ถึงได้มาเข้าร่วมแผนงานในครั้งนี้ครับ ต้องขอฝากตัวด้วยนะครับ

อิบาระ: ทางนี้ก็เช่นกัน! หากได้ "ผู้ปฏิวัติแห่งโรงเรียนเรย์เมย์" มาเป็นพวกพ้องด้วยล่ะก็ เทียบได้กับกำลังคนนับร้อยเลยล่ะครับ!
อันที่จริง แม้แต่ตอนนี้ในหมู่นักเรียนที่จบจากโรงเรียนเรย์เมย์ ก็ยังมีผู้เลื่อมไสในตัวคุณอยู่มากมายเลยล่ะครับ
หากไม่ได้ผู้คนจำนวนมากถึงขนาดนั้นมาเป็นพวกล่ะก็ เราคงคาดหวังความสำเร็จของ [COMP] ไม่ได้เป็นแน่

จุน: ฮะๆ ถ้าเกิดมีปัญหากันภายในระหว่าง "นักเรียนทุน" กับ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" ขึ้นมาอีก มันจะลำบากเอานา~?

HiMERU: ーคิดว่า เรื่องมันคงไม่ง่ายแบบนั้นหรอกนะครับ

อิบาระ: ถึงอย่างนั้น ถ้าได้เห็นคนที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของ "นักเรียนทุน" และ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" อย่างพวกคุณー
ถ้าได้เห็นคุณคาเซฮายะ ทัตสึมิ และคุณHiMERU มาเข้าร่วมแผนงาน และร่วมมือกันอย่างสนิทสนมแล้วล่ะก็ คนอื่นๆ เองก็คงไม่คิดที่จะมีเรื่องกันหรอกครับ

HiMERU: ーอย่างนี้นี่เอง เหตุผลที่ให้พวกเราเข้าร่วม [COMP] คือแบบนั้นเองสินะครับ

อิบาระ: ครับ นั่นเป็นกลยุทธ์ ไม่ใช่สิ เออ เป็นไอเดียอันแสนวิเศษของเราครับ

จุน: อิบาระ โดยพื้นฐานเป็นคนพูดจาโผงผางอยู่แล้ว ต้องมาเปลี่ยนวิธีพูดคงลำบากสินะครับ~♪

ทัตสึมิ: ไม่ต้องฝืนตัวเองก็ได้นะครับ

อิบาระ: ไม่หรอกครับ เรียกว่าอดกลั้นเพื่อผลลัพธ์ก็ได้ เราจะชี้นำ [COMP] ให้ประสบความสำเร็จให้ได้เลยครับ
แต่ว่า ถึงจะอธิบายกับจุนไปแล้วก็เถอะー
ยังไงพอเทียบกับยูเมะโนะซากิที่โดนโฆษณาว่าเป็นโรงเรียนเสริมสร้างไอดอลที่ ES มาคุมเองแล้ว ความนิยมของโรงเรียนเสริมสร้างไอดอลในเครือคอสโปรก็ค่อยๆ ถดถอยลงเรื่อยๆ เลยครับ
ยูนิตส่วนใหญ่ที่ได้ไปแข่งจริงใน [SS] เองก็มาจากยูเมะโนะซากิ กำลังฮอตฮิทในสังคมแบบระเบิดเถิดเทิงเลยล่ะครับ
อาจจะช่วยไม่ได้ก็จริง แต่ถ้าเป็นเรา ในสถานการณ์แบบนี้ก็คงลงทุนกับยูเมะโนะซากิเหมือนกัน

จุน: ถ้าฉันเป็นผู้ปกครองแล้วอยากให้ลูกตัวเองเป็นไอดอลล่ะก็ คงอยากให้ไปเข้ายูเมะโนะซากิที่สร้างผลงานใน [SS] เหมือนกันล่ะมั้ง

อิบาระ: ครับ นั่นแหละประเด็นหลัก เพราะโดยพื้นฐานแล้วคนจ่ายค่าเทอมก็คือผู้ปกครองไงครับ
ทว่า ในยุคนี้ที่เศรษฐกิจด้านอื่นนอกจากอุตสาหกรรมไอดอลตกต่ำนั้น ใช่ว่าทุกครอบครัวจะมีเงินถุงเงินถังกันหมด
ถึงยูเมะโนะซากิจะจัดตั้งระบบมอบทุนการศึกษาขึ้นมาแล้วก็จริง แต่ในเรื่องค่าเทอมก็เทียบกันกับเรย์เมย์ไม่ได้อยู่แล้วー

จุน: ทุนการศึกษามันก็คือการให้กู้ยืมนี่นะครับ ก็คงเหมือนกับการผูกมัดไว้ด้วยเงินกู้ เพื่อไม่ให้หนีไปจากวงการไอดอลนั่นแหละ

อิบาระ: ครับ ช่างเป็นวิธีการที่สมกับเป็นพืชกินแมลงอย่างท่านเอย์จิจริงๆ แต่ว่าในคราวนี้นั้นแตกต่างกับสมัยวิกฤติการณ์ฟองสบู่แตก ไม่ว่าใครต่างก็เป็นห่วงอนาคตด้วยกันทั้งนั้น
คงไม่ค่อยมีใครอยากทำความฝันให้เป็นจริงทั้งที่แบกรับเงินกู้อยู่หรอกครับ
ในจุดนั้น พวกเราคอสโปรมีบริษัทมากมายที่เราพวกก่อตั้งขึ้นมาเองคอยหนุนหลังให้อยู่
ถึงความสามารถในฐานะไอดอลจะไม่งอกเงยขึ้นตลอดระยะเวลาสามปีในการเป็นนักเรียนก็ตาม แต่หากเข้าบริษัทของพวกเราก็มีโอกาสจะกลับเป็นคนทั่วไปได้ครับ
แน่นอนว่า เราก็ต้องเน้นหาบุคลากรจากนักเรียนที่จบมาจากโรงเรียนในเครืออยู่แล้ว
คนยุคนี้ที่มุ่งเน้นเรื่องความมั่นคงปลอดภัยไว้ก่อน จะต้องเลือกพวกเรามากกว่าสถานพนันอย่างยูเมะโนะซากิー แน่นอนครับ

ทัตสึมิ: ฮึฮึ เอย์จิซังมีแน้วโน้มว่าจะทำให้มนุษยชาติทุกคนเป็นไอดอลด้วยนี่นะครับ ในแง่นั้น คอสโปรที่เสนอทางเลือกให้กลับไปเป็นคนธรรมดาได้ จะได้เปรียบกว่า

อิบาระ: ครับ แม้การที่ท่านเอย์จิตั้งอุดมคติไว้สูงนั้นมันจะดีก็จริง แต่หากรีบไปจะเสียการเอาได้ โลกในตอนนี้เอง ก็ใช่ว่าจะถูกย้อมไปด้วยคอนเซปต์ของไอดอลล้วนๆ หรอกนะครับ
ไม่มีทางจะทำให้มนุษยชาติทั้งหมดเป็นไอดอลได้หรอก มันแน่นอนอยู่แล้วล่ะครับ
และตรงนั้น ก็จะมีช่องว่างให้พวกเราเข้าไปแทรกกลางได้
ไม่สิ และการทำให้ผู้คนจำนวนมาเลือกมาสถาบันของพวกเราไม่ใช่ยูเมะโนะซากินั้น ก็คือเป้าหมายของ [COMP] ยังไงล่ะครับ! รักทุกคน~♪

จุน: ยังไงก็คงชินไม่ลงสินะครับ~

Obbligato - เรือของคนโง่/ตอนที่ 1

 

*ชื่อตอน "เรือของคนโง่" อ้างอิงมาจากบทกวีแนวเสียดสีของเยอรมันที่ชื่อ Das Narrenschiff

<ปัจจุบัน หลายวันหลังจากการหารือเรื่อง [COMP] ที่สำนักงานคอสโปรー หน้าประตูโรงเรียนเรย์เมย์>

ทัตสึมิ: ...หืม นี่ผม เคยพูดแบบนั้นด้วยเหรอครับ?

จุน: ก็พูดน่ะสิครับ~! ลืมซะแล้วเหรอครับ ทัตสึมิเซมไป!?
ช็อกอยู่นะครับเนี่ย! ทั้งที่ผมได้คำพูดและท่าทีของทัตสึมิเซมไปช่วยเหลือเอาไว้ตั้งมากแท้ๆ!
เรียกว่าเพิ่งถูกปฏิบัติด้วยอย่างมนุษย์เป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้าเรย์เมย์เลย... เพราะงั้นก็เลยรู้สึกตราตรึงใจ แล้วก็มีตัวตนของทัตสึมิเซมไปคอยค้ำจุนจิตใจของผมเอาไว้มาตลอด

ทัตสึมิ: ฮึฮึ ล้อเล่นน่ะครับ เพราะผมคิดทบทวนเรื่องสมัยอยู่เรย์เมย์ซ้ำไปซ้ำมาตลอด ก็เลยยังจำบทสนทนาแรกที่คุยกับเธอได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ
ถึงจะรู้สึกอายตัวเองที่ทำท่าทางอวดเก่งอยู่บ้างก็เถอะ

จุน: ก็ทัตสึมิเซมไปเก่งจริงๆ นี่นา เพราะงั้นไม่เป็นไรหรอกครับ~! แถมยังเป็นทั้งรุ่นพี่ แล้วก็ "ผู้ปฏิวัติโรงเรียนเรย์เมย์" เลยนี่นา!

ทัตสึมิ: ผู้ปฏิวัติ เหรอครับ แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าด้วย ควรจะเรียกว่าก่อการร้ายมากกว่าปฏิวัตินะครับ

จุน: ถ่อมตัวเกินไปแล้ว! แล้วก็ ไม่ได้ถึงกับล้มเหลวนี่ครับ? ถึงระหว่างนั้นทัตสึมิเซมไปจะได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องดรอปเรียนกลางคันก็เถอะー
แต่ผลสุดท้าย ก็เปลี่ยนแปลงโรงเรียนเรย์เมย์ได้

ทัตสึมิ: ที่สำเร็จไม่ใช่เพราะผมหรอกครับ น่าจะเป็นผลงานของอิบาระซังที่ถูกส่งมาประจำที่เรย์เมย์แทนผมมากกว่า

จุน: ไม่หรอก เจ้านั่นก็แค่กอบโกยผลประโยชน์ตัวเองเฉยๆ นั่นแหละ!
แล้วก็ ที่ตอนนี้เจ้านั่นทำหน้าตาอวดเบ่งอยู่ได้ ก็เป็นเพราะทัตสึมิเซมไปปูรากฐานการปฏิวัติเอาไว้ก่อนแล้วไม่ใช่หรือไงครับ?
ถ้าไม่มีทัตสึมิเซมไปล่ะก็ คงไม่มีอะไรได้เริ่มต้นขึ้นใหม่หรอกครับ~♪

ทัตสึมิ: อวยกันน่าดูเลยนะครับ แหม เขินจังเลย

HiMERU: ーซาซานามิ ถ้าชมคนของสำนักงานอื่น เดี๋ยวจะโดนครหาว่ายื่นเกลือให้ศัตรูเอานะครับ

จุน: อย่าพูดอะไรให้มันยุ่งยากได้ไหมครับ? แล้วก็ ไอ้ที่ชวนงงที่สุดก็คือนายนั่นแหละー จู่ๆ มาวันนึวคาแรกเตอร์ก็เปลี่ยนไปเฉยเลย?
เออ ต้องเรียกว่า HiMERU ใช่ไหมนะ

HiMERU: ーก็น่าจะยืนกรานไปหลายรอบแล้วนะครับ ว่า "อดีตอันน่าอับอาย" ของ HiMERU ก็ถูกฝังไปพร้อมๆ กับชื่อจริงแล้ว
ーคุณต่างหากครับที่แปลกกว่า ทั้งที่คุณต้องลงแรงพยายามเกินจำเป็นเพราะความผิดของพ่อแท้ๆ ทำไมถึงไม่ใช้ชื่อในวงการอย่าง HiMERU ล่ะครับ

จุน: อ๋อ... ไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นมาก่อนเลยแฮะ~ ว่าไงดี อาจจะเป็นทิฐิก็ได้
เพราะถึงจะเปลี่ยนชื่อไป ผมก็ยังเป็นผมอยู่ดี ในยุคนี้ที่อินเตอเน็ทเข้าถึงอย่างเต็มรูปแบบ ถึงจะพยายามปกปิดพื้นเพของตัวเองขนาดไหนมันก็ทำไม่ได้หรอกครับ
ยังไงซะผมก็ไม่มีทางหนีไปจากชื่อซาซานามิได้ตลอดชีวิตด้วย เพราะงั้นผมก็เลยมีแต่ต้องพยายาม เพื่อยกคุณค่าของชื่อนั้นให้มากขึ้นไม่ใช่หรือไงครับ
เปลี่ยนชื่อตัวเองแล้วใช้ชีวิตเป็นคนอื่น มันก็คือการหนีนะครับ~ การหนีน่ะ

HiMERU: ー"แทงใจดำจังนะครับ" พูดแบบนี้แล้วพอใจหรือยัง

จุน: ...น่าหงุดหงิดไม่เปลี่ยนเลยนะนายเนี่ย ถึงที่ผ่านมาผมจะโดนจงใจหลบหน้าตลอด เลยไม่ได้คุยกันเป็นชิ้นเป็นอันแบบนี้นานแล้วก็เถอะ
แต่ความน่าหมั่นไส้นี่ ไม่เปลี่ยนไปจากตอนเจอกันครั้งแรกเลยนะครับ~?

HiMERU: ーงั้นเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นก็เป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยล่ะ

จุน: ...? ยิ่งไปกว่านั้น มัวแต่คุยเรื่องเมื่อก่อนกันซะเพลินเลยー ชักจะหนาวแล้วด้วย รีบเข้าไปในอาคารดีกว่าครับ

HiMERU: แล้วเห็น HiMERU อยากคุย "เรื่องนั้น" นักหรือไงครับ? พวกคุณมัวแต่ยืนคุยกันยืดยาดเองนั่นแหละー

จุน: จะทิ้งพวกเราไว้แล้วล่วงหน้าไปก่อนก็ได้แท้ๆ

HiMERU: ーHiMERU ถูกเรียกตัวมากระทันหัน ก็เลยไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวเท่าไหร่ไงครับ ทัตสึมิเองก็น่าจะเหมือนกันไม่ใช่เหรอ

ทัตสึมิ: ครับ ที่ว่าจะมาถ่ายทำการไลฟ์ในโรงเรียนเรย์เมย์นี้ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของ [COMP] อะไรซักอย่างนี่แหละ

HiMERU: ーเหมือนจะอย่างนั้นนะครับ แต่ก็คงไม่ได้จะให้ถ่ายจริงโดยไม่มีการเตรียมตัวอยู่เลย เลยสันนิษฐานว่าเดี๋ยวคงมีการไปปรึกษาหารือกันก่อนที่ไหนซักที่
แล้วคุณ ก็เลยได้รับหน้าที่ให้มาช่วยนำทางไม่ใช่หรือไงครับ ซาซานามิ?

จุน: ใช่คร้าบๆ โทษที พอเห็นทัตสึมิเซมไปมาอยู่ที่เรย์เมย์แล้ว มันก็รู้สึกอู้หูอ้าหาจนความทรงจำมันพรั่งพรูน่ะสิ♪

ทัตสึมิ: ฮึฮึ จุนซังที่แจ่นมาหาพลางพูดนู่นพูดนี่ น่ารักราวลูกสุนัขเลยล่ะครับ

HiMERU: ーครับ น่ารำคาญเหมือนลูกสุนัขเลย

จุน: ฮะๆ เข้าขากันสุดๆ สนิทกันไม่เปลี่ยนเลยนะครับ~ พวกนายเนี่ย

HiMERU: ーน่ามหัศจรรย์จังเลยนะครับที่ต่อมการรับรู้มันบิดเบือดไปเป็นแบบนั้นได้เนี่ย

จุน: ก็ พวกนายตัวติดกันมาตั้งแต่สมัยอยู่เรย์เมย์แล้วไม่ใช่เหรอ

HiMERU: ーหึ อย่างมาก HiMERU ก็เป็นแค่หนึ่งใน "ผู้ศรัทธา" ที่มีอยู่มากมายของทัตสึมิเท่านั้นล่ะครับ
ーแน่นอนว่าทัตสึมิเองก็คงรักใน "ผู้ศรัทธา" เหล่านั้นทั้งหมดอย่างเท่าเทียมเหมือนกัน

Obbligato - ศีลล้างบาปแก่ซาซานามิ จุน/ตอนที่ 6

 

<10 นาทีต่อมา>

ทัตสึมิ: อึ้ก อึ้ก อึ้ก♪
เฮ้อ ชาอร่อยจัง
ตื่นเต็มตาแล้วล่ะครับ คิดถูกจริงๆ ที่ชงแบบเข้มข้น

จุน: "นักเรียนทุน" กำลังดื่มชาที่ตัวเองชงเองอยู่...

ทัตสึมิ: ? ถึงจะเป็น "นักเรียนทุน" แต่ก็เป็นมนุษย์เหมือนๆ กันนี่ครับ จะดื่มชาก็ไม่น่ามีอะไรแปลกนี่นา?

จุน: ไม่ใช่เรื่องนั้น ก็พวกนายน่ะ ขนาดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการเตรียมชาก็จะโยนมาให้พวกเราทำตลอดไม่ใช่เหรอ อย่างหนักก็อาจถึงขั้นให้เปลี่ยนเสื้อให้เลยนะ?
ขุนนางกับทาสในเรือนเบี้ยหรือไง งี่เง่าชะมัด

ทัตสึมิ: ครับ น่าแปลกจังเลยนะ ทั้งที่ถ้าชงเองก็จะได้รสชาติกับอุณภูมิที่ตัวเองชอบแล้วแท้ๆ

จุน: คนอยากดื่มด่ำกับความรู้สึกเหนือกว่าด้วยการจิกหัวใช้งานคนอื่นล่ะมั้ง

ทัตสึมิ: หืม... ก็จริงนะครับ การที่มีคนอื่นคอยทำให้ทุกเรื่องก็คงจะมีความสุขอยู่หรอก
แต่การให้คนอื่นทำแทนทุกเรื่อง จะทำให้กลายเป็นมนุษย์ที่ใช้การไม่ได้เอานะครับ

จุน: ใช่ไหมล่ะ ที่นี่มันไม่ใช่โรงเรียนเสริมสร้างไอดอลแล้ว เป็นโรงงานผลิตมนุษย์ไม่ได้เรื่องต่างหาก

ทัตสึมิ: ฮึฮึ พูดฟังดูเข้าท่าดีนะครับ
อ๊ะ... แล้วก็ใบชานี้ เป็นใบชาเพาะเองที่ผมนำมาจากที่บ้านน่ะครับ

จุน: ก็ไม่ได้คิดว่าคุณไปขโมยของใครมาซะหน่อย

ทัตสึมิ: ฮึฮึ ถ้าไม่รังเกียจ คุณเองก็ดื่มด้วยสิครับ พอดีว่าเผลอต้มน้ำร้อนเยอะเกินไปหน่อย ถ้าเหลือทิ้งมันน่าเสียดายน่ะครับ

จุน: งั้น เออ~ ทานล่ะนะครับ

ทัตสึมิ: เชิญเลยๆ

จุน: .........

ทัตสึมิ: .........

จุน: ...คือว่า

ทัตสึมิ: ครับ? ถ้าจะคุยขอเอาไว้หลังดื่มชาเสร็จนะครับ เพราะถ้าพูดตอนมีอะไรอยู่ในปากมันเสียมารยาทน่ะครับ?

จุน: งั้นก็ขอโทษทีแล้วกัน พอดีโดนเลี้ยงมาไม่ดีเท่าไหร่

ทัตสึมิ: ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ถึงจะมีน้ำชากระเซ็นใส่หน้า ผมก็ไม่ได้ขุ่นข้องใจอะไรอยู่แล้ว เดี๋ยวค่อยไปล้างเอาที่หลังก็ได้น่ะครับ

จุน: ประหลาดคนจังนะ

ทัตสึมิ: ก็โดนบอกแบบนั้นบ่อยๆ นะครับ จะว่าไปแล้ว คุณน่ะ ชื่อว่าอะไรนะ?
มีแค่ทางนี้ที่ถูกรู้ชื่ออย่างเดียวแล้วมันรู้สึกไม่สบายใจน่ะครับ ถ้าไม่รังเกียจช่วยบอกหน่อยได้หรือเปล่า?

จุน: อ๊ะ ผมชื่อซาซานามิ จุน... ครับ

ทัตสึมิ: หืม ซาซานามิ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนเลย

จุน: นี่ผม เป็นข่าวลือไปไกลแค่ไหนแล้วครับเนี่ย?

ทัตสึมิ: ไม่ใช่ครับๆ จริงอยู่ที่การมีเด็กถูกพักการเรียนตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนมันจะหายากก็เถอะ
แต่น่าเสียดายที่ "นักเรียนทุน" ไม่ค่อยจะให้ความสนใจ "พวกคุณ" เท่าไหร่หรอกครับ
อย่างมากก็แค่ได้ยินแว่วระหว่างเวลาน้ำชาว่า "ไอ้เจ้าเด็กใหม่อวดดี!" ก็จริง แต่ก็ไม่ได้เห็นอยู่ในสายตาเสียด้วยซ้ำ

จุน: .........

ทัตสึมิ: อ๋อ จริงด้วย นึกออกแล้วล่ะครับ เมื่อก่อนเคยมีไอดอลที่ชื่อซาซานามิอยู่ด้วยนี่นา
ในเรย์เมย์มีคาบเรียนประวัติศาสตร์ไอดอลด้วย คุ้นๆ ว่าเคยได้ยินชื่อจากตอนนั้นน่ะ

จุน: ต้องบอกว่าเป็นคาบเรียนสำหรับ "นักเรียนทุน" อย่างพวกนายมากกว่ามั้ง พวกเราโดนยัดงานให้ทำตลอดตั้งแต่เช้ายันเย็นจนแทบไม่ได้เรียนอะไรเป็นชิ้นเป็นอันด้วยซ้ำ
แถมคาบเรียนก็ดูธรรมดาๆ เหมือนโรงเรียนทั่วๆ ไปด้วย นี่มันโรงเรียนเสริมสร้างไอดอลพรรค์ไหนกัน
ยังไง "ไม่ใช่นักเรียนทุน" อย่างพวกเราก็เป็นไอดอลไม่ได้อยู่แล้ว ก็เลยเหมือนสอนส่งๆ ให้ไม่ต้องลำบากตอนไปอยู่ในสังคมจริงอย่างเดียวー

ทัตสึมิ: นั่นเองก็เป็นปัญหาเหมือนกันครับ เพราะข้ออ้างที่ว่า "เพื่อให้พวกคุณไม่ต้องลำบากในอนาคต" กดหัดอยู่ ก็เลยวิจารณ์อะไรได้ลำบากด้วย
ละเรื่องนั้นไว้ก่อน นี่หรือว่า คุณจะเป็นลูกชายของคุณซาซานิมิผู้เคยเป็นไอดอลโด่งดังในอดีตเหรอครับ
หน้าตาเองก็ดูคล้ายๆ กับรูปของคุณซาซานามิที่อยู่ในหนังสือเรียนด้วย

จุน: ถ้าใช่แล้วทำไมล่ะครับ

ทัตสึมิ: เปล่าครับ แต่ก็ทำให้เข้าใจอะไรหลายๆ อย่างได้แล้วล่ะ

จุน: หา? ก็แล้วถ้าผมเป็นลูกชายของหมาขี้แพ้ที่โดนซุปเปอร์ไอดอลซากามิ จิน บดขยี้จนต้องหายไปจากวงการบันเทิงแล้วมันทำไมกันล่ะครับ?

ทัตสึมิ: ผมก็ไม่ได้คิดยังไงหรอกครับ แต่เหมือนว่าเหล่าอาจารย์จะเอะใจถึงเรื่องนั้นได้แล้วน่ะ

จุน: หมายความว่ายังไงครับ...?

ทัตสึมิ: คนใหญ่คนโตของเรย์เมย์ー ไม่สิ ของคอสโปรน่ะ หวาดกลัวเรื่องอื้อฉาวที่สุดเลยล่ะครับ ไม่สิ เรียกว่ากลัวสิ่งที่จะมาทำร้ายชื่อเสียงของแบรนด์ดีกว่า
ในส่วนนั้น เพราะคุณมีพ่อที่โดนดูถูกว่าเป็น "หมาที่แว้งกัดซุปเปอร์ไอดอล" อยู่ คุณก็เลยถูกหักคะแนนการประเมินยังไงล่ะครับ
เป็นไปได้ว่า เพราะเป็นลูกของคนที่โดนดูถูก คุณเองก็เลยโดนดูถูกไปด้วยน่ะครับ

จุน: ...ไม่เกี่ยวกับพ่อซักหน่อย

ทัตสึมิ: ถึงจะน่าเศร้าแต่ก็มีคนที่ไม่ได้คิดเช่นนั้นอยู่นะครับ น่าเสียดายที่บนโลกนี้มีคนจำพวกที่คิดว่าลูกไม้ต้องหล่นไม่ไกลต้นอยู่มากด้วย
ลูกเป็นผู้รับผลกรรมที่พ่อก่อー อันที่จริงคุณพ่อของคุณ ก็ไม่ได้ก่อเรื่องอื้อฉาวถึงขนาด "อาเคโฮชิคนนั้น" เสียด้วยซ้ำ
ชื่อของคุณที่ถูกตราสัญลักษณ์ของหมาขี้แพ้เอาไว้ สำหรับผู้บริหารแล้วมันคงเป็น "รอยแปดเปื้อน" ที่เมินเฉยไปไม่ได้น่ะครับ

จุน: อะไรเนี่ย... ไม่เห็นเข้าใจเลยซักนิด

ทัตสึมิ: นั่นสินะครับ ผมคงพูดได้แค่ว่า คุณค่าความเป็นมนุษย์ของไอดอลอย่างพวกเรานั้น อยู่ในจุดยืนที่จะต้องถูกตัดสินจากผู้อื่นยังไงล่ะครับ
ทั้งความดีความชั่วของพวกเราจะถูกแฟนคลับและสังคม ผ่าชำแหละออกมาตัดสินอย่างละเอียดถี่ถ้วน ดังนั้นแล้ว พวกเราจึงต้องตระหนักรู้ถึงข้อดีข้อเสียของตัวเองไว้ให้ดีー

จุน: ...ฮะๆ♪

ทัตสึมิ: ? เป็นอะไรเหรอครับ นี่ผมพูดอะไรตลกๆ ออกไปเหรอ?

จุน: เปล่า ขอโทษที ก็เมื่อกี๊ นายพูดว่า "ไอดอลอย่างพวกเรา" ไม่ใช่เหรอ
เป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้ามาในโรงเรียนนี้เลยที่ผมถูกปฏิบัติด้วยอย่างไอดอล... พอคิดแบบนั้นมันก็เลย หัวเราะออกมาน่ะ

ทัตสึมิ: .........

วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

Obbligato - ศีลล้างบาปแก่ซาซานามิ จุน/ตอนที่ 5

 

<สามปีก่อน หนึ่งสัปดาห์หลังพิธีปฐมนิเทศของโรงเรียนเรย์เมย์ หอพักสำหรับ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" ของโรงเรียนเรย์เมย์ ชื่อเรียก "ห้องโหลยโท่ย">

จุน: (ญี่ปุ่นยกเลิกระบบชนชั้นวรรณะมากี่ร้อยปีแล้ว ไอ้เราก็ไม่ได้เรียนมาเลยไม่ค่อยรู้ก็จริง)
(แต่ในโรงเรียนเรย์เมย์นี้ มีการใช้ระบบชนชั้นอย่างชัดเจนเลย)
(แค่สัปดาห์เดียว เราก็ได้รับรู้เรื่องนั้นซึ้งถึงกระดูกแล้ว)
(ทันทีที่เข้าเรียนในโรงเรียนเรย์เมย์ ก็จะถูกสำรวจตรวจสอบถึงคุณสมบัติและความสามารถในฐานะไอดอลอย่างละเอียดถี่ถ้วน และถูกจับแบ่งเป็น "นักเรียนทุน" และ "นอกเหนือจากนั้น" )
(และ ในโรงเรียนเรย์เมย์นี้ "นักเรียนทุน" จะถูกให้ท้ายเป็นอย่างมาก)
(ไม่สิ สำหรับที่นี่แล้ว คนที่เป็นนักเรียน คนที่เป็นไอดอล มีแค่ "นักเรียนทุน" เท่านั้น)
(ส่วนพวกเราที่ "นอกเหนือจากนั้น" จะไม่ได้รับการยอมรับจากเจ้าพวกดิเลิศประเสริฐศรีพวกนั้นว่าเป็นมนุษย์เลยด้วยซ้ำ)
(ตั้งแต่ตื่นยันนอน พวกเราถูกบังคับให้ต้องคอยดูแล "นักเรียนทุน" อย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น)
(ทั้งการเตรียมอาหาร เตรียมชุดเปลี่ยน หรือกระทั่งทำความสะอาดและเก็บกวาดห้องซ้อมที่ "นักเรียนทุน" ผู้แสนยิ่งใหญ่ใช้งาน)
(จะที่อยู่อาศัย ห้องเรียน เนื้อหาการเรียนการหรืออื่นๆ ทุกอย่างแตกต่างกับ "นักเรียนทุน" ราวฟ้ากับเหว)
(พวกเราเอาแต่โดนใช้งานเพื่อให้ "นักเรียนทุน" ได้ใช้ชีวิตและทำกิจกรรมไอดอลกันได้อย่างสุขสบาย)
(ก็มันช่วยไม่ได้นี่หว่า! ก็พวกเรามันใช้ไม่ได้ในฐานะไอดอลเองนี่นา!)
(ก็มันโดนตัดสินเป็นอย่างนั้นไปแล้วนี่นา! ทั้งที่ยังไม่ได้มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยแท้ๆ!)
(...นี่เรา คงจะไร้พรสวรรค์ในฐานะไอดอลมากกว่าที่ตัวเองคิดสินะ ก็เราไม่ได้เป็น "นักเรียนทุน" นี่นา)
(ทั้งที่พยายามมาตั้งขนาดนั้น ในขณะที่เด็กวัยเดียวกันมีพ่อแม่ใจดูคอยดูแลประคบประหงม นั่งเล่นเกมสบายใจเฉิบ)
(ทั้งที่ทุกวัน เราพยายามสายตัวแทบขาดโดยไม่อิดออดเลยแท้ๆ แม่งเอ้ย แม่งเอ้ย แม่งเอ้ย)

ทัตสึมิ: .........

จุน: ......!?
...เอ๊ะ? อ๊ะ? หือ?

ทัตสึมิ: อรุณสวัสดิ์ครับ♪

จุน: นาย เออ... คาเซฮายะ ทัตสึมิー เซมไป

ทัตสึมิ: ฮึฮึ ขอบคุณนะครับ รู้จักผมด้วยสินะ

จุน: นาย เมื่อตอนปฐมนิเทศ...

ทัตสึมิ: อ๋อ จะว่าไปแล้วก็แนะนำตัวไปเมื่อตอนนั้นนี่นะครับ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดีใจอยู่ดีครับที่คุณจำได้
ที่สำคัญกว่านั้น นี่น่าจะได้เวลาที่ "พวกคุณ" จะต้องเตรียมตัวเสร็จแล้วเข้าร่วมมีทติ้งตอนเช้าแล้วไม่ใช่เหรอครับ
ถ้าไม่รีบตื่นล่ะก็ จะไม่เหลือแม้แต่เวลาทานข้าวนะครับ

จุน: มันก็ใช่อยู่หรอกครับ... คือผม ก่อนหน้านี้ก่อเรื่องไว้นิดหน่อยก็เลยถูกอาจารย์ต่อว่าแล้วพักการเรียนอยู่น่ะ

ทัตสึมิ: อ๋อ จำได้ว่าเคยได้ยินเรื่องทำนองนั้นอยู่นะครับ ที่ว่ามีนักเรียนใหม่ใจห้าว ใช้กำลังกับ "นักเรียนทุน" อะไรนี่แหละ

จุน: ใช้กำลังซะที่ไหนเล่า! แค่เถียงกันนิดๆ หน่อยๆ เองนะเฮ้ย! นี่มันยังไงเนี่ย ในหมู่พวกคุณเรื่องมันบิดกลายเป็นว่าผมเป็นฝ่ายไปต่อย "นักเรียนทุน" งั้นเหรอ!?

ทัตสึมิ: หืม ก็ได้ยินข่าวลือแบบนั้นอยู่นะครับ แต่เหมือนจะผิดจากความเป็นจริงจริงๆ ด้วยสินะ
แค่มองตาคุณก็รู้แล้วล่ะครับ ว่าคุณคงไม่ใช่คนเลวร้ายที่จะสร้างปัญหาให้ผู้อื่นไปทั่วเป็นแน่

จุน: นายจะมาเข้าใจอะไรผมกัน... เป็นท่าน "นักเรียนทุน" ผู้แสนพรั่งพร้อมไม่ใช่หรือไง?

ทัตสึมิ: ก็จริง ที่ผมเองก็เป็น "นักเรียนทุน" เหมือนกันก็เถอะ

จุน: ไม่ต้องมาก็จริงอะไรเลย ในโรงเรียนเรย์เมย์นี้ มีแค่ฐานะนั้นที่สำคัญที่สุดไม่ใช่หรือไงー

ทัตสึมิ: ไม่หรอกครับ ถึงคุณจะพูดแบบนั้น แต่เชื่อว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เหรอครับ?

จุน: หา?

ทัตสึมิ: ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ช่างน่าเศร้าจริงๆ ครับ ที่สภาพแวดล้อมนี้ทำให้คุณต้องคิดเช่นนั้น

จุน: ...ว่าแต่ นายเป็น "นักเรียนทุน" แท้ๆ มีธุระอะไรที่ห้องโหลยโท่ยนี่ล่ะ
เข้ามาในที่แบบนี้ ไม่โดน "เพื่อนพ้อง" คนอื่นมองตาขวางเอาเหรอ

ทัตสึมิ: เดิมทีผมกับ "นักเรียนทุน" คนอื่นก็เข้าหน้ากันไม่ค่อยติดอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับว่าจะโดนมองตาขวางไหมแล้วล่ะครับ
แล้ว ถึงนี่เองก็จะเป็นความจริงอันน่าเศร้าเหมือนกันก็เถอะ แต่ถึง "นักเรียนทุน" จะคิดทำอะไร ก็ไม่ค่อยเป็นปัญหาสำหรับโรงเรียนเรย์เมย์เท่าไหร่หรอกครับ พูดกลับกันก็คือ ถึงจะประพฤติผิดระดับที่ต้องลงโทษสถานหนักก็ตามー
ตัวอย่างเช่น แม้จะใช้กำลังกับคนอื่น แต่ถ้าอีกอีกฝั่งไม่ใช่ "นักเรียนทุน" เหมือนกันล่ะก็ บางทีพวกเราก็คงไม่ถูกซักถามความผิดเลยด้วยซ้ำ

จุน: ...อา ถ้าเรื่องนั้นล่ะก็เข้าใจแจ่มแจ้งเลยล่ะ ทำเอาตกใจมากกว่าด้วยซ้ำ ที่ถึงจะไปฟ้องอาจารย์ว่าโดน "นักเรียนทุน" ต่อยมา ก็ยังไม่หือไม่อืออะไรด้วยซ้ำ
กลับกันแล้ว แค่ผมไปปากดีใส่ "นักเรียนทุน" เข้าหน่อย ก็โดนพักการเรียนซะเฉย เฮงซวยโคตรๆ ไม่เห็นเข้าใจเลย ไม่ว่าใครหน้าไหนก็สมองเพี้ยนกันไปหมดแล้วหรือไงー

ทัตสึมิ: ก็เข้าใจความรู้สึกอยู่นะครับ แต่เราก็ไม่ควรพูดจาว่าร้าย หรือประนามหาว่าผู้อื่นเป็นปีศาจนะครับ
"เจ้าพวกนั้นเป็นมนุษย์ที่แตกต่างจากพวกเรา" การแบ่งแยกเริ่มต้นขึ้นจากความคิดเช่นนั้นครับ
และ การแบ่งแยกนั้น ก็จะกลายเป็นเมล็ดพันธ์แห่งโศกนาฎกรรมนับไม่ถ้วน

จุน: ที่แบ่งแยกน่ะมันทางนั้นมากกว่ามั้ง? ที่ใช้ยศ "นักเรียนทุน" กดหัวคนอื่นน่ะ?

ทัตสึมิ: ดังนั้นแล้ว การแบ่งพรรคแบ่งพวก จึงเป็นจุดด้อยที่พวกเรามนุษยชาติทั้งมวลสมควรแก้ไขอย่างไรล่ะครับ
พวกเรานั้นเท่าเทียมกันภายใต้พระเจ้า ไม่มีพรรคไม่มีพวกอะไรทั้งนั้นครับ ทั้งผมและคุณต่างก็เป็นมนุษย์ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียเหมือนๆ กัน

จุน: อะไรเนี่ย... นี่นายมาเพื่อเทศนาคำสอนน่าสงสัยแบบนั้นกับผมเหรอ?

ทัตสึมิ: เปล่าหรอกครับ หากทำให้รู้สึกไม่ดีก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ คงเป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่เติบโตมา ก็เลยซึมซับวิธีการพูดเช่นนี้ไปแล้ว
อันที่จริง ผมไม่ได้มาเพื่อพูดเรื่องนี้หรอกครับ แค่ว่าหลังจากวันนี้ผมก็จะมาอาศัยอยู่ที่นี่เหมือนกัน ก็เลยอยากจะมาทักทายพวกคุณที่เป็นผู้อยู่อาศัยเดิมน่ะครับ

จุน: หา? มาอาศัยอยู่ที่นี่? พวกนายน่าจะมีหอพักสุดเวอร์วังโดยเปล่าประโยชน์สำหรับ "นักเรียนทุน" อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?

ทัตสึมิ: ครับ แต่ผมย้ายจากที่นั่นมาอยู่ที่นี่แทนแล้วล่ะ

จุน: ทำไมถึงต้องจงใจทำแบบนั้นด้วย...?

ทัตสึมิ: ไม่ใช่ว่าผมเพี้ยนหรืออะไรหรอกนะครับ ผมเองก็มีความคิดของผม หรือจะเรียกว่ามีแผนอยู่ก็ได้

จุน: ...?

Obbligato - ศีลล้างบาปแก่ซาซานามิ จุน/ตอนที่ 4

 

ทัตสึมิ: "ขอกล่าวอีกครั้ง ถึงนักเรียนใหม่ทุกคนー ยินดีต้อนรับสู่นรก"

จุน: ...?

ทัตสึมิ: "ผมมีเรื่องที่ควรจะบอกกับพวกคุณเอาไว้ก่อนครับ พวกคุณคงจะเข้ารั้วโรงเรียนเรย์เมย์นี้มา โดยโอบอุ้มความฝันและความหวังเอาไว้ก็จริง"
"แต่ความฝันของพวกคุณจะไม่มีวันเป็นจริง ความหวังของพวกคุณจะต้องพังทลาย ชีวิตม.ปลายของพวกคุณตลอดสามปีจากนี้ คงจะต้องถูกแต่งแต้มไปด้วยความทุกข์ทรมานและความเสียใจเพียงอย่างเดียวแน่"

จุน: พูดอะไรของคนๆ นั้นเนี่ย...? เออ คาเซฮายะ อะไรนะ?

คานาเมะ: คาเซฮายะ ทัตสึมิครับ อืม... นึกว่าจะมาชี้แนะอะไรในฐานะตัวแทนนักเรียนเสียอีก แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดูแปลกๆ อยู่นะครับ

ทัตสึมิ: "โดยจุดยืนแล้ว อาจจะทำแบบนั้นไม่ได้ก็จริงー"
"แต่หากเป็นไปได้ล่ะก็ รีบทำเรื่องอะไรต่างๆ ให้เสร็จแล้วกลับไปเถอะครับ ตอนนี้ยังไม่สายเกินแน่ ไปเข้าเรียนในโรงเรียนเสริมสร้างไอดอลแห่งอื่นเถอะ"
"เดี๋ยวผมจะช่วยเรื่องนั้นเอง จะช่วยเป็นตัวแทนทำธุรการให้เท่าที่ทำได้ หรือถ้าจำเป็นจะออกเงินจำนวนหนึ่งให้ด้วยก็ได้"
"ดังนั้นแล้ว กลับไปเถอะครับ"
"ที่นี่ โรงเรียนเรย์เมย์นี้ ไม่ใช่สถานที่ที่จะให้เกียรติคุณในฐานะมนุษย์หรอกครับ"
"และในเวลาเดียวกัน ถึงจะอยู่ที่นี่ไป พวกคุณก็ไม่อาจได้เป็นไอดอลไปตลอดกาลเหมือนกัน"
"แม้จะน่าเศร้า แต่นั่นคือความจริงครับ"
"และก่อนที่ความเป็นจริงอันน่าสมเพชนั้น จะเปลี่ยนจากสิ่งที่เกิดใน "อนาคต" มาเป็น "ปัจจุบัน" ในระหว่างที่ยังไม่ต้องสูญเสียอะไรไปนั้นー ได้โปรด ไปจากที่นี่เถอะครับ"
"แล้วก็ โปรดลืมเรื่องของโรงเรียนเรย์เมย์ไปด้วย"
"นั่นคือ หนทางช่วยเหลือเพียงหนึ่งเดียวสำหรับพวกคุณแล้วครับ"
"แม้จะทำได้เพียงภาวนาก็จริง แต่อย่างน้อยผม ก็ขอภาวนาให้พวกคุณตัดสินใจในเรื่องนี้อย่างชาญฉลาดด้วยนะครับ"
"Amen ขอให้พระเจ้าสถิตอยู่กับพวกคุณ"
"......♪"

จุน: ...นี่มันอะไรเนี่ย? ไม่เห็นเข้าใจความหมายเรื่องที่พูดเลย!

คานาเมะ: ทะ ที่สำคัญกว่านั้น คาเซฮายะ ทัตสึมิกำลังตกอยู่ในอันตรายครับ! ดูนั่น พวกผู้ชายท่าทางบึกบึนที่ท่าทางจะเป็นอาจารย์ กำลังเข้าไปหาคาเซฮายะ ทัตสึมิแล้ว!?

จุน: หา? แล้วนี่มันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย ท่าทางจะไม่ใช่สถานการณ์ปกติสินะ...?

ทัตสึมิ: "...หมดเวลาแล้วสินะครับ น่าเสียดายจริงๆ"
"ทั้งที่ยังพูดไม่หมดเลยแท้ๆ"
"แต่ว่า นี่เองก็คงเป็นโชคชะตาที่พระเจ้าประทานให้เป็นแน่"
"ฮึฮึ ใครที่อยากฟังรายละเอียดให้มากกว่านี้ ตอนกลางคืน ก็มาที่ "คาตาคอมส์" คนเดียวสิครับ ส่วนเรื่องสถานที่ ถ้าลองถามจากพวกรุ่นพี่แถวหอพักนักเรียนดู ก็คงรู้ได้เองนั่นแหละ"

จุน: คาตา คอมบุ...?

คานาเมะ: หืม แล้วทำไมจู่ๆ ถึงพูดถึงเรื่องอาหารที่ดีต่อสุขภาพออกมาล่ะ...?

ทัตสึมิ: "ไม่ต้องเป็นวันนี้ก็ได้ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ผมก็ยินดีต้อนรับพวกคุณทุกเมื่อนะครับ"
"เพื่อชีวิตอันเป็นอิสระและอิ่มเอมใจ และเพื่ออนาคตอันส่องประกายของพวกคุณ ได้โปรดเชิญใช้เวลาของผมด้วยเถอะครับ"
"ーเช่นนั้นก็ ขอตัวก่อน♪"

จุน: (โห? คนที่ชื่อคาเซฮายะ ทัตสึมิคนนั้น วิ่งฝ่าพวกอาจารย์ที่ไล่ตามได้อย่างดงามเลย! สมรรถภาพทางร่างกายสุดยอดมาก! ทั้งที่ภายนอกดูเป็นคนเอื่อยๆ แท้ๆ!)
(อย่างกับสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่เลยแฮะ! เจ๋งโคตร, ไปเลย! ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่อย่าแพ้ล่ะ หนีให้ได้ก่อนที่จะโดนอาจารย์จับนะ!)

ทัตสึมิ: ~...♪

คานาเมะ: ...หืม ดูเหมือนว่าคาเซฮายะ ทัตสึมิ จะแอบลอบบุกรุกเข้ามาเองสินะครับ
ตอนนี้ มีประกาศแจ้งไปทั่วแล้วล่ะครับ ว่าคนที่ควรเป็นตัวแทนนักเรียนมากล่าวทักทายพวกเธอที่ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" พอถึงเวลาแล้วกลับหายไปไหนไม่รู้ー
แล้วคาเซฮายะ ทัตสึมิ กลับกลายเป็นคนที่ไปอยู่บนเวทีแทนด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบ
นี่มันเรื่องอะไรกันแน่นะ?

จุน: นั่นน่ะสิ... ถึงตั้งแต่ก้าวเข้ามาในโรงเรียนเรย์เมย์จนถึงตอนนี้ จะเจอแต่เรื่องอะไรแปลกๆ ก็เถอะ
แต่ก็ยังไม่อยากลืมทุกอย่างแล้วหนีไปอย่างที่คาเซฮายะ ทัตสึมิ... เซมไปพูดเลยแฮะ ยังมีเรื่องที่ติดใจสงสัยอยู่เยอะเกินไปหน่อย


<ปัจจุบัน ตีกES คอสมิค โปรดักชั่น>

จุน: ーถ้าไม่มัวแต่คิดเรื่องแบบนั้นแล้วรีบๆ หนีไปซะก็คงจะดีแล้วเชียว~
ที่จริง ก็ควรรับรู้ได้ตั้งแต่ตอนที่โดนคนที่เพิ่งเคยเจอครั้งแรกต่อยแล้วแท้ๆ ว่าเรย์เมย์มันวายป่วงแค่ไหน
แต่เราก็ยังประมาทเพราะคิดว่าทุกอย่างคงเป็นแค่ฝัน แล้วก็ไหลไปเรื่อยโดยไม่คิดอะไรอย่างกับคนบ้าซะได้
เรื่องนั้น ทำให้ผมนึกเสียใจมาตลอด... ทั้งที่ทัตสึมิเซมไปไม่ได้ล้อเล่นอะไรเลย ทุกเรื่องที่พูดตั้งแต่ต้นจนจบเป็น "ความจริง" หมดทุกอย่างแท้ๆ

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

Obbligato - ศีลล้างบาปแก่ซาซานามิ จุน/ตอนที่ 3

 

ทัตสึมิ: "♪~♪~♪"
"~......♪"
"Amen"
"ฮึฮึ สวัสดีครับนักเรียนใหม่ทุกคน ยินดีที่ได้รู้จัก"
"ผมคือนักเรียนปีสองของโรงเรียนเรย์เมย์ คาเซฮายะ ทัตสึมิครับ"

คานาเมะ: คาเซฮายะ ทัตสึมิ...?

จุน: คนรู้จักเหรอฮะ เออ โทโจ...คุง

คานาเมะ: แล้วทำไมต้องไม่รู้จักล่ะครับ คุณเองก็เถอะ ท่าทางแบบนั้นคงไม่รู้จักกระทั่งผมสินะ?

จุน: ไม่รู้จักแล้วผิดตรงไหนล่ะ ก็ผมโดนพ่อแม่พิลึกกึ่งๆ กักบริเวณสั่งให้ฝึกตนเป็นไอดอลอย่างเดียวมาตลอด เลยไม่ค่อยรู้เรื่องโลกภายนอกเท่าไหร่นี่นา

คานาเมะ: ? ฝึกตนเป็นไอดอล? ถ้าเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับไอดอล ก็ไม่มีทางจะไม่รู้จักพวกเรานี่นา?
มันขัดแย้งกันนะครับ หรือก็คือ เธอมันขี้โกหกไงล่ะ

จุน: อะไรของไอ้นี่เนี่ย น่ารำคาญชะมัด... ดูท่าทางฉลาดแต่ไร้กึ๋นสินะ

คานาเมะ: อ๊ะ หาว่าผมบ้าสินะครับ? เรื่องนั้นผมรู้นะ แต่เพราะผมไม่ได้บ้า ฉะนั้นเธอนั่นแหละที่ขี้โกหกจริงๆ ด้วย!

จุน: อย่าโหวกเหวกดิ มันเสียงดัง... เหมือนว่าพิธีปฐมนิเทศจะเพิ่งเริ่มด้วย ถ้าไม่เงียบหน่อยล่ะก็เดี๋ยวโดนอาจารย์หมายหัวเอาหรอก

คานาเมะ: เรื่องนั้นคงไม่เป็นปัญหาหรอกครับ มองรอบๆ ดูก็น่าจะรู้แล้วนี่ ว่าคณะอาจารย์ของโรงเรียนเรย์เมย์แห่งนี้ ไม่มาสนใจพวก "ไม่ใช่นักเรียนทุน" อย่างพวกเธอหรอก

จุน: ก็จริงแฮะ จำนวนอาจารย์ก็น้อย เรียกว่าแทบไม่เห็นเลยดีกว่า

คานาเมะ: ก็เพราะพวกเธอมันก็แค่ปลาซิวปลาสร้อย ที่ไม่มีค่าพอจะลงทุนด้วย และเหตุผลที่จะต้องแบ่งเวลาให้ยังไงล่ะครับ!

จุน: ก็บอกว่าเสียงดังไงเล่า... ทั้งที่รอบข้างนี้ก็มีแต่ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" อย่างที่ว่ามาแท้ๆ ยังพูดจาล่อตีนแบบนั้นได้อยู่อีกนะ นายเนี่ย

คานาเมะ: ไม่ใช่ "นาย" ผมคือโทโจ คานาเมะต่างหากครับ
ถ้าไม่รู้จักล่ะก็ จำไว้ซะตั้งแต่ตอนนี้ด้วยล่ะ มันเป็นชื่อที่ซักวัน ไม่ว่าใครก็จะไม่อาจมองข้ามไปได้ยังไงล่ะครับ

จุน: งั้นเหรอ... แล้ว โทโจ คานาเมะคุงผู้ที่ดูจะยิ่งใหญ่และโด่งดังคนนั้น รู้จักกับเจ้าคนผมยาวๆ ที่พูดอยู่บนโพเดียมนั่นสินะ

คานาเมะ: ? รู้ได้ยังไงครับว่าผมรู้จักกับเขา? หรือว่า เธอจะเป็นนักสืบที่มาสืบเรื่องผม? หรือเป็นสปาย...!?

จุน: (อา~ ชักจะขี้เกียจสนทนากับไอ้งั่งนี่แล้วแฮะ)

คานาเมะ: อะไรครับ อย่ามาจ้องกันแบบนั้นได้หรือเปล่า ไม่งั้นจะคิดเงินแล้วนะครับ

จุน: คร้าบๆ พลาดไปแล้วคร้าบ~ ผิดเองแหละที่ถามอะไรแปลกๆ จะไม่ทักแล้วก็ได้ ช่วยลืมๆ เรื่องของผมไปทีเหอะ

คานาเมะ: ถ้าผมลืมๆ เรื่องของเธอ ก็เหมือนผมยอมฟังที่เธอพูดน่ะสิ เพราะงั้นไม่เอาครับ

จุน: น่ารำคาญเฟ้ย... น่ารำคาญโคตรๆ เลย...

คานาเมะ: หึหึ ว่าแต่ นั่นคือคาเซฮายะ ทัตสึมิที่เค้าล่ำลือกันสินะครับ

จุน: โอ๊ะ กลับเข้าเรื่องได้แบบปาฏิหาริย์เลยแฮะ

คานาเมะ: "นักเรียนทุน" ของโรงเรียนเรย์เมย์ หรือก็คือของโรงเรียนสร้างเสริมไอดอลในเครือคอสโปรนั้น ทุกคนจะได้เดบิ้วท์ในฐานะไอดอลกันหมดครับ
ถึงจะเป็นคนไร้ปัญญาอย่างเธอก็คงทราบเรื่องนั้นสินะ

จุน: คร้าบๆ... เป็นแค่นักเรียนแต่ท่าทางอวดดีจังแฉะ ซากามิ จินเองก็เดบิ้วท์ตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนเหมือนกันหรอก

คานาเมะ: ซากามิ จินเหรอ รู้จักสิครับ ซุปเปอร์ไอดอลเมื่อสมัยก่อนหน้าซักพักสินะ จะว่าไปแล้วเหมือนจะจบจากยูเมะโนะซากิซะด้วยสินะครับ

จุน: ถึงจะบ้าแต่ท่าทางความจำดีนะ นายเนี่ย

คานาเมะ: ไม่ได้บ้าครับ
โรงเรียนยูเมะโนะซากิที่ถือเป็นมือเก่าสำหรับวงการนี้ー เหมือนว่าแม้แต่นักเรียนทั่วไปที่ไม่ใช่ "นักเรียนทุน" ก็โปรดิวซ์เป็นไอดอลได้สินะครับ

จุน: สมัยซากามิ จินจะเป็นยังไงไม่รู้ล่ะ แต่เหมือนช่วงนี้จะเป็นอย่างงั้นอยู่
เพราะงั้น แทนที่ไอดอลของยูเมะโนะซากิจะมีทั้งดีและแย่ปะปนกันไปยังไง แต่ที่จริงก็มีแต่ขยะเหลือทิ้งทั้งนั้น

คานาเมะ: แต่เรย์เมย์ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ เพราะมือโปรที่จะได้ยืนอยู่บนเวทีนั้นมีเพียงแต่ "นักเรียนทุน" ที่ได้รับการยอมรับด้านความเป็นเลิศ และได้รับการยืนยันว่ามีคุณค่าสูงแล้วเท่านั้นยังไงล่ะครับ
คาเซฮายะ ทัตสึมิคนนั้น โด่งดั่งในฐานะของไอดอลที่เป็นเลิศที่สุดแม้แต่ในหมู่ "นักเรียนทุน" ของเรย์เมย์ด้วยกันเอง ถึงพออยู่ในชุดนักเรียนแล้วจะให้ภาพลักษณ์ต่างออกไปจนอาจมองไม่ออกในทันทีก็เถอะ
แต่ตอนออกพวกรายการTV จะให้ภาพลักษณ์ที่เคร่งขรึม หรือดูคูลมากกว่านี้นี่นา
เพราะอะไรกันนะ หรือเวลาปกติจะเป็นแบบนั้นกันー ทั้งเอาผมลง แล้วก็ให้ความรู้สึกนุ่มนวลขึ้นด้วย

จุน: อา~ ภาพลักษณ์แบบอยู่ด้วยแล้วสบายใจสินะ คนที่คาแรกเตอร์ตอนเป็นไอดอลกับเนื้อแท้เป็นคนละขั้วกันเลยก็น่าจะมีให้เห็นอยู่บ่อยๆ นี่นะ

คานาเมะ: ช่วงนี้มีไอดอลที่ยอมขายกระทั่งชีวิตส่วนตัวของตัวเองเยอะขึ้นด้วย คนแบบนี้คงมีให้เห็นได้น้อยแล้วล่ะครับ...
ไอดอลในเครือคอสโปร มีธรรมเนียมที่จะต้องสร้าง "คาแรกเตอร์ในฐานะไอดอล" ให้ดีด้วย
ผมเองก็เรียนจากโรงเรียนม.ต้นในเครือมาด้วย ก็เลยได้รับการชี้แนะเรื่องการสร้างคาแรกเตอร์แบบพื้นฐานเอาไว้ก่อนน่ะครับ เค้าบอกว่าเพราะผมดูท่าทางฉลาด ก็เลยต้องประพฤติตัวให้ดูฉลาดด้วย

จุน: เพราะหน้าตาดีแต่ดันพ่นแต่เรื่องบ้าๆ บอๆ ออกมา เค้าก็เลยเดาอิมเมจผิดล่ะมั้ง

คานาเมะ: ครับ เพราะผมไม่ได้บ้าก็เลยต้องฉลาดเข้าไว้ไงครับ เพราะผมเป็น "ไอดอลแบบนั้น" นี่นา

จุน: หืม... แบบนั้น ท่าทางอึดอัดแย่เลยนะ

คานาเมะ: ถึงจะอึดอัดแต่นั่นก็คือไอดอลนี่ครับ ถ้าผมไม่ใช่ตัวผมอย่างที่สังคต้องการล่ะก็ คงไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะได้ไปยืนบนเวทีหรอก

จุน: ......

วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

Obbligato - ศีลล้างบาปแก่ซาซานามิ จุน/ตอนที่ 2

 

<10 นาทีต่อมา>

จุน: (โฮ่~ ที่นี่คือ "หอประชุม" สินะ)
(ท่าทางจะลงเงินไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะตามข่าวลือจริงๆ ด้วย... ใหญ่โตอย่างเปล่าประโยชน์จริงๆ แฮะ ได้ยินว่าเรย์เมย์เป็นโรงเรียนเพิ่งก่อตั้งใหม่ด้วย พื้นนี่เงาวับจนแทบสะท้อนหน้าอยู่แล้ว)
(แต่จะว่าไงดี คนน้อยชะมัด! เงียบเหงาโคตรๆ เลยเนี่ย...?)
(เออ~? สถานที่จัดพิธีปฐมนิเทศเนี่ย มันที่นี่แน่ใช่ไหม?)
(ก็น่าจะใช่นี่นา พวกนักเรียนที่ยืนเรียงกันอยู่ทุกคนก็ดูเป็นหน้าใหม่ ท่าทางจะเป็นนักเรียนใหม่เหมือนกับกับเราด้วย แต่ไม่เห็นพวกครูอาจารย์หรือรุ่นพี่เลยแฮะ?)
(นี่มันอะไรเนี่ย? ถึงจะไม่ได้ดูแปลกถึงขนาดต้องหนีออกไปก็เหอะ แต่รู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ!)
นี่ โทโจเซมไป...? นี่มันแปลกไปหน่อยหรือเปล่าฮะ? หรือว่าสำหรับในเรย์เมย์ นี่ถือเป็น "เรื่องปกติ" กันล่ะ?
อ้าว เอ๊ะ?
(โทโจเซมไปหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้! ไปไหนของเค้าเนี่ย?)
(ไงดี~ คนนั้นก็แปลกคนเหมือนกันนะเนี่ย... จะบอกว่าถึงอยู่ต่อหน้าก็ยังสัมผัสตัวตนไม่ค่อยได้ หรือจะบอกว่าเหมือนผีดี)
(ฮึ้ย~ อะไรเนี่ย? ทุกอย่างมันจะพิลึกเกินไปแล้ว! นี่หรือว่าเรากำลังหลับฝันอยู่กันแน่?)
(ถ้าเป็นฝันก็ดีไปหรอก! ถ้าเป็นไปได้ก็อยากทำเหมือนไม่เคยโดนรุ่นพี่กระทืบตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียนด้วย!)


คานาเมะ: เธอน่ะ เธอนั่นแหละ ทำท่าทางน่าสงสัยมาตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว เป็นอะไรหรือเปล่าครับ

จุน: อ๊ะ? เอ๊ะ ผม... น่ะเหรอฮะ?

คานาเมะ: ก็เธอนั่นแหละ มีอะไรหรือเปล่าครับ หรือว่าจะปวดท้อง
แต่ก็เอาเถอะ เรื่องของเธอจะยังไงก็ช่างอยู่แล้ว

จุน: เออ... เอ๊ะ อ้าว? โทโจเซมไป?

คานาเมะ: ? ก็จริงอยู่ที่ "ผม" ชื่อโทโจก็เถอะครับ...?

จุน: อ้อ คงเป็นญาติกันสินะฮะ ก็ว่าอยู่หน้าเหมือนกันจัง แบบว่า เมื่อกี๊ผมได้ครอบครัวของนายช่วยไว้น่ะฮะ

คานาเมะ: ...? ไม่เห็นเข้าใจเลยครับ?
ประหลาดคนจังนะครับ แถมมีแผลตรงโน้นตรงนี้ไปทั่วเลย... คิดผิดหรือเปล่านะที่เข้ามาทัก
แต่ก็ช่างเถอะครับ ที่สำคัญกว่านั้น ไหนๆ แล้วก็ขอถามหน่อยแล้วกัน ช่วยตอบมาด้วยล่ะ

จุน: อ๊ะ ครับ ทะ,,, ท่าทางอวดดีโดยใช่เหตุนะ นายเนี่ย

คานาเมะ: ก็มีดีให้อวดไงครับ ...ขอถามหน่อยก็แล้วกัน ที่นี่คือ "หอประชุม" ถูกต้องไหมครับ

จุน: เห? อ้อ ฮะ ก็น่าจะใช่ มั้งนะครับ เพราะผมก็ได้คนที่ดูเหมือนเป็นครอบครัวของนายนำทางมาให้เหมือนกัน เลยไม่รู้แน่ชัดน่ะ

คานาเมะ: ก็แล้วไอ้คนที่ดูเหมือนเป็นครอบครัวนั่นมันใครกันล่ะครับ...
เอาเป็นว่า ถึงรู้สึกว่าถามเธอไปก็เสียเวลาเปล่าก็จริง แต่ที่นี่คือ "หอประชุมที่หนึ่ง" สินะครับ?

จุน: เห๊ะ? มีที่หนึ่งหรือที่สองด้วยเหรอฮะ?

คานาเมะ: ก็มีน่ะสิ เพราะ "นักเรียนทุน" อย่างพวกผมมีกำหนดการเข้าร่วมพิธีปฐมนิเทศที่ "หอประชุมที่หนึ่ง" น่ะครับ
แล้วก็ พวกปลาซิวปลาสร้อยโง่เง่าที่ "ไม่ใช่นักเรียนทุน" อย่างพวกเธอ ก็จะต้องไปเข้าร่วมพิธีปฐมนิเทศที่ "หอประชุมที่สอง" ครับ

จุน: (เอ๊ะ? เมื่อกี๊ เหมือนโดนเหยียดอย่างกับเป็นเรื่องปกติโคตรๆ เลยแฮะ?)
เออ~... นายเนี่ย เป็นไอ้นั่นเหรอ "นักเรียนทุน" ที่ว่าน่ะ

คานาเมะ: เห็นชุดนักเรียนก็น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอครับ? "นักเรียนทุน" อย่างพวกเราน่ะ แตกต่างกับพวกบ้านๆ อย่างพวกเธอตั้งแต่ชุดที่ใส่แล้ว
ไม่รู้กระทั่งเรื่องแบบนั้น นี่โง่หรือเปล่าครับ ก็คงโง่สินะ เพราะไม่ใช่ "นักเรียนทุน" แล้วยังเป็นพวกด้อยความสามารถด้วยนี่นา

จุน: เหอะๆ... นายเอง ก็ไม่มีสิทธิ์จะมาหาว่าผมโง่หรอกนะ

คานาเมะ: ? หมายความว่ายังไงครับ? อธิบายมาเดี๋ยวนี้เลย

จุน: นายน่ะ คงจะมาผิดที่แล้วล่ะ~ ลองดูรอบๆ ให้ดีสิครับ เห็นไหมล่ะ ทุกคนใส่ชุดนักเรียนแบบเดียวกันกับผมหมดเลย
หรือก็คือ ที่นี่เป็น "หอประชุมที่สอง" ที่ใช้จัดพิธีปฐมนิเทศของพวก "ไม่ใช่นักเรียนทุน" ที่นายพูดถึงไงครับ~ มั้งนะ

คานาเมะ: ? อย่างนั้นหรอกเหรอครับ?

จุน: เอ๊ะ นี่ไม่เข้าใจที่อธิบายไปตะกี๊เหรอ?

คานาเมะ: ไม่เข้าใจแล้วผิดหรือไงครับ? ไม่สิ ผมน่ะไม่ผิดหรอก คนผิดคือเธอที่อธิบายให้มันเข้าใจยากเองไม่ใช่เหรอ?

จุน: อะไรของไอ้นี่วะ

คานาเมะ: "ไอ้นี่" อะไรกันครับ เป็นแค่พวกไร้ความสามารถแท้ๆ คงไม่รู้วิธีพูดจาให้มันดีๆ สินะครับ

จุน: ก็อยากจะตอบกลับไปด้วยประโยคเดียวกันอยู่หรอกนะー
แต่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะมาทะเลาะหรอก... นายน่ะ น่าจะมาผิดที่แล้วล่ะ รีบๆ ไป "หอประชุมที่หนึ่ง" อะไรนั่นน่าจะดีกว่านะ

คานาเมะ: ถ้าทำแบบนั้น มันจะกลายเป็นว่าผมผิดแล้วเธอเป็นฝ่ายถูกไป เพราะงั้นไม่เอาครับ

จุน: อะไรของไอ้นี่วะ... ถามจริงเหอะ อะไรของไอ้นี่กันแน่เนี่ย...

คานาเมะ: ก็บอกว่าไม่ใช่ "ไอ้นี่"ー หืม?

จุน: คราวนี้อะไรอีกล่ะ?

คานาเมะ: ดูนั่นสิครับ ทำเอาผมสับสนไปหมดแล้วเนี่ย

จุน: เอ๊ะ...?

คานาเมะ: นั่นน่ะ ใช่มนุษย์ จริงๆ เหรอครับ?

วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

Obbligato - ศีลล้างบาปแก่ซาซานามิ จุน/ตอนที่ 1

 

<อดีต/ฤดูใบไม้ผลิ>

<ฤดูใบไม้ผลิสามปีก่อน โรงเรียนเรย์เมย์ หน้าประตู>

จุน: แม่งเอ้ย! ไอ้โรงเรียนม.ปลายพรรค์นี้ ต้องลาออก...!
"นักเรียนทุน" บ้าบออะไร! มันจะเก่งเจ๋งซักแค่ไหนกันเชียววะ ห๊า!? แค่เข้าไปใกล้ก็มารุมทำร้ายกันแล้ว...!
เรื่องแบบนี้ ยอมให้ได้ที่ไหน! แล้วจะต้องร้องเรียนกับใครล่ะเนี่ย? อาจารย์? ตำรวจ? หรือว่าพระเจ้า!?
โอ๊ย เจ็บๆ... ฮึ้ย~ ปากแตกอีก พูดแล้วเจ็บชะมัด
...เออ แล้ว "นาย" เป็นอะไรหรือเปล่า ครับ? น่าจะโดนเล่นงานมาหนักกว่าผมอีกไม่ใช่เหรอ?
ถึงจะขอบคุณที่ช่วยทำแผลให้ก็เถอะ~ แต่ต้องทำแผลให้ตัวเองก่อนจะมาทำแผลให้ผมนะ
เอ๋? ไม่จำเป็น? เพราะเป็นการลงโทษที่สมควรได้รับแล้ว แถมชินกับการโดนเตะต่อยแล้วด้วย...?
ไม่เห็นเข้าใจเลย! จะชินหรือไม่ชิน แต่เจ็บก็คือเจ็บไม่ใช่หรือไง! ได้แผลก็คือได้แผลไม่ใช่เหรอ!
นี่ผม พูดอะไรผิดไปตรงไหนหรือไง... หรือไงวะครับ!?
เอ้ย โทษทีๆ ถึงต่อว่านายไปก็ไม่ได้อะไรสินะครับ นายเองก็เป็นผู้เสียหายเหมือนกันนี่นา... ครับ
เอ๋? "วิธีการพูดดูไม่เป็นธรรมชาติเลย เจ็บปากขนาดนั้นเลยเหรอ" น่ะเหรอ?
แบบว่า~ พอดีไม่ถนัดพูดจาสุภาพน่ะสิ... น่ะสิครับ!
ไม่อยากใช้คำสุภาพ กับคนที่ไม่น่าเคารพเลยเว้ย!
อ๊ะ เปล่า ไม่ใช่ว่าไม่เคารพนายหรอกนะ... ก็ผม ยังไม่รู้จักนายดีเลยนี่นา
แต่ว่า นายก็คงจะอยู่ชั้นปีสูงว่าด้วย คงต้องพูดด้วยภาษาสุภาพไว้ก่อน สินะครับ?
หืม? แบบนั้นดีแล้ว? เพราะเรย์เมย์เคร่งเรื่องความสัมพันธ์รุ่นพี่รุ่นน้อง?
ก็นั่นสินะครับ~ ได้ยินมาว่าเป็นโรงเรียนระดับหัวกะทิที่มีจิตสำนึกสูงแท้ๆ?
เห็นมีคำขวัญว่าไม่เหมือนกับยูเมะโนะซากิที่เฉื่อยแฉะ มีดีแค่ชื่อโรงเรียนเสริมสร้างไอดอลอะไรเนี่ยแหละ
ผมอยากเป็นไอดอลอย่างจริงจัง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้ทุนการศึกษาหรือเปล่าด้วย ก็เลยเลือกเรียนต่อที่เรย์เมย์นี่เพราะค่าเทอมมันถูกเนี่ยแหละครับ
แต่เหมือนจะผิดพลาดซะแล้วสิ... ไม่นึกเลยว่าจะโดนพวกรุ่นพี่จากไหนไม่รู้รุ่มกระทืบตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียน
ยังไงกันล่ะเนี่ย นี่ผมเผลอมาเข้าโรงเรียนแบบที่ชอบโผล่ในมังงะแยงกี้หรือเปล่าครับ?
...หืม? ช่วงนี้มีเคสแบบนี้เยอะขึ้น? โดยเฉพาะ "นักเรียนทุน" ที่มักจะเครียดสะสมด้วย?
เรื่องพรรค์นั้นใครมันจะไปตรัสรู้กัน! เครียดสะสมแล้วมันทำไมวะครับ!?
จะด้วยเหตุผลอะไร แต่จะมาต่อยนักเรียนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเรียนพร้อมโอบอุ้มความฝันได้ยังไง!
อ้าว แล้วไหงต้องก้มหัวปลกๆ ด้วยล่ะครับ? ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะตำหนินายー
กลับกันแล้ว อยากจะช่วยมากกว่าด้วยซ้ำครับ~...
เพราะผมเห็นนายกำลังโดนพวกท่าทางอวดเบ่งรุมกระทืบอยู่ ก็เลยเข้าไปต่อว่านี่นา
เพราะงั้นเลยโดนเจ้าพวกนั้นที่กำลังฉุนขาดต่อยไปด้วยกันกับนายซะได้ น่าอนาถสุดๆ เลยสินะครับ~ คงเป็นเหมือนอย่างใน TV หรือมังงะไม่ได้ง่ายๆ สินะ...
เรียนก็เรียนแต่การร้องการเต้นมาตั้งแต่เด็ก ไม่รู้วิธีทะเลาะต่อยตีเลยด้วยซ้ำ ทำอะไรไม่ดูกำลังตัวเองเลยจริงๆ
แต่ว่า ยังไงก็ปล่อยไว้ไม่ได้อยู่ดีครับ โหดร้ายเกินไปแล้ว มาล้อมวงรุมทำร้ายคนๆ เดียวเนี่ย
ตำรวจมัวทำอะไรอยู่กัน? ที่นี่ยังมีขื่อมีแปหรือเปล่า?
หืม? มันช่วยไม่ได้ งั้นเหรอ? เพราะเรย์เมย์เป็นสถานที่แบบนั้น...?
เพราะงั้นถึงได้ไม่เข้าใจไงวะครับ! โรงเรียนเรย์เมย์เป็นต่างโลกที่กฎหมายญี่ปุ่นเข้าไม่ถึงหรือไงครับ!?
เออ~ อืม~... ก็บอกว่าอย่าก้มหัวปลกๆ ไงครับ ผมไม่ใช่มนุษย์ที่ดีเลิศถึงขนาดที่คนอื่นต้องมีมารยาทด้วยขนาดนั้นหรอก
เอ๋? ดีเลิศแล้ว? เป็นคนกล้าหาญ ที่กล้ายืนหยัดแต่พวกคนน่ากลัวเพื่อช่วยคนที่ไม่รู้จัก?
อะ ฮะฮะ... นั่นก็ขอบใจนะ ขนาดพ่อแม่ยังไม่เคยพูดแบบนั้นกับผมเลยล่ะครับ
อะฮะฮะ เออ จะว่าไป ถ้าไม่รีบล่ะก็เดี๋ยวจะเข้าพิธีปฐมนิเทศสายเอาน่ะครับ อย่ามัวแต่คุยกันยืดยาดแล้วไปเข้าพิธีกันดีกว่า อยู่ที่หอประชุมหรือเปล่านะ
ว่าแต่ ไอ้ผมก็เป็นนักเรียนใหม่เลยไม่รู้ที่ตั้งของหอประชุมซะด้วย... โรงเรียนนี้มันจะกว้างโดยเปล่าประโยชน์เกินไปแล้ว
หืม? อ๋อ นายจะนำทางให้เหรอ? ตอบแทนบุญคุณที่พยายามจะช่วย?
เป็นคนซื่อตรงจังเลยนะครับ~ ผมแค่คิดจะช่วยเฉยๆ ยังไม่ทันได้ช่วยแถมโดนเล่นกลับด้วยซ้ำ ไม่ต้องตอบแทนบุญคุณกันก็ได้นะ
แต่ว่า เป็นเพราะนายความประทับใจแรกพบต่อเรย์เมย์ก็เลยกระเตื้องขึ้นมาจากระดับต่ำตมอยู่นิดนึงล่ะมั้ง
ถึงจะไม่มีวันอภัยให้พวกที่มาต่อยพวกเราก็จริง แต่ก็แปลว่าเรย์เมย์ไม่ได้มีแต่พวกคนแบบนั้นสินะครับ
เพราะยังมีคนอย่างนายที่ถึงโดนต่อยก็ไม่ถือโทษโกรธใคร แล้วยังใจดีกับคนอย่างผมที่เพิ่งพบกันครั้งแรกอยู่ด้วย
ถึงจะจั่วได้ไพ่ซวยที่สุดตั้งแต่เริ่มก็จริง แต่ไหนๆ ก็จ่ายค่าเทอมมาแล้วー ลองอยู่ต่ออีกซักหน่อยก็คงไม่เสียหาย สินะครับ
ฮึ้บ... งั้นก็ไปกันเลยไหมครับ ช่วยนำทางไปหอประชุมอะไรนั่นให้ทีสิ เออ...
...นาย ชื่อว่าอะไรนะ?
หืม โทโจ? ตัวอักษรเลขสิบ (十) กับโจ ของโจเคน (条) รวมกันเป็นโทโจ? โทโจเซมไปสินะครับ รับทราบ~♪

วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

Obbligato - Prologue

 

<ปัจจุบัน ต้นเดือนมกรา คอสมิคโปรดักชั่น>

อิบาระ: ー"ยินดีต้อนรับ สู่คอสมิคโปรดักชั่น"!
"รักอย่างเมตตา! รักอย่างมิตรภาพ! รักอย่างเท่าเทียม! รักอย่างเมตตา! รักอย่างมิตรภาพ! รักอย่างเท่าเทียม!"
"ーใช่แล้ว! สิ่งที่สำคัญที่สุดในโลกนี้ก็คือ ความรัก♪" อย่างไรล่ะครับ!

ฮิโยริ: ไปหัวกระแทกที่ไหนมาเหรอ อิบาระ?

จุน: น่าเป็นห่วงสุดๆ เลยนะครับ

อิบาระ: เสียมารยาทจริงๆ นะครับพวกคุณเนี่ย! โปรดอย่าได้ห่วงไปเลย! เรายังสติสมประกอบดีครับ!

จุน: ก็เพราะมันดูไม่เป็นอย่างนั้นถึงได้เป็นห่วงอยู่นี่ไงครับ~...?

ฮิโยริ: นั่นสินะ เรื่องความรักเนี่ย ถึงจะเข้ากับผมดีก็เถอะ แต่ไม่เข้ากับอิบาระสุดขีดซะจนชวนขำแทนเลยล่ะ

อิบาระ: เสียมารยาทไม่หยุดเลยนะครับ! แต่มันก็แปลว่าคอสโปรในตอนนี้ ตกอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงเสียงจนเราต้องพูดจาผิดคาแรกเตอร์ออกมาเช่นนี้ยังไงล่ะครับ!
โปรดช่วยเข้าใจในเรื่องนั้นด้วยนะครับ! ว่า "โปรเจคพัฒนาโรงเรียนเสริมสร้างไอดอลในเครือคอสโปร" ที่พวกเราคอสโปรผลักดันกันขึ้นมาใหม่ー
หรือที่เรียกย่อๆ ว่า [COMP] น่ะ เป็นงานโหดหินถึงขนาดที่หากไม่ปิดบังภาพลักษณ์โฉดๆ แต่เดิมของพวกเรา ก็จะไม่อาจทำให้สำเร็จลุล่วงได้เลยอย่างไรล่ะครับ!

นางิสะ: ...สาหร่ายคอมบุ?

อิบาระ: ไม่ใช่คอมบุ แต่เป็นคอมป์ต่างหากล่ะครับ! C O M Pー COMP!

ฮิโยระ: [SSVRS] บ้างล่ะ [COMP] บ้างล่ะ ไม่เห็นเข้าใจเลยว่าทำไมต้องใช้แต่ตัวย่อหรืออักษรภาษาอังกฤษด้วย! วารุ่ยฮิโยริ!

นางิสะ: ...เอาเถอะ เรื่องชื่อจะยังไงก็ช่างอยู่แล้ว
...ที่สำคัญคือ เนื้อในต่างหาก

อิบาระ: ครับ [COMP] นั้นก็ตามตัวอักษร เป็นแผนงานเพื่อให้โรงเรียนเสริมสร้างไอดอลในเครือคอสโปรครื้นเครงขึ้นยังไงล่ะครับ

จุน: ฟังดูขอไปทีจังนะ

อิบาระ: เพราะเป็นแผนงานที่ลวกๆ เกินคาดเราถึงตกที่นั่งลำบากอยู่นี่ไงครับ! ถึงจะยังมีข้อดีตรงที่พวกเราจะจัดสรรงบประมาณที่ได้รับแบ่งมายังไงก็ได้ตามดุลพินิจก็เถอะ!

นางิสะ: ...ส่วนตัวฉันเอง คิดว่าโดนชี้สั่งให้ "ทำอย่างนู้นซะ ทำอย่างนี้ซะ" แบบละเอียดยิบ มันสบายกว่านะ

อิบาระ: ถึงใต้เท้าจะเป็นแบบนั้นก้จริง! แต่ช่วงนี้ถึงจะชี้นิ้วสั่งแบบละเอียดๆ ไปก็ยังมีเมินกันบ้างไม่ใช่หรือไงครับ ต้องทำยังไงถึงจะพอใจล่ะเนี่ย!?

นางิสะ: ...ถ้าเป็นอิบาระล่ะก็ ฉันเชื่อมั่นว่าจะต้องเดาออกแน่ ว่าฉันต้องการอะไร

อิบาระ: นี่เราไม่ใช่หม่าม้าของคุณนะครับ!?

ฮิโยริ: น่าๆ... เพราะตอน [SS] ก็จบลงไปแบบเอื่อยๆ ด้วย ทุกคนก็คงรู้สึกอัดอั้นใจกันอยู่หรอก
แต่อย่ามัวยึดติดอยู่กับ [SS] แล้วทำตัวหมางเมินกันไปเลยน่า แค่มองก็เหนื่อยแทนแล้ว
แล้วก็ อนาคตสำคัญกว่าอดีตนะ ปรับอารมณ์ซะใหม่แล้วมาช่วยกันคิดอย่างกลมเกลียวดีกว่าว่า "จากนี้จะทำยังไงต่อกันดี" น่ะ
ทุกอย่างจะต้องค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนแปลงไปโดยมี [SS] เป็นชนวนแน่ ถ้าจากนี้ยังมัวแต่ "ทำอะไรอย่างเคยๆ" ล่ะก็ใช้การไม่ได้หรอก

นางิสะ: ...นั่นสินะ ฮิโยริคุงพูดถูกเสมอเลย
...ฉันเองก็คงมัวแต่ "ทำอะไรอย่างเคยๆ" ไม่ได้แล้วเหมือนกันก็จริง
...แต่อย่างน้อยก็อยากใช้อำนาจที่เผอิญได้รับมานี้ เพื่อทุกๆ คนที่รักน่ะ
...หากคิดถึงแต่ตัวเองอย่างเดียว เดี๋ยวฉันเองจะซ้ำรอยเดิมกับ "บาทหลวง" เอา

อิบาระ: ครับ! จากนี้ก็ขอให้ใต้เท้าใช้พลังอย่างเต็มที่ด้วยเถิด เพื่อคอสโปรของพวกเรา!

นางิสะ: ...หรือก็คือเพื่ออิบาระ สินะ ได้สิ ก็นั่นเป็นพันธสัญญาตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่นา
...น่าคิดถึงจัง หลังย้ายมาจากยูเมะโนะซากิก็เกิดเรื่องขึ้นทันทีเลยหรือเปล่านะ

จุน: จะว่าไปแล้วผมไม่ค่อยได้รู้รายละเอียดเท่าไหร่ แต่ทำไมทั้งสองคนถึงย้ายโรงเรียนมาเหรอครับ?

นางิสะ: ...พอดีเกิดหลายๆ เรื่องขึ้นน่ะ

จุน: แล้วหลายเรื่องนี่มันเรื่องอะไรล่ะครับ... ได้ยินมาว่าเทียบกับเรย์เมย์แล้ว ยูเมะโนะซากิหย่อนยานกว่าตั้งเยอะนี่นา ทำไมถึงจงใจพาตัวเองออกจากสภาพแวดล้อมแสนสะดวกสบายแล้วมาที่นี่กันล่ะครับ?
ทำเอาเผลอคิดเลยนะครับ ว่าไม่เห็นต้องกระโจนเข้ามายังสมรภูมิด้วยตัวเองก็ได้แท้ๆ~?

นางิสะ: ...นั่นสินะ เรียกว่าเป็นการลงโทษตัวเอง ก็คงได้

ฮิโยริ: อันที่จริง ก่อนย้ายเข้ามาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรย์เมย์กับชูเอทสึจะมีสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายถึงขนาดนั้น
ก็พอได้ยินข่าวลืออยู่หรอก แต่ก็คิดว่ายังไงคงดีกว่ายูเมะโนะซากิในตอนนั้นน่ะสิ

อิบาระ: เพราะว่าภายนอกดูเหมือนเป็นแค่โรงเรียนสายอาชีพสำหรับปั้นไอดอลระดับแนวหน้าที่เข้มงวดนิดหน่อยนี่นะครับ

จุน: ถ้าไม่ได้มาด้วยตัวเองก็คงไม่เข้าใจถึงความผิดเพี้ยนนั้นหรอกครับ~... ถ้าย้อนอดีตกลับไปได้ผมเองก็คงไม่ยื่นใบสมัครเรียนเข้าเรย์เมย์หรอก
ไม่สิ แต่ว่า ที่เลือกเข้าเรย์เมย์ก็เพราะค่าเทอมถูกกว่ายูเมะโนะซากินี่นา ผมคงไม่มีตัวเลือกให้เลือกแต่แรกอยู่แล้วละมั้ง

ฮิโยริ: จะตอนนี้หรือเมื่อก่อน ยูเมะโนะซากิก็บูชาเงินเป็นพระเจ้านี่นะ ที่เริ่มมีการจัดตั้งระบบทุนการศึกษาก็เพราะหลายปีมานี้จำนวนนักเรียนลดลงฮวบฮาบนี่แหละ

อิบาระ: แต่ช่วงนี้ยูเมะโนะซากิเอง ก็มีจำนวนผู้ประสงค์เข้าเรียนจะเพิ่มมากขึ้นเหมือนกันนะครับ
ถึงคงจะเป็นผลพลอยได้จากกลยุทธ์ฝ่ายการตลาดของท่านเอย์จิ ที่ยืนกรานว่าแม้จะไร้ความสามารถหรือโง่เง่าขนาดไหนก็สามารถเป็นไอดอลที่เปล่งประกายระยิบระยับได้ก็เถอะ
ถ้าเข้ายูเมะโนะซากิ ถึงไม่ต้องพยายามอะไรก็เป็นไอดอลที่ทุกคนรักใคร่ได้โดยอัตโนมัติー
เหอะ! โกหกหลอกลวงสิ้นดี! ยังไงก็ไม่มีใครอยากลำบากอยู่แล้ว คนถึงได้เลือกเรียนต่อในยูเมะโนะซากิที่ "หย่อนยาน" อย่างที่จุนว่ายังไงล่ะครับ!

นางิสะ: ...เอย์จิคุงเป็นคนพูดจริงทำจริง เพราะงั้นคงตั้งใจวางแปลนให้ "ถึงไม่ต้องพยายามก็เป็นไอดอลได้" จริงๆ นั่นแหละ
ตั้งใจจะทำให้มนุษยชาติทุกคนเป็นไอดอลกันหมดในตอนสุดท้ายหรือไงนะ แบบนั้นน่ะ

ฮิโยริ: เอย์จิคุงก็เป็นคนที่น่าจะวางแผนพิลึกๆ แบบนั้นได้จริงๆ ซะด้วยสิ~

อิบาระ: ครับ เพราะยูเมะโนะซากิมีท่านเอย์จิเป็นแบคคอยหนุน โรงเรียนเสริมสร้างไอดอลในเครือคอสโปรของเราก็ตกอยู่ในสภาพต้องคอยวิ่งตามหลัง
แม้ยูเมะโนะซากิที่เคยอยู่ในสภาพตกต่ำช่วงหนึ่ง จะแย่งตัวผู้มีความประสงค์จะเป็นไอดอลไปมากก็จริง แต่ตอนนี้ก็ถึงขีดจำกัดแล้วล่ะครับ

ฮิโยริ: เพราะงั้นคอสโปรก็เลยรีบร้อน เคาะไอ้แผนการ [COMP] อะไรนี่ออกมาสินะ

อิบาระ: ตามนั้นเลยครับ♪ แหม สมแล้วที่เป็นฝ่าบาท! เข้าใจอะไรรวดเร็วไม่เปลี่ยนจริงๆ!

ฮิโยริ: ตั้งใจยอผมให้อารมณ์ดีแบบนี้ คิดจะให้ทำอะไรกันฮึ?

อิบาระ: ไม่ได้จะให้ไปทำเรื่องน่าสงสัยอะไรหรอกครับ!
แค่อยากจะให้ทั้งสองคน ช่วยโฆษณาถึงความดีงามของโรงเรียนเสริมสร้างไอดอลในเครือของคอสโปรให้ ในฐานะของผู้มีประสบการณ์ที่เคยเลือกเรียนที่เรย์เมย์หรือชูเอทสึ ไม่ใช่ยูเมะโนะซากิน่ะครับ!
ว่า "เป็นเพราะเลือกเรย์เมย์และชูเอทสึไม่ใช่ยูเมะโนะซากิ ถึงได้กลายเป็นไอดอลที่ยอดเยี่ยมถึงขนาดนี้" แบบนี้!
อารมณ์เหมือนกับโรงเรียนกวดวิชาที่ชอบโฆษณาอวดว่านักเรียนของตัวเองได้เรียนต่อในมหาลัยชื่อดังมาแล้วหลายต่อหลายคนน่ะครับ!
พวกเราที่ยังเป็นนักเรียนปัจจุบันของเรย์เมย์และชูเอทสึนั้น จะช่วยซัพพอร์ต "การโฆษณา" ของทั้งสองอย่างเต็มที่เลยล่ะครับ! เนอะ จุน♪

จุน: ...ถ้านั่นเป็นงานก็จะยอมทำแบบไม่ปริปากบ่นแล้วกันครับ
แต่โดยส่วนตัวแล้ว ก็เป็นแผนงานที่ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นักหรอก~......
เพราะยังไงซะ ก่อนที่ผมจะถูกโอฮี่ซังพบเข้า โรงเรียนเรย์เมย์สำหรับผมก็เปรียบเหมือนนรกดีๆ นี่เอง

วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

Mad Party - Epilogue3 (จบ)

 

<หลายวันต่อมา>

อิซึมิ: ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ อาจารย์ ล่าสุดก็ตั้งแต่ตอนออดิชั่นนู่นเลยสิ
[อันเดอร์แลนด์] เป็นยังไงบ้าง? พวกเราบรรลุบท "ช่างทำหมวก" ได้สมบูรณ์ดีหรือเปล่า?
งั้นเหรอ ถ้าคุณสนุกก็ดีแล้วล่ะ
ขอบคุณนะ ที่อาจารย์บอกว่าเห็นฉันเหมือนลูกเหมือนหลานー ไม่สิ เหมือนภาพสะท้อนของตัวอาจารย์เมื่อสมัยก่อน
เพราะแบบนั้น ถึงค่อยคุ้มค่าที่ฉันพยายามกับการออดิชั่นหน่อย
แล้ว เหตุผลที่เรียกมาที่นี่วันนี้ล่ะ...
...อยากให้รับชุดเอาไว้เหรอ?
จะดีเหรอ? ชุดนี้ เป็นผลงานที่ได้ออกคอลเล็กชั่นแรกนี่นา?
ถ้ารับของแบบนั้นไว้ล่ะก็ ไม่รู้เลยว่าตัวเองจะต้องตอบแทนยังไงดี
"อยากให้คนที่ใส่ชุดนี้ขึ้นที่สุดเป็นคนใส่มากกว่า"...? เพราะถูกสวม ชุดจึงจะแสดงคุณค่าที่แท้จริงของมันออกมาได้ งี้น่ะเหรอ?
"คิดซะว่าเป็นของเหลือจากการเก็บกวาดแล้วรับเอาไว้ทีนะ"...งั้นเหรอ
...เข้าใจแล้ว ฉันจะรักษาไว้ให้ดีนะ
ไว้ซักวันพอฉันได้เป็นไอดอลที่เหมาะสมกับชุดนี้เมื่อไหร่ล่ะก็ จะสวมชุดนี้มาหาคุณนะ เพราะงั้นขอให้สุขภาพแข็งแรงเข้าไว้ล่ะ
...? ยังตายไม่ได้?
พอได้ดูไลฟ์ "ช่างทำหมวก" คราวนี้แล้ว เลยรู้สึกว่าจะยังแพ้ให้กับคนหนุ่มสาวไม่ได้ขึ้นมา...? ก็เลยจะปล่อยวางจากผลงานสมัยอดีตเพื่อจะได้ไม่ยึดติดกับความสาว...?
อะฮะฮะ เห็นอาจารย์พูดซะจริงจังขนาดนี้ ไอ้ฉันก็นึกว่าจะวางมือจากวงการซะอีก♪
นั่นสินะ เดิมที "แมดแฮทเตอร์" ก็เป็นคนแบบนั้นนี่นะ
ที่ผ่านมาก็เอาแต่ต่อต้านสามัญสำนึกของสังคม แล้วเบิกเส้นทางของตัวเองมาตลอดนี่นา
ช่วยมุ่งมั่นท้าทายต่อไปเรื่อยๆ ทีนะ ตัวฉันในอนาคตเอง ถ้าได้เห็นภาพของอาจารย์ที่เป็นแบบนั้นก็คงได้รับการช่วยเหลือเหมือนกัน
เรื่องที่คุยกับอาจารย์ในวันออดิชั่น ฉันจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิตเลย


<หลายสัปดาห์ก่อนหน้า วันออดิชั่นของ [อันเดอร์แลนด์]>

อิซึมิ: "♪~♪~"
...เพลงออริจินอลของ [Knights] ครับ ขอบพระคุณที่รับฟัง
ครับ? มีคำถามจะเจาะจงถามผม? อาจารย์ "แมดแฮทเตอร์" น่ะเหรอ?
"สำหรับฉันที่เป็นนักสร้างสรรค์ผลงานแล้ว อะไรคือรูปลักษณ์ในอุดมคติ"...?
รูปแบบในอุดมคติของฉัน แต่เดิมแล้วก็คือคนอย่างอาจารย์เองนั่นล่ะ
ฉันอยากจะเป็นแบบคุณ ที่ถึงแม้จะชูนิ้วกลางใส่สังคมโลก แต่ก็ยังมีพรสวรรค์พอที่จะเป็นที่รักใคร่
แต่ว่า ฉันกลับมุ่งอยู่แต่กับเรื่องนั้นอย่างเดียว จนลืมแก่นสำคัญของมันไป
เมื่อก่อน... ฉันก็เคยถูกเลโอคุงถามเหมือนกัน ว่าจะเลือกพรสวรรค์ในการแต่งเพลงของเลโอคุง หรือจะเลือกตัวของเลโอคุงเอง
แต่ฉันกลับพยายามตะเกียดตะกายไล่ตามพรสวรรค์ของอาจารย์ ราวกับลืมตัวเองในสมัยก่อนเมื่อตอนนั้นไป
ผลสุดท้าย ก็กลายเป็นทำให้พวกพ้องรอบตัวต้องเดือดร้อน อะไรต่อมิอะไรก็แย่ลงไปทุกที
แต่ว่า ในตอนนั้น ฉันก็ได้พวกพ้องที่อยู่ที่นี่ปรามเอาไว้
ดังนั้น คำตอบของฉันในตอนนี้ก็คือー
อยากจะเป็นคนที่ไม่ต้องคอยประจบประแจงหรือไม่ต้องประนีประนอมได้ โดยที่ไม่ทำให้ใครต้องเดือดร้อน
ในขณะเดียวกัน ก็จะทำให้ [Knights] ที่ตัวฉันเองอยู่นี้ไปยังจุดที่สูงขึ้นได้อีกー อยากจะเป็นนักสร้างสรรค์ผลงานที่เข้มงวดและใจกว้างเช่นนั้น
...อาจจะผิดไปจากอิมเมจของ "ช่างทำหมวก" ก็จริง แต่ฉันจะใช้วิธีการแบบนี้ ไล่ตามคุณจนทันในซักวันให้ได้


อิซึมิ: ...งั้นก็ วันนี้ต้องขอบพระคุณมากเลยนะครับ อาจารย์
แล้ววันที่ [Knights] จะแสดงภาพที่อาจารย์ปรารถนาจะต้องมาถึงอีกแน่ ไว้เวลานั้นเราー มาร่วมแสดงผลงานไปด้วยกันเถอะ
ในฐานะของนักสร้างสรรค์ผลงานที่ต่อสู้ในวงการบันเทิงเดียวกัน ไม่ใช่ตัวตนที่สูงส่งเหนือเมฆที่ต้องเป็นที่หลงใหลอยู่ฝ่ายเดียว
ถึงฉัน อาจจะยังไม่คู่ควรกับชุดที่คุณตัดก็จริง แต่จะกลายเป็นตัวตน เป็นไอดอล ที่คู่ควรกับมันให้ดูเอง
ลาก่อน "แมดแฮทเตอร์" ไว้ซักวันเรามาจัดปาร์ตี้อันผิดสามัญสำนึกไปด้วยกันอีกเถอะ

วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

Mad Party - Epilogue2

 

อิซึมิ: "♪~♪~"

ริทสึ: ฮุฮุฮุ เซ็จจัง ท่าทางสนุกจังเลยนะ
ยกภูเขาออกจากอกได้แล้วสิ... แถมได้บทสรุปที่พวกรุ่นน้องเองก็ยอมรับได้ด้วย ถือว่าปิดไปหนึ่งคดี♪

อาราชิ: ถึงจะลำบากพวกเราที่ต้องโดนเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาน่าดูก็เถอะนะ?
แต่ว่า เพราะอิซึมิจัง งาน "ค็อกเทลเปียโน" ก็เลยคืบหน้าอย่างราบรื่นด้วย
แถมทำให้ "ฟราแกรนซ์ไลฟ์" สะสางไปได้อย่างงดงามด้วย เนอะ?

เลโอ: นั่นสินะ ทุกอย่างไปได้ดีเลย! เพราะว่าได้เซนะสอนให้โดยตรง เด็กใหม่ของ [Knights] ก็เลยเลเวลอัพกันพอตัวเลยใช่ไหมล่ะ?

สึคาสะ: ครับ เหมือนว่าจะได้ประสิทธิผลมากเลยล่ะ เพราะว่าเซนะเซมไปเป็นเพอร์เฟคชั่นนิสต์ด้วย ก็เลยพยายามช่วย Lesson โดยไม่ล้มเลิกง่ายๆ
เหล่าอัศวินวัยเยาว์ที่ต้องแบกรับยุคสมัยถัดไปー ก็อยากให้พวกเขาเข้มแข็งและแข็งแกร่งและยิ่งขึ้น ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งใน [Knights] ของพวกเราเช่นกันครับ
ในที่สุดก้าวแรกนั้น ก็ได้เริ่มออกเดินด้วยความทุ่มเทของเซนะเซมไปนะครับ และเป็นเพราะเลโอซังที่ช่วยเฝ้ามอง "Red Knights" ด้วย

เลโอ: งั้นเหรอ? ฉันว่าตัวเองก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรให้ "เรดไนท์" เท่าไหร่เลยนะ~?
เดิมทีเซนะก็เป็นคนลากไปลากมาด้วย ฉันก็แค่คอยตามเฉยๆ เอง
แล้วที่ฉันกล่อมเซนะได้ ก็เป็นเพราะใครบางคนที่ผ่านทางมาด้วย
ฉันว่าก็เป็นเซนะเองนั้นแหละ ที่พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อที่จะยอมรับคำพูดของใครซักคนนั่นให้ได้ด้วย
ตลอดมาหมอนั่นต่อสู้ด้วยตัวคนเดียวโดยไม่พึ่งพาใครー แต่พอได้แบ่งปันสิ่งนั้นกับคนอื่น เซนะถึงกลายเป็นสิ่งชี้นำให้กับเหล่ารุ่นน้องได้แบบนี้
ว่าไงดีล่ะ เป็นนิสัยที่ชวนขาดทุนจริงๆ เลยน้า
ฉันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องในอดีตของเจ้านั่นหรอก แต่ถ้าเซนะไม่ได้เจอกับอาจารย์ "แมดแฮทเตอร์" ล่ะก็ หมอนั่นอาจกลายเป็นคนซื่อตรงมากกว่านี้ก็ได้?

สึคาสะ: ...พูดไปมันก็จริงนะครับ
แต่ว่า เซนะเซมไปที่เป็นแบบนั้นก็ไม่ใช่เซนะเซมไปสินะครับ

เลโอ: ...นั่นสินะ♪

อิซึมิ: เดี๋ยวเถอะ ซุบซิบนินทาอะไรกัน? ไลฟ์เพิ่งเริ่มเองนะ ทำตัวเอื่ยเฉื่อยกันซะแล้วเหรอ?

สึคาสะ: เปล่าครับ เรากำลังประทับใจกันอยู่เลยที่เซนะเซมไปไฟแรงกว่าปกติ♪
...เอาล่ะ ใกล้ถึงเวลาที่พวกรุ่นน้องจะมาร่วมวงด้วยแล้วล่ะครับ
และพวกเขาก็จะทำให้โลกของ Alice ต้องปั่นป่วนเหมือนอย่างที่พวกเราทำ
เล่นเพลงใหม่แบบ Arrange อีกรอบหนึ่งー แล้วคราวนี้ก็ให้เหล่ารุ่นน้องมาร่วมแสดงเพลงใหม่ แบบ Full Member กันเถอะครับ!
"♪~♪~♪"


ริทสึ: เร่าร้อนจังนะ ต้องแบบนี้สิถึงจะเป็นซูจัง
แต่ว่า วันนี้ฉันเองก็มีแรงใจมากกว่าที่คิดไว้เหมือนกัน สงสัยติดเชื้อไฟแรงมาจากใครบางคนล่ะมั้ง...♪
ถึงศึกแดงขาวจะจบลงด้วยชัยชนะของ "ไวท์ไนท์" ก็จริง แต่สมาชิกที่เคยอยู่กับ "เรดไนท์" ก็คงนึกเอาจริงเพื่อทนแทนที่แพ้ไปอยู่แล้วสินะ♪
ต้องแสดงหลักฐานให้เห็นด้วยเวทีนี้แล้วสิ ว่าพวกเราต่างหากที่เป็นฝ่ายชนะ♪
"♪~♪~"

อาราชิ: อุฮุฮุ นั่นสินะจ๊ะ ยังไงเหล่าผู้ชมก็ไม่มีทางรู้เรื่องผลลัพธ์ของศึกแดงขาวอยู่แล้วด้วย
ถ้าเกิดฝั่งเราดูด้อยกว่าในการแสดงจริงขึ้นมามันก็ชวนอารมณ์เสียอีก
อิซึมิจังก็ก่อเรื่องเอาไว้ตั้งขนาดนั้น แต่สุดท้ายเราก็อภัยให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไปซะเฉยๆ เลย อย่างน้อยก็อยากกดดันจนทำให้อิซึมิจังกัดฟันกรอดให้ได้ซักหน่อยน่ะนะ?
ถ้าเป็นเรื่องใส่ชุดสวยๆ งามๆ แล้วออกมาดูดีล่ะก็ ฉันเองก็ไม่แพ้อิซึมิจังหรอกนะ ก้มกราบต่อความงดงามของชั้นเสียเถอะ♪ 
"♪ ♪ ♪"


อิซึมิ: หึหึ ใครมันกำลังละเมอว่าจะทำให้ฉัน "กัดฟันกรอด" กัน? บนโลกนี้ไม่มีใครหน้าไหนที่จะแสดงบทของ "ช่างทำหมวก" ได้ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าฉันอยู่แล้ว
อวดดีจริงๆ เลยนะ~ รุ่นน้องอย่างพวกนายคิดจะเอาชนะฉัน มันยังเร็วไปอีกร้อยปี♪
เอาล่ะ จะเร่งกำลังให้มากขึ้นกว่าเดิมแล้วนะ! ใครที่คิดว่าตามทันก็ตามมาได้เลย...♪
"♪! ♪! ♪!"

เลโอ: วะฮ่าฮ่า! ทุกคนพากันค่อยๆ ลงแรงกับการแสดงเพอฟอร์แมนซ์ราวกับกำลังตอบรับต่อเวทีที่กำลังถึงจุดพีคอยู่เลย! ต้องแบบนี้สิถึงจะเป็น [Knights] ♪
ฉัน เซนะ ริสสึ กับนารุ แล้วยูนิตที่เหลือกันอยู่สี่คนนี้ก็มีสุโอะเพิ่มเข้ามา มีพวกรุ่นน้องมารวมตัวกัน...


เลโอ: แล้วทุกคนก็ได้มามอบบทเพลงอันสนุกสนาน ให้แก่เวทีนี้ー ไม่สิ ให้แก่โลกใบนี้!
ว่าไงดีล่ะ เป็นเรื่องที่วิเศษสุดๆ ไปเลยนะ...☆
"♪~♪~♪"

Mad Party - Epilogue1

 

<หลังจากนั้นเมื่อสิ้นสุดการออดิชั่น, [อันเดอร์แลนด์] วันจริง>

เลโอ: ♪~♪~♪
ไงล่ะทุกคน? พอฮัมเพลงแล้วก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นเลยใช่ม้า?
เอ๊ะ ไม่เป็นแบบนั้นเหรอ? แปลกจังแฮะ~ ส่วนตัวฉันว่าคลายความตื่นเต้นได้ดีเลยนะ
แต่ตรงส่วนนั้นก็เป็นความต่างระหว่างประสบการณ์กับพวก "เด็กใหม่" ล่ะนะ ในเมื่อการออดิชั่นจบไปแล้วก็อกผายไหล่ผึ่งเข้าไว้สิ!
ถ้าตื่นเต้นจนตัวเกร็งล่ะก็ เดี๋ยวเซนะเซนเซย์ผู้แสนน่ากลัวก็โกรธเอาหรอก~?

อิซึมิ: ใครเป็น "เซนะเซนเซย์" กันหะ? เลิกเรียกแบบนั้นซักทีได้แล้วน่า
ให้ตายเหอะ ประสาทจะกิน... ทำไมต้องทำเหมือนฉันเป็นอาจารย์ด้วยเนี่ย

สึคาสะ: น่า อย่าหัวเสียแบบนั้นเลยครับ เซนะเซมไป
เป็นเพราะเซนะเซมไปกู้คืน "Red Knights" ได้อย่างงดงาม ทุกคนก็เลยผ่านการ Audition กันหมดนี่ครับ

อิซึมิ: เหอะ ผู้ชนะจะพูดอะไรก็ได้งั้นสิ? พอ "ไวท์ไนท์" ชนะ ก็มาขอให้พาทุกคนไปออดิชั่นด้วยกันทั้งหมดเฉยเลยーสุดท้ายก็เป็นไปตามที่คาสะคุงวางแผนไว้ซะได้

สึคาสะ: เป็นเพราะริทสึเซมไปนั่นล่ะครับ เพราะศึกแดงขาวใน [Mad Party] ครั้งนี้ เลยยิ่งทำให้รู้สึกตัวถึงความสุดยอดของคนๆ นั้นเข้าไปอีก
ไม่นึกเลยว่าการที่ริทสึเซมไปให้ความร่วมมือกับทั้งสองกลุ่มจะทำให้พวกเราได้ผลประโยชน์ถึงขนาดนี้ สมแล้วครับที่เป็นเสนาธิการของ [Knights]

อาราชิ: นั่นสินะจ๊ะ ริทสึจังทำให้ศึกแดงขาว ไม่ใช่ศึกแดงขาวไปแล้ว
ไม่ว่าฝั่งไหนจะชนะ ผลสุดท้ายก็จะทำให้ [Knights] แข็งแกร่งขึ้นอยู่ดีー
ถึง "เรดไนท์" เป็นฝ่ายชนะเอง ก็คงจะขอให้ "ไวท์ไนท์" ไปออดิชั่นด้วยกันอยู่ดีใช่ไหมล่ะจ๊ะ?

อิซึมิ: นั่นสิ จะยังไงกันน้อ
แต่เอาเป็นว่า [Knights] ก็ผ่านการออดิชั่นมาได้แล้ว ถ้าดูจากผลลัพธ์ก็คงต้องบอกว่า "แฮปปี้เอนด์ดิ้ง" ล่ะมั้ง

เลโอ: วะฮ่าฮ่า เซนะตอนทำเป็นเข้มนี่น่ารักจังนะ~♪ ตอนเห็น "แมดแฮทเตอร์" ที่มาเยี่ยมในห้องเตรียมตัว ยังเลิกลั่กทำอะไรไม่ถูกอยู่เลยแท้ๆ?

อิซึมิ: ...เลโอคุง?

เลโอ: อย่าจ้องเขม็งงั้นน่า~ แค่รู้สึกอมยิ้มที่เซนะก็มีจิตใจอันแสนใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนกันเท่านั้นเอง!
ไม่ว่าใครก็ต้องมีสิ่งที่หลงใหลกันทั้งนั้น ถ้ามันทำให้เซนะพัฒนาขึ้นในแบบที่ถูกที่ควรก็ดีแล้วล่ะ
แล้วพวกเราก็ต้องทำแบบนั้นแก่แฟนคลับทุกคน ที่นี่ในวันนี้ด้วย

ริทสึ: อื้มๆ จะยึดมั่นในอีโก้จนกว่าจะชนะการออดิชั่นมันก็ไม่เลวอยู่หรอก แต่เรื่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้น เรื่องนี้ก็ส่วนเรื่องนี้ล่ะนะ

อิซึมิ: คิดว่ากำลังพูดกับใคร ฉันรู้ดีอยู่แล้วน่า
ไหนๆ ก็ได้สวมชุดของ [แมดแฮทเตอร์] ที่ใฝ่ฝันทั้งที จะแสดงภาพน่าเกลียดให้คนอื่นเห็นได้ยังไงเล่า

สึคาสะ: ฮุฮุ สมแล้วที่เป็นเซนะเซมไป แรงใจเต็มร้อยเลยนะครับ
ใน Live วันนี้ หลังจากที่พวกเรา [Knights] เก่าทำให้เวทีลุกโชนด้วยเพลงใหม่แล้ว ก็จะให้เหล่ารุ่นน้องเข้ามาร่วมด้วยครับ
เพลงใหม่「Or the Beautiful Golden Drop」ーให้เพลงที่สื่อถึงโลกของ Alice นี้ ทำให้ทุกคนในงานต้องหลงเสน่ห์กันเถอะครับ


ริทสึ: "ทุกคน สนุกกับ [อันเดอร์แลนด์] กันหรือเปล่า?"
"ไลฟ์ที่มีธีมเป็น "อลิซในแดนมหัศจรรย์" เอง ก็ใกล้จะดำเนินมาเกินครึ่งแล้วล่ะมั้ง ได้เวลาของ "ช่างทำหมวก" ที่ทุกคนรอคอยแล้วล่ะ♪"

อาราชิ: "ในแดนมหัศจรรย์ที่อลิซมาเยือน ที่นั่นมี "ช่างทำหมวก" ทั้งห้าคนกำลังจัดเตรียมงานเลี้ยงน้ำชากันอยู่"

สึคาสะ: "บรรดา "ช่างทำหมวก" เหล่านั้น มีเป้าหมายอยู่"
"นั่นก็คือการที่ "ช่างทำหมวก" จะมาร่วมมือกัน เพื่อจัด Party ที่ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน และทำให้เหล่าผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงน้ำชาจะต้องตื่นตะลึง"

เลโอ: "ー"ช่างทำหมวก" อย่างพวกเรา จะทำให้ทุกคนต้องติดอยู่ในวังวนแห่งความบ้าคลั่งอันสนุกสนานเอง!"
"เพราะแบบนั้น "ช่างทำหมวก" จึงได้รวบรวมเพื่อนพ้อง และเรียกแขกเหรื่อมา♪"
"ในหมู่นั้น ผู้ที่มีความมุ่งมั่นมากที่สุดก็คือชายผู้นี้! เซนะเป็นคนที่มีความกระตือรือร้นต่อ [อันเดอร์แลนด์] นี้มากที่สุดเลยไงล่ะ!"

อิซึมิ: "พูดอะไรเนี่ย นี่เป็นเวทีที่คว้ามาได้เพราะ [Knights] ทุกคนนะ ต้องนำเสนอสมาชิกคนอื่นนอกจาฉันด้วยสิ"
"แต่ก็ ที่บอกว่าฉันมุ่งมั่นนี่ก็เป็นความจริงล่ะนะ...♪"
"เอาเป็นว่า ล้อกันเล่นพอแค่นี้ดีกว่า ชุดในครั้งนี้ มีผู้ที่ฉันให้ความเคารพเป็นคนดีไซน์"
"ถึงจะเปิดเผยชื่อไม่ได้ก็จริง แต่คนๆ นั้นเป็นคนที่ฉันหลงใหลในสมัยเป็นโมเดลー และเคยเป็นหนึ่งใน "รูปแบบที่อยากจะเป็น" "
"คนๆ นั้น เผชิญหน้าต่อโลกที่ไม่มีอะไรได้ดั่งใจอย่างแน่วแน่ และสร้างสถานที่อยู่ของตัวเองขึ้นมา"
"เพราะฉันเองเป็นคนที่ไม่ชอบและไม่อยากที่จะกังวลต่อสายตาของสังคมหรือสายตาของคนอื่นด้วย จึงคิดอยากจะเป็นแบบนั้นมาโดยตลอด"
"ดังนั้นวันนี้ จึงเป็นวันที่ความฝันของฉันบรรลุผลไปแล้วหนึ่งอย่างไงล่ะ ขอให้ฉันได้แบ่งปันหนึ่งวันอันแสนสุขที่ได้รับมาจากระหว่างการต่อสู้ ให้แก่ทุกคนด้วยนะ"
"「Or the Beautiful Golden Drop」ーขอให้สนุกกับงานเลี้ยงน้ำชาอันพิลึกพิลันกันให้เต็มที่เลยนะ!"
"♪~♪~"

Obbligato - ศรัทธาต่อคาเซฮายะ ทัตสึมิ/ตอนที่ 4

  <เวลาเดียวกัน ห้องโหลยโท่ยของโรงเรียนเรย์เมย์> ทัตสึมิ: ーครับ เท่านี้ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ คานาเมะ: ......... ทัตสึมิ: ผมขอให้ทุกคนออกไ...