วันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2566

Mad Party - Mad Hatter/ตอนที่ 2

 

สึคาสะ: คุณผู้ฟังทุกท่าน สวัสดีครับ ในครั้งนี้พวกเราได้มาเยือนยังบ้านของ "Mad Hatter" ผู้เป็น Fashion Designer ในตำนานกันนะครับ

อาราชิ: เป็นคฤหาสต์หลังโตที่มีเสื้อผ้าหลายแบบประดับไว้เต็มไปหมดเลย เป็นคอลเลกชั่นที่เคยเปิดตัวในโชว์เมื่อก่อนหรือเปล่านะ?

อิซึมิ: โห นี่มัน...

ริทสึ: มีอะไรเหรอ? เซ็จจัง?

อิซึมิ: ผลงานในคอลเลกชั่นเมื่อ 50 ปีก่อน ชุดที่โดดเด่นแปลกใหม่จนกลายเป็นที่โจษจันระดับโลกนี่นา...
การเซ็ตอัพเฉพาะตัวแบบนี้ ก็ได้กลายเป็นแนวทางของ "แมดแฮทเตอร์" สืบต่อมาสินะ
ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะมีวันได้เห็นของจริง

เลโอ: เห~ 50 ปีก่อนเลยเหรอ! ปรมาจารย์ในครั้งนี้เองก็เหมือนจะเป็นคนที่เจ๋งสุดๆ ไปเลยแฮะ!
ฉะนั้นเรา ครั้งนี้เองก็เชิญรับชมช่วง "เหล่าปรมาจารย์ด้านความงาม" โดย [Knights] ได้เลย!
เชิญเลยคร้าบ คุณ "แมดแฮทเตอร์" ~☆

สึคาสะ: ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณคือ "Mad Hatter" สินะครับ?
อาจจะฟังดูเสียมารยาทอยู่บ้าง... แต่ยังคงดูอ่อนเยาว์ไม่เหมือนอยู่ในวัย 78 ปีเลยนะครับ
เพราะจดจ่ออยู่กับการตัดชุด จึงยังคงความอ่อนเยาว์ไว้ได้ตลอด... อย่างนั้นสินะครับ บางทีการทำงานด้วยความกระตือรือร้น อาจจะเป็นเคล็ดลับของความอ่อนเยาว์ก็ได้สินะครับ

อาราชิ: ความงามชั่วนิรันดร์... ฉันเองก็อยากเอาเป็นแบบอย่างบ้างเหมือนกันนะ

ริทสึ: งั้นก็แปลว่า ตอนนี้เองก็ยังทำงานอยู่แนวหน้าในฐานะแฟชั่นดีไซเนอร์สินะครับ
ทำเอาอยากให้อานิจาของผมที่เพิ่งอายุแค่ 20 แต่มัวทำตัวเป็นคนแก่ หัดดูเป็นตัวอย่างบ้างเลยล่ะครับ

เลโอ: ผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ยังทำงานเดิมสินะเนี่ย ผมเองเองก็อยากเอาเป็นแบบอย่างบ้างจัง
ขอสอบถามเกี่ยวกับงานในช่วงนี้หน่อยจะได้หรือเปล่าครับ?

อาราชิ: อืมๆ... อยากทำงานอยู่ในแนวหน้าสุดก็จริง แต่มีผู้จัดการหรือดีไซน์เนอร์ลูกมือคอยกำกับดูแลอยู่ งานในฐานะดีไซเนอร์ก็เลยลดน้อยลงสินะ?
เพราะได้ลูกมือที่เป็นดีไซเนอร์ที่เก่งกาจคอยช่วย ช่วงนี้ก็เลยไม่ค่อยได้ทำชุดเข้าคอลเลกชั่นทุกๆ ซีซั่นแล้ว
ก็คือ เหมือนเกษียณจากการเป็นดีไซเนอร์ไปแล้วครึ่งนึง สินะ

อิซึมิ: อย่างนั้นเองสินะ ฉันเองถึงจะค่อนข้างมีชุดของ "แมดแฮทเตอร์" เป็นชุดโปรดก็จริง
แต่ก็รู้สึกว่าการใส่ชุดที่อาจารย์เป็นผู้ดีไซน์ในสมัยก่อนー มันให้ความรู้สึกดีกว่านี้น่ะ
ถึงแก่นแท้ของแฟนชั่นดีไซเนอร์ในตำนานจะตกทอดมายังผลงานยุคปัจจุบันด้วยก็จริง แต่แบบออริจินอลก็จะยิ่งให้บรรยากาศว่าเป็นเอกลักษณ์รายบุคคลมากกว่า
เอาสีดำที่ถูกคิดว่าดูเหมือนชุดไว้ทุกข์ มาผสมผสานเข้ากับแฟชั่นแนวคลาสสิกー นั่นล่ะคือเสน่ห์ในการดีไซน์ของอาจารย์

เลโอ: จู่ๆ ก็ช่างจ้อเชียวนะ~ สมแล้วที่เป็นแฟนคลับผู้เร่าร้อน!
คุณ "แมดแฮทเตอร์" ครับ ชายที่ชื่อว่าเซนะ อิซึมิคนนี้เป็นแฟนคลับแบรนด์ของคุณ
แล้วก็ถึงกับจงใจกลับฟีเรนเซ่ช้ากว่ากำหนดเพื่องานนี้โดยเฉพาะเลยนะครับ!

อิซึมิ: อ๊ากกกก! ช่างเรื่องฉันเหอะน่า! หุบปากไปเลย!

สึคาสะ: ฮุฮุ ถึงจะเป็นเซนะเซมไปที่ทำตัวชอบเอาชนะตอนอยู่ต่อหน้าพวกเราก็จริง แต่พออยู่ต่อหน้าคุณ "Mad Hatter" แล้วถึงกับอยู่ไม่สุขเลยสินะครับ น่าอมยิ้มจัง

เลโอ: หืม? "จะทำตัวอวดเก่งก็ได้นะ รู้สึกเหมือนกำลังมองตัวเองเมื่อสมัยก่อนอยู่เลย" ...?
ได้รับการยอมรับจากอาจารย์เค้าด้วย ดีจังเลยน้า~ เซนะ!

อิซึมิ: ยังไม่รู้เลยว่าแบบนั้นมันหมายถึงได้รับการยอมรับหรือเปล่า... แล้วก็ พวกเราเป็นคนสัมภาษณ์นะ ไปสัมภาษณ์อาจารย์เค้าเถอะน่า!
...เอ๋? อยากลองสวมชุดของ "แมดแฮทเตอร์" ที่อาจารย์เป็นคนตัดเองดูหรือเปล่า... งั้นเหรอครับ?
แน่นอนว่าถ้าหากมีโอกาสก็อยากจะลองสวมให้ได้อยู่หรอก...
"ช่วยดูหมวกนี้ทีสิ"...?
เป็นหมวกที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย... นี่มัน อะไรน่ะ?
เอออ๋!? อาจารย์เพิ่งตัดเสร็จกะจะมาเซอไพรส์พอดี? เพราะมีคนแอบวานมา...?

ริทสึ: ก็จะพอเอะใจอยู่หรอก หรือว่านั่นจะสำหรับ [อันเดอร์แลนด์]...
"เพราะว่าไม่อยากให้กรรมการถือหาง ก็เลยแอบส่งไปแข่งแบบไม่ประสงค์ออกนาม"...?

สึคาสะ: เป็นแบบนั้นจริงๆ ด้วยสินะครับ ไม่นึกเลยว่าอาจารย์จะเป็นผู้ Design และ Produce ชุดแสดงของ [Underland] แบบลับๆ ด้วย
ตอนนี้รุ่นน้องของพวกเรา [Knights] เอง ก็เผอิญเข้ารับการ Audition อยู่พอดีเลยล่ะครับ
หากผ่านการคัดเลือกก็จะได้สวมผลงานของอาจารย์ด้วย ยิ่งทำให้มีกำลังใจเข้าไปใหญ่เลยนะครับ

อาราชิ: อุฮุฮุ ทีแรกพอได้ยินว่าจะได้มาพูดคุยกับผู้ก่อตั้ง "แมดแฮทเตอร์" ก็ทำเอารู้สึกว่าเรื่องบังเอิญแบบนี้ก็มีด้วยก็จริง...
แต่ไม่นึกเลยว่าอาจารย์จะเข้าร่วมกับเค้าด้วย...
ทำเอาอยากให้พวกเค้าได้รับบท "ช่างทำหมวก" มาให้ได้เลยเนอะ♪

เลโอ: นั่นสินะ! พวกเราติดตารางงานก็เลยเข้าร่วมไม่ได้ด้วย ให้พวก "เด็กใหม่" พยายามแทนแล้วกันนะ!
อาจารย์เองก็บอกว่า "อยากให้คนที่ได้ใส่ เป็นคนที่หลุดจากสามัญสำนึกถึงขนาดแหกกฎแต่ดั้งแต่เดิม เหมือนกับสมัยที่ตัวเองแข่งงานประชันเสื้อผ้าที่ต่างประเทศ" ด้วยนี่นา
ในจุดนั้น ถ้าเป็นรุ่งน้องของพวกเราล่ะก็ไม่มีอะไรให้ห่วงหรอก
ถึงจะพอมีมารยาทอยู่บ้าง แต่ก็มุ่งมั่นไฟแรงอยากจะก้าวข้ามแล้เขี่ยเราให้ร่วงอยู่ทุกเมื่อเลยนี่นา♪

อิซึมิ: ฉันเองก็...

ริทสึ: เซ็จจัง?

อิซึมิ: ...เปล่า ไม่มีอะไร
ฉันเองก็มีแต่ต้องทำในสิ่งที่ควรทำในฐานะมืออาชีพเท่านั้นล่ะ จะให้พูดว่าจะไปออดิชั่น [อันเดอร์แลนด์] เอาป่านนี้ได้ยังไงล่ะ
แต่ว่า ถ้ามีโอกาสที่จะได้สวมชุดที่อาจารย์เป็นคนตัดล่ะก็ ในตอนนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันก็จะคว้าตำแหน่งนั้นมาให้ได้อย่างแน่นอน


ริทสึ: ฮุฮุ เซ็จจังนี่ก็เป็นผู้ใหญ่แล้วนะเนี่ย? ถ้าเป็นเซ็จจังเมื่อก่อนล่ะก็ คงคิดว่าถึงต้องไล่ต้อนพวกรุ่นน้อง ตัวเองก็จะเอาเกียรติยศนั้นมาให้ได้แน่ๆ เลย
ยอมให้รุ่นน้องแบบนี้ เติบโตขึ้นมานิดหน่อยจากตอน [euthanasia] แล้วใช่ไหมล่ะ?
ว่าไปนั่น~... อะฮะฮะ ตอนนี้เราก็พูดออกนอกเรื่องกันแล้วด้วย คงเอาไปใช้เป็น VTR ของ [เหล่าปรมจารย์ด้านความงาม] ไม่ได้หรอก
ถ้างั้น เอาเป็นว่าจากนี้เราลองมาเดิมชมห้องของผู้ก่อตั้ง "แมดแฮทเตอร์" ทีละห้องๆ แล้วถามเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของแบรนด์หรือพวกแนวปรัชญาดูเป็นไง?
งั้นก็ เข้าช่วงพักเบรคซักครู่นะคร้าบ~☆

Mad Party - Mad Hatter/ตอนที่ 1

 

﹤หลายวันต่อมา สำนักงานนิวดี้﹥

เลโอ: [อันเดอร์แลนด์] ?
อะไรน่ะนั่น น่าสนุกจัง! ฉันเอาก็อยากเข้าร่วมด้วย!

อิซึมิ: เดี๋ยวๆ นี่ได้ฟังที่พูดไหมเนี่ย?
เราจะให้พวกเด็กใหม่ของ [Knights] ไปออดิชั่น ส่วนพวกเราน่ะไม่ได้เข้าร่วมซะหน่อย

เลโอ: อะไรเนี่ย น่าเบื่ออ่ะ!
ไอ้ฉันเองก็อยากแต่งเพลงที่มีหัวข้อเป็น อลิสในโลกแนวดาร์ก? บ้างเหมือนกันนะ!
...อ๊ะ ถ้าแค่แต่งเพลงล่ะก็ไม่ต้องเข้าร่วมก็แต่งได้นี่เนอะ งั้นแต่ง "เพลงอยากเข้าร่วมออดิชั่นแต่ดันชวด" ซักหน่อยดีกว่า~♪

อิซึมิ: แล้วไอ้ "อลิสในโลกแนวดาร์ก" นั่นหายไปไหนแล้ว?
เอาเถอะ ช่างเลโอคุงไปก่อน [อันเดอร์แลนด์] เนี่ยก็ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับมือใหม่ของพวกเราเลย
ถึงพวกเราจะมีชื่อในวงการบันเทิงอยู่แล้วก็จริง แต่พวกเด็กใหม่จะว่ายังไงดี มีงานที่เหมือนเป็นแค่การแสดงเปิดมากกว่า
ต้องให้เข้าร่วมการออดิชั่น และฝึกฝนขัดเกลาตัวเองให้มากขึ้นแล้วสิ?
ถ้าเอาแต่ให้พวกเราคอยอุ้มชูไปตลอด ก็ไม่มีเหตุผลที่มาเข้า [Knights] นี่นา♪

สึคาสะ: ครับ ผมว่าพวกเขามีคุณสมบัติมากพอเลยล่ะ
ถึงที่ผ่านมาจะเอาแต่หลบอยู่ในเงาของพวกเราก็จริง แต่ในแง่ความสามารถแล้วก็โดดเด่นไม่แพ้ใครในหมู่นักเรียนใหม่ของยูเมะโนะซากิเลยนะครับ
เมื่อครู่เองก็ได้รับการติดต่อจากวงใน ว่าเอกสารของ [Knights] ผ่านการพิจารณาแล้วล่ะครับ
ถึงคราวนี้ศูนย์กลางจะอยู่ที่พวกรุ่นน้อง แต่เรื่องที่ [Knights] นั้นกล้าแกร่งก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปอยู่แล้วล่ะครับ ทางฝั่งผู้จัดการเองก็คงตั้งใจจะให้ผ่านการคัดเลือกอยู่แล้วเหมือนกัน
พวกเราเองก็จะมัวแต่ยืดยาดไม่ได้แล้วสิครับ ต้องพยายามไม่ให้น้อยหน้าพวกรุ่นน้องแล้ว
การถ่ายรายการ TV ในวันนี้ก็มาพยายามไปด้วยกันนะครับ ทุกคน

เลโอ: นั่นสินะ! ว่าแต่วันนี้ถ่ายรายการอะไรล่ะ?
วะฮ่าฮ่า! มัวแต่จดจ่อแต่กับการทำน้ำหอมก็เลยไม่รู้เรื่องอะไรเลยน่ะ!

อิซึมิ: ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งย้ำให้อ่านเอกสารแผนงานไปเองไม่ใช่เหรอ
งานครั้งนี้ก็เป็นการถ่ายรายการในช่วง "เหล่าปรมจารย์ด้านความงาม" เหมือนอย่างเคย ที่ให้เราไปเยี่ยมบ้านของคนที่เป็นดีไซเนอร์นักออกแบบเสื้อผ้าชั้นครู แล้วให้เราถามนู่นถามนี่
นี่ไง อย่างคนที่ทำเสื้อแบรนด์ที่ฉันใส่อยู่ー

ริทสึ: "แมดแฮทเตอร์" เหมือนว่าเราจะต้องไปบ้านของคุณยายที่เป็นผู้บุกเบิกที่แฟนชั่นดีไซเนอร์แนวแฟชั่นญี่ปุ่น ที่มีอีกชื่อในวงการว่าอย่างนั้นนะ

เลโอ: แมดแฮทเตอร์... แปลว่า "ช่างทำหมวก" สินะ!?
ทางนี้เองก็เป็นธีมอลิสเหรอเนี่ย~ ยิ่งกว่าบังเอิญ นี่แทบจะเรียกว่าปาฏิหาริย์เลยนะ!
คุณยายช่างทำหมวกกับงานเลี้ยงน้ำชาสุดพิสดาร! น่าสนุกจัง...☆

อาราชิ: ขอโทษที่ขัดตอนกำลังตื่นเต้นนะ แต่เหมือนจะถึงเวลาที่รถจะมารับแล้วล่ะจ้ะ ไปรอกันที่ล็อบบี้ดีไหม?
ถ้าเกิดว่าไปสายกว่าเวลานัดพบล่ะก็ เดี๋ยวอิซึมิจังเขาจะ "ฮึดฮัด" เอา♪

เลโอ: หืม? แล้วทำไมเซนะต้องโกรธด้วยล่ะ?

อาราชิ: อุฮุฮุ ลืมไปแล้วเหรอจ๊ะ เลโอคุง?
แต่เดิมแล้วเวลานี้เป็นช่วงที่อิซึมิจังควรกลับฟีเลนเซ่ได้แล้วล่ะ แต่อิซึมิจังเขาแคนเซิลไปเพราะจะได้ร่วมงานกับ "แมดแฮทเตอร์" ไง

เลโอ: ...อ๋อ ไอ้เรื่องต้องกลับไปฟีเลนเซ่เอง ก็สนุกกับการทำน้ำหอมจนลืมไปสนิทแล้วเหมือนกัน!
ถึงจะเป็นเซนะที่ไม่ค่อยให้เกียรติคนอื่น ก็ยังมีคนที่ให้ความเคารพอยู่ด้วยสินะเนี่ย~♪

อิซึมิ: ยุ่งอะไรไม่เข้าเรื่อง ไหนๆ ถ้าลืมไปแล้วก็ลืมไปยันจบเรื่องซะเลยสิ...!
แล้วก็ ไอ้ฉันเองก็มีคนที่เคารพให้เกียรติเหมือนกับชาวบ้านชาวช่องเค้าเหมือนกันนะ! อย่ามาพูดอะไรซี้ซั้วจะได้ไหม?

ริทสึ: อะฮะฮะ เซ็จจังหน้าแดงก่ำหมดแล้ว...♪
น่าจะมีเรื่องที่อยากพูดเยอะแยะไปหมดเลยนี่นา ไม่เห็นต้องปิดบังเรื่องที่เป็นแฟนคลับเลยไม่ใช่เหรอ?
ไม่ได้เป็นเรื่องน่าอายอะไรซักหน่อยนี่นา?

อิซึมิ: ไม่เหมือนกับแฟนคลับหรอกนะ เป็นตัวตนที่หลงใหลในฐานะคนร่วมอาชีพ ที่ยกระดับแฟชั่นดีไซเนอร์ในวงการให้สูงขึ้นต่างหากล่ะ!
สำหรับแฟชั่นโมเดลอย่างพวกเราแล้ว "แมดแฮทเตอร์" ก็เหมือนกับคนที่เป็นตำนานนั่นแหละ ระมัดระวังอย่าทำตัวเสียมารยาทล่ะ! เข้าใจ๋?

อาราชิ: อุฮุฮุ ก็แบบนั้นแหละจ้ะ ระวังเอาไว้หน่อยนะ เลโอคุง?

เลโอ: คร้าบ~! ก็เป็นคนที่เซนะให้เกียรติเลยนี่นา~♪
พวกเราเองก็น่าจะได้แรงบันดาลใจอะไรบ้างเหมือนกันนะ รีบไปอย่าให้สายกันดีกว่า~!

อิซึมิ: หมายความว่าอย่าเอาแต่พูดจาล้อเล่นแล้วให้หุบปากไว้ต่างหากเล่า!?
ถ้าไปพูดจาอะไรพล่อยๆ แบบนั้นต่อหน้า "แมดแฮทเตอร์" ล่ะก็ ฉันจะทำให้นายต้องสงบปากสงบคำไปอีกซักพักเลย...!

สึคาสะ: ...เป็นอุปสรรคที่คาดไม่ถึงซะแล้วสิครับ ไม่นึกเลยว่าจะทำให้เซนะเซมไปถึงกับอยู่ไม่สุขขนาดนี้
"Mad Hatter" ー ทำให้เซนะเซมไปคนนั้นเป็นเอามากขนาดนี้ได้ แปลว่าฝีมือต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ ครับ
ตอนดูแค่จากในเอกสารก็แค่รู้สึกว่าเป็น "คนที่สุดยอด" เฉยๆ ก็จริง แต่ชักจะเริ่มสนใจขึ้นมาแล้วสิ
ฮุฮุ วันนี้จะต้องเป็นการอัดรายการที่ได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะแน่ๆ เลยครับ...♪

Mad Party - Prologue

 

﹤สถานที่ออดิชั่น [อันเดอร์แลนด์]﹥

อิซึมิ: "สำหรับฉันที่เป็นนักสร้างสรรค์ผลงานแล้ว อะไรคือรูปแบบในอุดมคติ"...?
(ไม่นึกไม่ฝันเลย ว่าจะมีวันที่เราได้มาถามตอบอาจารย์ที่ตัวเองหลงใหลแบบตัวต่อตัว)
(แล้วก็ คำถามนี้... ถ้าเป็นตัวเราก่อนหน้านี้อีกซักนิดล่ะก็ คงจะตอบอย่างอื่นไปแล้ว)
(บางทีคำตอบนั้น จะต้องกลายมาเป็นคมดาบที่หันเข้ามาหาเราเองแน่ แต่ว่าถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็ จะขอตอบแบบนี้)
รูปแบบในอุดมคติ นั้นก็คือ...


﹤ย้อนกลับไป ต้นเดือนพฤจิกายน สถานที่รวมตัวของ [Knights] การ์เด้นเทอแรนซ์ภายในโรงเรียน﹥

สึคาสะ: "ทุกคน โปรดอยู่ในความสงบด้วยครับ จากนี้จะขอกล่าวเรื่องสำคัญเกี่ยวกับแนวทางต่อจากนี้ของ [Knights]"
"ทุกท่านเองก็คงจะทราบอยู่แล้ว ว่า [Underland] ที่จะเริ่มเปิดรับสมัครกันในครั้งนี้ เป็นการ Audition ที่ถูกพูดถึงกันมากแม้แต่ภายในวงการเอง"
"เป็นโครงการที่มีธีมเป็น Alice เพื่อเชื่อมโยงไปถึง [Wondergame] ที่ [Switch] และ [Eden] เข้าร่วมจนกลายเป็นประเด็นกันไปก่อนหน้านี้"
"ดูเหมือนว่าเหล่าเด็กรุ่นใหม่ที่จะเข้าร่วมก็มารวมตัวกันแล้วสินะครับ"
"แน่นอนว่า พวกเรา [Knights] เอง ก็ไม่มีทางปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไปเหมือนกัน"
"ทว่า เป็นเพราะเหล่ารุ่นพี่ที่จบการศึกษาไปแล้วของ [Knights] ติดภารกิจอื่นอยู่ จึงทำให้จัด Schedule ในการเข้าร่วมได้ค่อนข้างลำบาก..."
"พูดกลับกันก็คือ นี่ถือเป็น Chance อันดีงามของพวกคุณทุกคน ที่ยังศึกษาอยู่ในโรงเรียนยูเมะโนะซากินี้เลยล่ะครับ"
"ขอให้ "เด็กใหม่" ทุกคนคว้าแอร์ไทม์มาให้ได้ แล้วแสดงให้เห็นว่า [Knights] เองก็มีรุ่นน้องที่วางใจได้อยู่ทีนะครับ!"
"ผมเองก็จะให้การ Support อย่างเต็มที่ที่สุดในฐานะ "ราชา" เช่นกัน เข้าใจนะครับ จะบอกว่าการแข่งขันนี้จะเป็นตัวทำนายชะตาต่อจากนี้ของ [Knights] ก็ไม่เวอร์เกินไปเลย!"
"ขอให้เข้าร่วมโครงการนี้ แล้วผ่านการคัดเลือกมาให้ได้นะครับ!"

อาราชิ: สึคาสะจัง ดูมีชีวิตชีวาไม่เหมือนอย่างเคยเลยนะจ๊ะ
ถึงกับใช้โทรโข่งประกาศเรียกให้เข้าร่วมสงครามเลย ออกจะผิดไปจากปกติอยู่นิดหน่อยนะ?

ริทสึ: ก็นะ ถ้าซูจังอยากทำแบบนั้นพวกเราก็มีแต่ต้องทำตามนั่นล่ะ เหมือนจะอยากให้รุ่นน้องได้ออกใน [อันเดอร์แลนด์] นี่นา
แถมมีพวกอันสึที่เป็นนักเรียนจาก [แผนกโปรดิวซ์] คอยช่วยดูแลพวกเด็กใหม่ให้ด้วย
ใช้ "กฎคนเริ่มพูดเป็นคนเริ่มทำ" ไง ให้ซูจังเป็นตัวนำก็น่าจะดีแล้วนะ? (言い出しっぺの法則 หลักการที่ว่าใครเสนอความคิดอะไรต้องเป็นคนเริ่มลงมือเองก่อน)

อาราชิ: กฎคนเริ่มพูดเป็นคนเริ่มทำสินะ...
แต่ว่ากันตามตรง สำหรับ [Knights] ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว การเข้าร่วมออดิชั่นก็ไม่ได้ส่งผลบวกอะไรมากขนาดนั้นหรอก
แต่ถ้า "ราชา" ต้องการแบบนั้นก็มีแต่ต้องทำตาม เราตัดสินใจกันแบบนั้นแล้วนี่นะ
ก็เข้าใจได้อยู่หรอกที่สึคาสะจังจะกังวล ในฐานะ "ราชา" คนใหม่แล้ว จะต้องคอยฉุดดึง [Knights] ของฝังยูเมะโนะซากิด้วยเหมือนกันนี่นะ
ตอน [เทศกาลทานาบะตะ] เองก็เหมือนกัน เหมือนตอนนี้คนจะยังมองกันว่า [Knights] มีแค่สมาชิกออริจินอล 5 คนอยู่เลย
ถ้าในเชิงนั้นล่ะก็ การออดิชั่นในครั้งนี้ก็ถือว่าเหมาะเหม็งสำหรับพวก "เด็กใหม่" พอดีเลยเนอะ
เด็กพวกนั้นก็เข้าเรียนมาได้ตั้งครึ่งปีแล้วนี่นา น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการนะ

สึคาสะ: พวกรุ่นพี่ กำลังพูดคุยอะไรกันอยู่เหรอครับ?
ได้ยินการปราศัยของผมกันแล้วใช่ไหมครับ? เป็นเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมที่จะช่วยเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้กับเหล่า "เด็กใหม่" ได้เลยใช่ไหมล่ะครับ?

ริทสึ: อื้ม คอยดูอยู่ห่างๆ แน่ะ~
ฉันเองก็เห็นด้วยกับการที่จะให้รุ่นน้องเข้าร่วม [อันเดอร์แลนด์] เหมือนกัน โครงการนั้นดังในเน็ตมากเลยนี่นา
ยูนิตที่ผ่านการออดิชั่น จะได้รับบทให้แสดงเป็นตัวละครต่างๆ ใน [อลิสในแดนมหัศจรรย์] ที่ถูกดัดแปลงให้ดาร์กขึ้น
ฉันว่าเป็นโครงการที่ควรค่าแก่การพยายามสำหรับรุ่นน้องใน [Knights] เลยนะ

สึคาสะ: ฮุฮุ ใช่ไหมล่ะครับๆ!
ผมเองก็ว่าเป็นไอเดียที่เยี่ยมไปเลยล่ะครับ ทีแรกก็คิดไม่ตกเลยว่าจะทำยังไงถึงจะทั้งยึดมั่นใน Brand ของ [Knights] และทำให้ "เด็กใหม่" ได้เฉิดฉายไปพร้อมๆ กันได้
ให้แค่รุ่นน้องเข้าร่วมการ Audition ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ แล้วก็ทำให้พวกเขาได้สร้างผลงานและเสริมสร้างความมั่นใจด้วย แค่นี้ก็แก้ไขปัญหาได้หมดจดเลยใช่ไหมล่ะครับ?

อาราชิ: อุฮุฮุ สมแล้วที่เป็น "ราชา" คิดถึงพวกพ้องด้วยสินะจ๊ะ เด็กดีๆ~♪

สึคาสะ: อ๊ะ อย่าลูบหัวสิครับ ผมยุ่งหมดแล้วนะ!
อะแฮ่ม(กระแอม) เอาเป็นว่าจะให้พวกเขาทำงานกันในฐานะกองกำลังแยกจากพวกเราที่เป็น [Knights] ของฝั่ง ES นะครับ
พวกเราเองก็มาช่วยสนับสนุนรุ่งน้อง เพื่อให้มุ่งเป้าไปสู่จุดสูงสุดー ไม่ใช่แค่ Big3 แต่เป็น Unit ที่แข็งแกร่งที่สุดเพียงหนึ่งเดียวกันเถอะครับ
คงจะให้ความร่วมมือด้วยสินะครับ เหล่ารุ่นพี่?

อาราชิ: นั่นสินะ ถึงจะไม่ชอบอะไรชวนอึดอัดก็จริง แต่อย่างน้อยจะช่วยให้คำแนะนำกับคนที่ถูกใจให้ก็แล้วกันนะจ๊ะ?

ริทสึ: ซูจังเป็นคนขอทั้งทีนี่นะ ระหว่างที่ยังอยู่ในยูเมะโนะซากิฉันเองก็จะร่วมมือด้วย
ก็ถ้ารุ่นน้องพัฒนาขึ้น เวลานอนกลางวันของฉันก็อาจเพิ่มขึ้นมาบ้างก็ได้นี่นา ถือเป็นการลงทุนล่วงหน้าไง...♪

สึคาสะ: ถึงรุ่นน้องจะพัฒนาขึ้น เวลานอนกลางวันของรุ่นพี่ก็คงไม่เปลี่ยนหรอกครับ
แต่ถึงยังไง พวกเราก็มาทำงานอื่นไป พลางคอยเฝ้ามองรุ่นน้องไปดีกว่านะครับ
ถึง [Knights] จะเป็นกลุ่มที่ยึดหลักปัจเจกนิยมก็จริง แต่หากฝากฝังทุกอย่างให้จัดการด้วยตัวเองคนเดียว ก็จะผิดวัตถุประสงค์ของ Unit ไปー
อยากจะให้พวกเขา ได้รับบทบาทสำคัญใน [Underland] แล้วคอยช่วยค้ำชู [Knights] น่ะครับ
เหมือนกับตอนที่ผมยังเป็น "เด็กใหม่" และได้รับการชี้แนะจากเหล่ารุ่นพี่จนพัฒนามาเป็น Leader เต็มตัวเช่นนี้ได้
เพราะพวกเขาเอง หากได้ลองทำก็ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้เหมือนกันครับ

วันเสาร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2566

Policeman - ตอนที่ 5 (จบ)

 

(ณ ห้องโสต)

ยูซึรุ: ก่อนอื่นก็ วิธีทำมือแสดงความเคารพ...

จิอากิ: ถ้าอันนั้นฉันรู้นะ☆
ยกมือขวาขึ้นแล้วพับศอก หันฝ่ามือไปทางด้านซ้ายล่าง ให้นิ้วชี้ถูกศีรษะ... แบบนี้ไงล่ะ!

ยูซึรุ: ท่านโมริซาว่าอกผายไหล่พึ่งแบบนี้ ทำให้ท่าทำความเคารพดูดีมากเลยล่ะครับ
แถมเสียงยังดังอย่างไร้ประโยชน์อีก งั้นขอฝากหน้าที่กล่าวสุนทรพจน์ให้ท่านโมริซาว่าแล้วกันนะครับ♪

จิอากิ: อื้ม วางใจได้เลย! เปล่งเสียงออกจากช่องท้อง แล้วปล่อยออกทางปากอย่างร่าเริง...! จะใช้ริวเซย์แคนน่อนนี้กำจัดความชั่วร้ายไปให้หมดเอง...☆

อโดนิส: เพราะแบบนั้นเมื่อกี๊กระจกถึงสั่นงั้นเหรอ...? นี่คือพลังของริวเซย์แคนน่อนสินะ
ดูถูกโมริซาว่าเซมไปไม่ได้จริงๆ

สึคาสะ: รู้สึกว่าลมมันแค่บังเอิญพัดมาโดนเฉยๆ นะครับ...? แต่ก็ช่างมันเถอะ
โอเน่ซามะ ทราบหรือเปล่าครับว่าทำไมถึงต้องยกมือขวา?
ฮุฮุ ถือเป็นคำถามง่ายๆ สำหรับโอเน่ซามะสินะครับ อย่างที่โอเน่ซามะกล่าว มี Rule ว่าต้องยกมือข้างถนัดที่ต้องถืออาวุธ ซึ่งก็คือมือขวาครับ
ทั้งสื่อให้เห็นว่าไม่มีเจตนาร้ายต่ออีกฝ่าย และแสดงความเคารพในขณะเดียวกัน
เป็นอย่างไรล่ะครับ โอเน่ซามะ? ท่าทำความเคารพของผม สัมผัสได้ถึงความเคารพที่มีต่อโอเน่ซามะหรือเปล่าครับ?
ฮุฮุ ขอบพระคุณมากครับ♪ เพราะสำหรับผมแล้ว โอเน่ซามะคือองค์ราชินีที่คู่ควรแก่การรับใช้นี่นา
จากนี้ก็จะขอทุ่มเทเพื่อให้โอเน่ซามะได้ปกครองโรงเรียนยูเมะโนะซากิแห่งนี้ในฐานะองค์ราชินีนะครับ♪

ยูซึรุ: โอ๊ะ อันสึซังนี่ไม่ใช่เพียงแค่นายน้อย แต่ยังชิงมาได้กระทั่งหัวใจของท่านสึคาสะเลยสินะครับ
ขอบพระคุณจริงๆ ครับที่โปรดิวเซอร์ผู้เก่งกาจเช่นอันสึซัง มาที่โรงเรียนแห่งนี้
ไอดอลกับโปรดิวเซอร์นั้นเป็นความสัมพันธ์ที่ตัดอย่างไรก็ตัดกันไม่ขาด การที่ไอดอลจะทำให้พรสวรรค์ของตัวเองเปล่งประกายได้ถึงเพียงใดนั้น
ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของโปรดิวเซอร์เลยล่ะครับ
ยูนิตที่อันสึซังฝูกฝักเลี้ยงดูนั้น จะต้องเติบโตไปสู่ไอดอลระดับประเทศ ไม่สิ ระดับโลกเป็นแน่ครับ
ส่วนนั่นจะเป็นยูนิตไหนนั้น จากนี้ก็น่าตั้งตาชมนะครับ♪

อโดนิส: ...อันสึ พาเรดต้อนรับนี่มันเป็นยังไงกันน่ะ?
หืม แค่นั่งรถแล้วส่งรอยยิ้มโบกมือทักทายให้กับผู้ชมก็พอสินะ
แต่ว่า ฉันไม่เห็นเข้าใจเลยว่าการเข้าร่วมพาเรดกับงานผู้กำกับหนึ่งวันมันเกี่ยวข้องกันตรงไหน
...เป็นงานPR? เพราะผู้ที่จะเป็นผู้กำกับหนึ่งวันได้ มีแต่ไอดอล ศิลปิน หรือคนดังเท่านั้น?
แทนที่จะให้คนทั่วไปมา PR เรื่องความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ให้คนดังมา PR ก็จะรวมรวมผู้คนได้มากกว่าสินะ
ถ้าพาเรดต้อนรับจัดขึ้นเพื่อการนั้นล่ะก็ ก็ค่อยเข้าใจได้หน่อย

ยูซึรุ: ได้ยินมาว่ามีโอกาสที่จะได้เข้าร่วมงานมอบรางวัลผู้กำกับตำรวจด้วยนะครับ

สึคาสะ: เพราะเป็นผู้กำกับหนึ่งวัน การ PR ให้พลเมืองทุกท่านทราบถึงเรื่อง "การป้องกันอาชญากรรม" กับ "ความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน" จึงเป็นเป้าหมายหลักสินะครับ

จิอากิ: อื้ม ช่างเป็นงานที่คุ้มค่าแก่การทำเสียจริง...!
ขอบใจมากๆ นะอันสึ ที่มอบหมายหน้าที่อันทรงเกียรตินั้นมาให้!

อโดนิส: โมริซาว่าเซมไป ทำไมจู่ๆ ถึงกระโจนเข้าหาอันสึแบบนั้นกัน

จิอากิ: เหวอ ไหงถึงยืนจังก้าเหมือนพยายามปกป้องอันสึจากฉันกันล่ะ!? แถมอันสึเองก็อย่าทำท่าทีระแวดระวังสิ!
ฮึ้ม นี้ฉันไม่ดีตรงไหนกันนะ...? ไม่เห็นเข้าใจเลยซักติ๊ก☆

ยูซึรุ: ท่านโมริซาว่า คราวหลังกรุณาอย่าโผกอดผู้อื่นโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตดีกว่านะครับ

อโดนิส: ...ฉันจะปกป้อง "สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ" เอง

จิอากิ: อย่าระวังตัวแจขนาดนั้นสิ! ฉันแค่จะกอดอันสึ ในฐานะการสกินชิพอย่างหนึ่งเฉยๆ เองนะ!

ยูซึรุ: ...ท่านอิซาระเคยเตือนไว้ว่าประธานชมรมตนเป็นพวกติดสกินชิพแจ ให้ระมัดระวังตัวเอาไว้ก็เถอะ แต่ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่ว่าสินะครับ

สึคาสะ: ทำเอานึกถึงนารุคามิเซมไปขึ้นมาเลยครับ ถึงจะไม่ได้เร่าร้อนขนาดนี้ก็เถอะ

จิอากิ: อึก ทั้งที่ไม่ได้ประสงค์ร้ายอะไรแม้แต่นิด แต่ชักจะเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองทำเรื่องไม่ดีลงไปซะแล้วสิ!
ขอโทษด้วย! ขอโทษแล้วก็ช่วยอภัยให้ทีเถอะ!

ยูซึรุ: ท่านโมริซาว่า ช่วยก้มหัวด้วยเถอะครับ
ถึงสำหรับท่านโมริซาว่าแล้ว นั่นจะเป็นการกระทำที่เหมือนการหายใจเข้าออกก็จริง แต่อีกฝ่ายก็เป็นผู้หญิงด้วย
พวกเราก็ไม่ได้ถือสาเอาความอะไรท่านโมริซาว่าหรอกนะครับ ได้โปรดอย่าคิดมากไปเลย
แต่ก็ ใช่ว่าจะไม่ได้คิดหรอกนะครับ ว่าควรจะลงโทษอย่างสาสมให้รู้สึกนึก อะไรแบบนี้

อโดนิส: พูดได้หน้าชื่นตาบานเลยนะ
ได้ยินมาว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุดนั้น คือมนุษย์ที่เข้าใกล้ผู้อื่นด้วยรอยยิ้ม แล้วโมริซาว่าเซมไป จะข้ามผ่านภัยอันตรายนี้ไปได้ยังไงกันนะ...?

ยูซึรุ: โถ่ ท่านโอโตการิ กระผมไม่ได้คิดจะจับท่านโมริซาว่ากินเสียหน่อยครับ
ถึงจะเป็นคนเช่นนี้แต่ท่านโมริซาว่าก็เป็นรุ่นพี่ สิ่งที่ผมกระทำต่อท่านโมริซาว่าได้ ก็มีเพียงการหักล้างความคิดอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มเท่านั้นล่ะครับ

อโดนิส: เสียใจด้วยนะ โมริซาว่าเซมไป... อย่างน้อยในฐานะคู่แข่ง ก็จะช่วยเก็บกระดูกให้ก็แล้วกัน

จิอากิ: เรื่องมันชักจะเหมือนรวมพลังกันขับไล่ความชั่วร้ายแล้วก็จริง แต่ยังไงฉันก็คือความยุติธรรมนะ! ริวเซย์เรด ฮีโร่แห่งความเที่ยงธรรมน่ะ!
ถ้าโดนเพื่อนพ้องตราหน้าว่าเป็นความชั่วร้ายทั้งที่จากนี้ต้องไปปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้กำกับหนึ่งวันที่ต้องไปสั่งสอนถึงจิตใจแห่งความเที่ยงธรรมให้พลเมืองล่ะก็ คงไม่มีหน้าไปเจอทุกคนใน [ริวเซย์ไต] แล้ว...!
อันสึ! ถ้าเป็นเธอคงเข้าใจใช่ไหม! ว่าฉันไม่ใช่ความชั่วร้ายแต่เป็นมิตรแห่งความเที่ยงธรรมน่ะ...!
งั้นเหรอ งั้นสินะ ขอบคุณมากเลยอันสึ...!
โยชิๆ ฉันจะกอดเธอให้เอง...☆

สึคาสะ: โอเน่ซาม้า...!?

อโดนิส: อึก... เหมือนเราจะช้าไปก้าวนึงนะ

ยูซึรุ: ไม่นึกเลยว่าจะฝ่าวงล้อมขนาดนี้ไปได้... สมรรถภาพทางร่างกายของท่านโมริซาว่านี่ประมาทไม่ได้จริงๆ นะครับ

จิอากิ: ไงล่ะ อุ้มซู้งสูงเลย! ฮะฮะฮ่า อันสึนี่ตัวเบาจังนะ...☆

สึคาสะ: โมริซาว่าเซมไป โอเน่ซามะตาลายไปหมดแล้วนะครับ... โอเน่ซามะ ไหวหรือเปล่าครับ?
จริงๆ เลย โมริซาว่าเซมไปไร้ Delicacy เกินไปแล้วครับ มีแค่ผู้กำกับหนึ่งวันของ [ริวเซย์ไต] คนเดียว ที่ชักจะทำเอากังวลเรื่องผลงานซะแล้วสิ
โมริซาว่าเซมไปเองก็ถูกเลือกเป็นตัวแทนทั้งที ช่วยระมัดระวังการกระทำอะไรวู่วามด้วยเถอะครับ

จิอากิ: อื้ม ขอบคุณที่เตือนนะ...!
เอาเป็นว่า เท่านี้สมาชิกก็ครบแล้วสิ งั้นวันจริงเราก็มาปฏิบัติหน้าที่ผู้กำกับหนึ่งวัน ตามแต่คาแรกเตอร์ของแต่ละคนเลยเป็นไงล่ะ
ฟุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...☆

Policeman - ตอนที่ 4

 

(ณ ห้องโสต)

จิอากิ: ฮะฮะฮ่า! มารวมตัวกันแล้วสินะ พี่น้องเอ๋ย!
จากนี้ พวกเราจะได้ออกปฏิบัติการในแต่ละพื้นที่เพื่อปกป้องความสงบสุขของโลก
ทว่า อย่าได้ขลาดกลัวไปเลย...! ขอเพียงมีหัวใจแห่งความยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นความชั่วร้ายแบบใดก็จะยืนหยัดต่อสู้กับมันได้...!
เอาล่ะ ศัตรูของฉันอยู่ไหนล่ะ? โมริซาว่า จิอากิผู้นี้จะขับไล่มันไปอย่างงดงามเอง...☆

สึคาสะ: ได้ยินคำล่ำลือมาว่าโมริซาว่าเซมไปเป็นบุรุษที่เลือดร้อนดั่งดวงตะวันก็จริง แต่ดูเหมือนจะไม่ผิดไปจากที่ลือกันสินะครับ
เป็นผู้ที่ดูน่าอึดอัด... อะแฮ่ม เร่าร้อนเสียจนเข้าใจเลยล่ะครับ ว่าทำไมโอเน่ซามะถึงฝากฝังงานผู้กำกับหนึ่งวันให้กับโมริซาว่าเซมไป♪

จิอากิ: งั้นเหรอ เข้าใจด้วยสินะ...!
เออ รู้สึกว่านายจะเป็นคนของ [Knights] ... เด็กปีหนึ่งที่พูดสำเนียงอังกฤษคล่องปร๋อ!

สึคาสะ: คล่องปร๋อ...? คนชอบพูดบ่อยๆ นะครับว่าสำเนียงอังกฤษของผมฟังยาก
ดังนั้น ช่วงนี้ก็เลยพยายามปรับปรุงวิธีพูดให้ไม่ใช้ภาษาอังกฤษ เพื่อให้ทุกท่านเข้าใจได้ง่ายๆ อยู่น่ะครับ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ชอบให้ทวนคำพูดใหม่ตลอดเลย... ผมนี่ก็ยังอ่อนด้อยอยู่สินะครับ

จิอากิ: หืม มีเรื่องกลุ้มใจเหรอ? ถ้ามีเรื่องกลุ่มใจล่ะก็ มาปรึกษาฉันได้ทุกเรื่องเลยนะ!
หากชี้นำผู้ที่หลงทางก็คือหน้าที่ของมิตรแห่งความเที่ยงธรรม! [ริวเซย์ไต] ...ไม่สิ ตอนนี้เป็นผู้กำกับหนึ่งวันนี่นะ!
มาพึ่งพาฉัน ที่เป็นผู้กำกับหนึ่งวันได้เลยนะ☆

ยูซึรุ: คือว่า ท่านโมริซาว่า...? ขออภัยด้วยนะครับที่มาขัดตอนที่กำลังครึกครื้น แต่ไม่ใช่ท่านโมริซาว่าผู้เดียวที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ผู้กำกับหนึ่งวันนะครับ
เพราะต้องคัดเลือกมาหนึ่งรายจากแต่ละยูนิต กระผมกับท่านสึคาสะเองก็จะได้เป็นผู้กำกับหนึ่งวันด้วยครับ
ดังนั้น การจะมาพึ่งพาท่านโมริซาว่าที่เป็นผู้กำกับหนึ่งวันด้วยกัน มันจะดูน่ากังขาอยู่บ้างน่ะครับ

จิอากิ: อื้ม โดนแทงใจดำเข้าจังซะแล้วสิ...!

ยูซึรุ: หากให้กล่าวเพิ่มเติมล่ะก็ พวกเรายังไม่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้กำกับหนึ่งวันเลยนะครับ
ต้องเข้ารับการอบรม ร่วมพิธีแต่งตั้ง รับตราแต่งตั้ง แล้วสุดท้ายถึงค่อยได้เข้ารับตำแห่งผู้กำกับหนึ่งวันครับ
พวกเราในตอนนี้นั้น ยังเหมือนเป็นเพียงลูกนก ที่ต้องให้แม่นกอย่างอันสึซังคอยหาอาหารให้ก่อน จึงจะโบยบินออกไปได้ครับ
ดังนั้นแล้ว อันสึซัง วันนี้ต้องขอรบกวน ให้ช่วยเคี่ยวเข็ญด้วยนะครับ

สึคาสะ: หากเป็นโอเน่ซามะล่ะก็ ผมเองก็ฟังบรรยายได้อย่างโล่งใจครับ♪ เพราะโอเน่ซามะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ใครๆ ต่างให้การยอมรับนับถือ และเปี่ยมไปด้วยสติปัญญานี่นา
เริ่มจะ Excite แล้วสิครับ ว่าจะได้รับการอบรมแบบไหน♪

อโดนิส: ...อันสึ ขอถามอย่างนึงได้ไหม?
เมื่อวาน ยูกิใช้เสียงตามสายเรียกตัวแทนของแต่ละยูนิตมาก็จริง
แต่ที่มารวมตัวกันวันนี้ มีแค่ [ริวเซย์ไต] [Knights] [UNDEAD] กับ [fine] เองนี่นา
เริ่มเปิดงานอบรมโดยที่ยูนิตที่เหลือยังไม่มาแบบนี้จะดีเหรอ?

ยูซึรุ: จะว่าไปแล้ว ไม่เห็นท่านยูกิเลยนะครับ... หืม ท่านยูกิมีงานเข้ากระทันหันสินะ
ยูนิตอื่นเองก็เหมือนกัน ที่มาได้มีแค่สมาชิกที่อยู่ที่นี่ งั้นเหรอครับ
แบบนี้เองสินะครับ ทุกท่านก็คงจะยุ่งจริงๆ นั่นล่ะ
อา แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเราว่างงานหรอกนะครับ แต่ว่าการรวมตัวตัวแทนของทุกยูนิตให้ได้ในวันเดียวนี่ก็นับว่ายากมากจริงๆ
แม้ว่าอันสึซังจะเป็นเลิศในฐานะโปรดิวเซอร์ถึงเพียงใด แต่นั่นก็เป็นอีกเรื่อง
จะแบ่งเปิดงานอบรมสามวัน อย่างที่อันสึซังเสนอมาก็ดีนะครับ
เช่นนั้น ครั้งนี้ก็เป็นงานอบรมครั้งที่หนึ่งอันน่าระลึกสินะครับ ฮุฮุ ยิ่งทำให้รู้สึกเอาจริงเอาจังขึ้นไปอีกนะครับ

สึคาสะ: โอเน่ซามะ ตามกระดาษนี้ บอกให้เราดู DVD พลางศึกษาไปด้วยเหรอครับ...
อ้อ ก็คือให้เรียนรู้ตามที่กระดาษนี้บอกเลยสินะครับ
เพราะว่าถ้ามีความเรื่องเบื้องต้นไว้ก่อน จะทำให้การอบรมซามุ... "สมูท" กว่าการไปฝึกอบรมที่สถานที่จริงทันทีสินะ
สมแล้วที่เป็นโอเน่ซามะ น่าชื่นชมจริงๆ ครับ♪

จิอากิ: มุ... มุมุ มุมุมุมุมุมุมุ...!

อโดนิส: จู่ๆ ทำเสียงครวญครางแบบนั้น เป็นอะไรน่ะโมริซาว่าเซมไป

จิอากิ: ฉันเป็นพวกตั้งสมาธิไม่เก่งน่ะ! ถ้าดู DVD ล่ะก็ เดี๋ยวคงได้น็อคไปในหนึ่งนาทีแน่ๆ...!
แน่นอนว่า ถ้าเนื้อหาที่เปิดเป็นโทคุซัทสึก็อีกเรื่องน่ะนะ! จะให้ดู 24 ชั่วโมงรวดเดียวยังได้☆


อโดนิส: ตอนฉันอยู่ประเทศบ้านเกิดก็ต้องเคยเฝ้ายามจนไม่ได้หลับนอนเหมือนกัน จิตใจก็เลยกล้าแกร่งน่ะ
เพราะถ้าวางใจแม้ซักนิดเดียวล่ะก็ จะไม่อาจได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกเลย พอรู้สึกตึงเครียดแบบนั้นแล้วความง่วงก็เลยปลิวหาย แล้วก็ไม่กังวลกับการเป็นยามเฝ้าจนไม่ได้หลับนอนอีกเลย
จึงรู้สึกชื่นชมโมริซาว่าเซมไปมากเลย ที่ทำแบบนั้นได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น
โมริซาว่าเซมไป ไม่ได้เป็นแค่ชายที่น่าอึดอัดเฉยๆ สินะ...

จิอากิ: โอ้! นายที่อยู่ [UNDEAD]! นายเองก็เข้าใจฉันสินะ...!!
ดีล่ะ งั้นคืนนี้มาค้างบ้านฉันดีกว่า! แล้วจะให้นายดูหนังที่ฉันแนะนำเอง! แน่นอนว่า 24 ชั่วโมงรวดนะ!

อโดนิส: ...ได้สิ (RIP)
เห็นแบบนี้ก็ฝึกฝนร่างกายจากประเทศบ้านเกิดมาแล้ว ไม่แพ้ง่ายๆ แน่
ถึงจะต้องเดิมพันด้วยชื่อ [UNDEAD] ...ไม่สิ เดิมพันด้วยจิตวิญญาณของประเทศบ้านเกิด ก็จะทำให้โมริซาว่าเซมไปพ่ายแพ้ให้จงได้

จิอากิ: ฮะฮะฮ่า! ต้องการแบบนั้นอยู่แล้ว เจ้าคนของ [UNDEAD]!

ยูซึรุ: ...ทำเอาตกใจเลยนะครับ ทั้งที่สื่อสารกันไม่รู้เรื่องแต่ก็ยังพูดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวได้เนี่ย

สึคาสะ: ครับ มีแต่ต้องพูดว่า Marvelous เลยล่ะครับ!
โอ๊ะ ขอโทษด้วยครับ เหมือนจะตื่นเต้นซะจนเผลอโพล่งศัพท์ภาษาอังกฤษออกมาซะแล้ว
แต่ว่า ดูเหมือนเรื่องจะยังไม่ได้คลี่คลายเลยนะครับ แบบนี้จะดีแล้วเหรอ?

ยูซึรุ: ...นั่นสินะครับ เพราะว่าท่านโมริซาว่าทนดู DVD ที่ตัวเองไม่ได้สนใจต่อเนื่องนานๆ ไม่ได้เสียด้วย
ยกเลิกการรับชม DVD แล้วลองไปฝึกอบรมสถานที่จริงเลยอาจจะดีกว่าก็ได้ครับ
โชคดี ที่อันสึซังรวบรวมข้อมูลมาให้อ่านง่ายๆ แล้ว ว่าผู้กำกับหนึ่งวันนั้นต้องปฏิบัติหน้าที่อะไรบ้าง
ลองดำเนินการฝึกอบรมที่สถานที่จริงโดยอ้างอิงจากเอกสารนี้... เป็นอย่างไรล่ะครับ?
อันสึซังเองก็เห็นพ้องต้องกันสินะครับ เช่นนั้น รีบเปลี่ยนกำหนดการแล้วย้ายไปฝึกอบรมสถานที่จริงกันเลยดีกว่า♪

Policeman - ตอนที่ 3

 

(ณ ห้องโสต)

ยูซึรุ: ...ขออภัยด้วยนะครับ ช่วยกล่าวอีกทีได้หรือเปล่า?
ไม่ใช่ว่ากระผมฟังผิดไปสินะครับ ...งั้นหรือครับ ให้กระผมเป็นผู้กำกับหนึ่งวัน...
เป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยครับ ถึงไม่คิดว่ากระผมจะเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดในสมาชิกของ [fine] ก็เถอะ
ในเมื่อผู้ที่สั่งการมาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นอันสึซังทั้งที เช่นนั้นกระผมก็จะขอทำตามคำสั่งของอันสึซังนะครับ
แม้จะยังอ่อนประสบการณ์อยู่บ้าง แต่ก็ต้องขอฝากตัวด้วยนะครับ♪

มาโคโตะ: เอ แบบนี้ก็แปลว่าได้ตัวแทนของ [Trickstar] [UNDEAD] กับ [fine] แล้วสินะ?
อันสึจังตันสินใจได้หรือยังว่ายูนิตที่เหลือจะเอายังไงดี?
หืมๆ คิดไว้แล้วสินะ
แต่ว่า เรียกมาอธิบายให้ฟังทีละคนๆ นี่มันไม่ลำบากแย่เหรอ? ถึงคราวนี้ผมกับฟุชิมิคุงจะบังเอิญอยู่ด้วยพอดีก็เถอะ...
อันสึจังต้องไปหาอีกฝ่ายถึงห้องเรียนแล้วอธิบายให้ฟังเนี่ย... แค่คิดก็น่าจะกินเวลาไปเยอะแล้ว

ยูซึรุ: จริงอย่างที่ท่านบูกิกล่าวเลยครับ ทว่า ถ้าเป็นวิธีอื่นก็...
งั้นให้อันสึซังบอกว่าจะเลือกใคร แล้วให้พวกเราเป็นคนไปเรียกแทนเป็นอย่างไรล่ะครับ
ลองยืมห้องเรียนที่ยังว่างๆ อยู่ แล้วไปอธิบายที่นั่นน่าจะเร็วกว่านะครับ

มาโคโตะ: แบบนั้นก็ได้อยู่หรอก แต่มีวิธีที่ดีกว่านั้นอีก~♪

ยูซึรุ: โอ๊ะ เหมือนว่าท่านยูกิจะมีข้อเสนออะไรนะครับ หากไม่เป็นการรบกวนล่ะก็ ขอรับฟังหน่อยจะได้หรือเปล่าครับ?

มาโคโตะ: ได้อยู่แล้ว~♪
ผมน่ะเป็นคณะกรรมการกระจายเสียง เพราะงั้นก็เลยเรียกคนที่อันสึจังอยากให้เรียกมาได้ไงล่ะ♪
จะให้ผม โอโตการิคุง ฟุชิมิคุงกับอันสึจังสี่คน ตามหาคนอื่นๆ ให้ครบมันก็ลำบากใช่ม้า?
แต่ว่า ถ้าใช้เสียงตามสายก็ไม่ต้องไปตามหาด้วย... แบบนั้นน่าจะมีประสิทธิภาพที่สุดนะ คิดว่าไงบ้าง?

อโดนิส: ฉันไม่คัดค้าน

ยูซึรุ: กระผมเองก็ไม่มีครับ

มาโคโตะ: งั้น ไว้จะประกาศเสียงตามสายหลังเลิกเรียนนะ
อ๊ะ สถานที่รวมตัวจะเอาเป็นที่ไหนดี? จะให้บอกด้วยไหมว่าเรียกมาเพราะเรื่องผู้กำกับหนึ่งวัน?
ได้เลย? งั้นก็เอาตามนั้นแล้วกันนะ~♪

ยูซึรุ: อันสึซัง ขอถามอย่างหนึ่งได้หรือเปล่าครับ?
ก็ทราบอยู่นะครับว่าการเป็นผู้กำกับหนึ่งวันเนี่ยโดยพื้นฐานแล้วต้องทำอะไรบ้าง แต่ว่าพอเอาเข้าจริงแล้วก็ไม่ค่อยมั่นใจเลยว่าควรทำแบบไหนกันแน่
ต้องจัดงานอบรมด้วยไหมนะ... อ้อ แบบนี้เองสินะครับ ที่ให้ทุกท่านมารวมตัวกันที่ห้องโสต ก็เพราะตั้งใจจะจัดงานอบรมด้วยสินะครับ
เพราะว่าถ้าออกคำสั่งให้ไปเป็นผู้กำกับหนึ่งวันทั้งที่ยังไม่เข้าใจเรื่องราวอะไรเลย มันจะดูไม่รอบคอบเกินไปหน่อยน่ะครับ พอได้ยินเช่นนั้นแล้วค่อยวางใจหน่อย♪

อโดนิส: ............

มาโคโตะ: อ้าว โอโตการิคุง ทำหน้าปั้นยากเชียว มีอะไรติดใจเหรอ?

อโดนิส: ฉันอาศัยอยู่ต่างประเทศมานานแล้ว ตอนนี้ก็เลยยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องผู้กำกับหนึ่งวันเท่าไหร่... งั้นเหรอ เดี๋ยวไว้จะอธิบายวันพรุ่งนี้สินะ
เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันจะกลั้นใจไม่ถามนู่นถามนี่อะไรตรงนี้ก็แล้วกัน
เพราะว่าเพิ่งถูกคันซากิบอกมาหยกๆ เองน่ะ ว่าให้เลิกถามนู่นถามนี่ทุกอย่างได้แล้ว
ยังไงก็ วันพรุ่งนี้ก็ขอฝากตัวด้วยนะ อันสึ

วันอังคารที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2566

Policeman - ตอนที่ 2

 

(ณ ทางเดิน)

มาโคโตะ: เอ๋...? ยอมยกโทษให้ผมเหรอ?
ขะ ขอบคุณนะ อันสึจัง!
ไว้จากนี้ผมพยายามไม่ใส่ใจเวลาที่อันสึจังไปสนิทสนทกับคนในยูนิตอื่นนะ!
ตะ แต่ว่า ถ้าให้ความสำคัญกับสมาชิกของ [Trickstar] เป็นที่หนึ่งล่ะก็จะดีใจมากเลยล่ะ... ขะ ขอโทษนะที่เผลอพูดอะไรหน้าไม่อายออกมา!
เออ ถ้างั้นผมขอตัวแค่นี้ー
...!? ทะ ทำไมจู่ๆ ถึงมาขว้าแขนไว้ล่ะ?
จ้องกันแบบนั้นมันเขินนะ แถมทำเอาเป็นห่วงเลยด้วยว่าตัวเองเผลอทำอะไรผิดไปอีกหรือเปล่า~?
มีเรื่องจะคุยกับผมเหมือนกัน? ระ เรื่องอะไรน่ะ...
คงไม่ได้จะบอกว่า นายมันห่วยแตกที่สุดใน [Trickstar] เลย ลาออกไปซะ อะไรอย่างงี้ใช่ไหม!?
คะ ค่อยยังชั่ว~ ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็อายุขัยผมคงจะหดลงซักสิบปีได้เลย งั้น มีอะไรจะคุยกับผมเหรอ?
ผู้กำกับหนึ่งวัน...? งั้นเหรอ โดนซากามิเซนเซย์ขอร้องมา ให้อันสึจังเลือกตัวแทนจากแต่ละยูนิตสินะ
ดีใจจังแฮะ ที่คิดว่าผมเหมาะกับหน้าที่ผู้กำกับหนึ่งวันที่สุดในสมาชิกของ [Trickstar]♪
อ้าว? ถ้างั้น หรือว่าเรียกโอโตการิคุงด้วยเหตุผลนั้นเหมือนกัน?

อโดนิส: ...ดูเหมือนจะใช่นะ ฉันเองก็โดนอันสึบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย แต่ยังไม่ได้ฟังเลยว่าเนื้อหาเป็นยังไง
แต่ว่า ผู้กำกับวันนึงนี่มันคือยังไงกันน่ะ?

ยูซึรุ: ทราบมาว่ามีไว้เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับผู้อยู่อาศัยในเขตกับสมาชิกตำรวจนะครับ

มาโคโตะ: ฟุ ฟุชิมิคุง!? ยะ อยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ!?

อโดนิส: ...ฉันเองก็ไม่รู้สึกตัวซักนิดเลยเหมือนกัน

ยูซึรุ: อ้าว ก็ไม่ได้ตั้งใจจะลงร่องรอยนะครับ...? เกรงว่าเป็นเพราะช่วงนี้ทักษะการหลบหนีกระผมของนายน้อยพัฒนาขึ้นมาก
ดังนั้นกระผมเองจึงได้ร่ำเรียนทักษะที่จะแอบลอบเข้าข้างหลังของนายน้อยโดยไม่ให้รู้สึกตัวได้น่ะครับ ขออภัยด้วยที่ทำให้ทุกท่านต้องตกใจ

มาโคโตะ: ยะ อย่างนี้นี่เอง อะฮะฮะ ฟุชิมิคุงนี่ก็ลำบากเนอะ?

ยูซึรุ: ในเมื่อตัดสินใจว่าจะรับใช้นายน้อยแล้ว เรื่องแค่นี้ไม่หนักหนาเลยครับ
ทว่า พอเห็นนายนอกทำตัวออกนอกลู่นอกทางแล้ว ก็จำต้องสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้เลยล่ะครับ
พอถึงเวลานั้นกระผมก็จะทำความสะอาดเพื่อให้จิตใจสงบลงเอง ไม่มีปัญหาหรอกครับ

มาโคโตะ: ได้ยินคำล่ำลือมาว่าตอนที่ฟุชิมิคุงเป็นเวรทำสะอาด ห้องจะเปล่งแสงวิบวับแบบไม่มีฝุ่นซักเม็ดเลยนี่นา... นั่นเป็นการคลายเครียดในแบบฟุชิมิคุงเหรอ?
...ฟุชิมิคุง เหนื่อยแย่เลยนะ...

ยูซึรุ: ไม่หรอกครับ ความเหน็ดเหนื่อยของกระผมแทบจะไม่นับเป็นความเหน็ดเหนื่อยด้วยซ้ำ
เทียบกันแล้ว อันสึซังน่าจะเหนื่อยกว่าหรือเปล่าครับ?
ทั้งต้องคอยโปรดิวซ์แต่ละยูนิตและวางแผนงานดรีมเฟส แล้วคราวนี้ยังถูกฝากกระทั่งงานของผู้กำกับวันเดียวอีก
ถึงอันสึซังจะเป็นโปรดิวเซอร์ผู้ยอดเยี่ยม แต่ก็น่าเป็นห่วงว่าจะเป็นลมล้มพับไปหรือเปล่าน่ะครับ

อโดนิส: อันสึไม่ใช่ "สิ่งมีชีวิตตัวเล็กอ่อนแอ" อีกแล้วก็จริง แต่ก็ห้ามฝืนตัวเองนะ
...เธอมีเพื่อนพ้องอยู่มากมาย บางครั้งก็พึ่งพาเพื่อนบ้างเถอะ ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็จะเป็นพลังให้เธอเอง

ยูซึรุ: อย่างที่ท่านโอโตการิกล่าวครับ โปรดพึ่งพากระผมได้เลยนะครับ อันสึซัง♪
ฮุฮุ เหมือนมีเรื่องจะคุยกับกระผมสินะครับ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็โปรดสั่งฟุชิมิ ยูซีรุคนนี้ได้เลย
ขอให้สัญญาเลยล่ะครับ ว่าจะไม่หักหลังความคาดหวังของอันสึซังอย่างแน่นอน...♪

Policeman - ตอนที่ 1

 

(ณ ห้องพักครู)

จิน: ไง อันสึ โทษทีทีเ่รียกตัวมานะ~
หืม มีอะไรเหรอทำตาหลุกหลิกเชียว อ้อ ถ้าเกิดคุนุกิเซนเซย์ล่ะก็ไม่อยู่หรอก วางใจเถอะ~
เอ้า อย่ามัวแต่ยืนเหม่อสิ นั่งตรงนั้นก่อน
แล้ว ขอรีบเข้าประเด็นเลยนะ... เธอน่ะ ทั้งคอยดูแลแต่ละยูนิตในฐานะโปรดิวเซอร์ แล้วก็วางแผนงานดรีมเฟสด้วยใช่ไหมล่ะ
หรือก็คือ มีโอกาสที่จะได้ปฏิสัมพันธ์กับนักเรียนมากกว่าอาจารย์ไงล่ะ
ก็เลยมีเรื่องอยากจะขอร้องเธออยู่อย่างนึง... ช่วยรับฟังหน่อยได้ไหม?
อื้มๆ ต้องแบบนี้สิถึงจะเป็นโปรดิวเซอร์ผู้พึ่งพาได้♪
ที่จริงแล้วมีคำขอมาจากกรมตำรวจ ให้ไปเป็นผู้กำกับหนึ่งวันน่ะสิ~? (一日署長 ผู้กำกับหนึ่งวัน คือการให้คนดังมาPRประชาสัมพันธ์งานตำรวจหนึ่งวัน)
ก็เลยโดนขอให้เลือกตัวแทนมายูนิตมายูนิตละคนนี่แหละ แต่คิดไม่ตกเลยว่าควรเลือกใครดี
จะให้เลือกแบบขอไปทีก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ? แล้ว พอคิดว่าจะเอายังไงดีน้า~ ปุ๊ป ก็ผุดนึกถึงเธอขึ้นมา
เธอน่าจะรู้จักเจ้าพวกนั้นดีกว่าให้พวกเราเลือกเองด้วย แล้วใครจะว่ายังไง เธอก็เป็นโปรดิวเซอร์มือดีแล้วนี่นา~?
ได้รับความเชื่อใจจากนักเรียนมากกว่าฉันที่เป็นอาจารย์โข ดังนั้น ให้เธอจัดการเรื่องในคราวนี้ก็แล้วกัน ขอฝากเรื่องหลังจากนี้ด้วยล่ะ
แต่ก็ ถ้ามีปัญหาอะไรก็มาปรึกษากันได้นะ เอาเป็นว่าลองทำเท่าที่ทำได้ดูก่อนแล้วกัน
เฮ้อ~ เท่านี้ภาระก็ลดลงแล้ว เรื่องแบบนี้ควรฝากให้โปรดิวเซอร์ผู้พึ่งพาได้เป็นคนทำจริงๆ ด้วยสิ♪


(ณ หน้าลานน้ำพุ)

อโดนิส: ...อืม พักกลางวันแล้วสินะ
(ที่เราโตมาขนาดนี้ได้ ก็เพราะว่ากินเยอะแล้วเผาผลาญเป็นสารอาหาร หรือก็คือ มื้อกลางวันนั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้)
(แล้วก็ได้เรียนรู้จากคันซากิว่า "กองทัพต้องเดินด้วยท้อง" มาด้วย)
(ก็จริงที่พอท้องหิวแล้วก็ทำกิจกรรมอะไรได้ไม่เต็มที่เลย ต้องเติมพลังงานเพื่อจะได้เอาจริงเอาจังกับคาบเรียนบ่ายได้)
(...ปัญหามีแค่ว่าจะกินมื้อกลางวันที่โรงอาหาร หรือซื้อจากร้านขายของมากินดี)
(ที่ร้านขายของก็มีแต่พวกขนมปัง โอนิกิริ หรือแซนวิชที่ไม่พออิ่มท้องด้วย)
(ในส่วนนั้น เมนูอาหารกลางวันของที่โรงอาหารจะสับเปลี่ยนทุกวัน แล้วก็มีอาหารหลากหลายแถมยังอิ่มท้องอีก)
(แต่ก็ กลัวว่าจะแพงเกินงบที่มีน่ะสิ)
(...ค่าขนมเดือนนี้ที่พวกพี่สาวให้มาก็มีแค่ไม่กี่พันเยนด้วย)
(ถ้ากินทีมื้อละห้าร้อยเยนล่ะก็ คงเกินงบจนอยู่ได้ไม่ถึงกลางเดือนแน่)
(ต้องจำกัดให้อยู่ในงบสามร้อยเยนก็จริง แต่ทำแบบนั้นแล้วก็ต้องมาต่อสู้กับอาการท้องว่างอีก)
(ถึงถ้าเทียบกับประเทศพ่อที่ต้องอดข้าวอดน้ำแล้วยังสบายกว่าโขก็เถอะ... แต่ถ้าต้องทำกิจกรรมไอดอลแบบสุดกำลังทั้งที่หิวก็คงเป็นการยาก)
(ไม่กี่นาทีก็คงเป็นลมไป แล้วสร้างปัญหาให้เพื่อนแน่)
(เพื่อจะเลี่ยงเรื่องนั้น จึงจำเป็นต้องรับสารอาหารอย่างเพียงพอ)
(...อาจจะต้อง มีแต่เปิดศึกเต็มรูปแบบกับพวกพี่ๆ ซะแล้วสิ)
...อ้าว อันสึนี่เอง มีอะไรเหรอ?
หืม มีเรื่องจะคุยกับฉันเหรอ งั้นก็คุยกันตรงนี้ー
ไม่สิ เธอเองก็ยังไม่ได้กินมื้อกลางวันใช่ไหมล่ะ ถ้างั้นก็กินไปคุยไปกันเถอะ
จะซื้อจากร้านขายของหรือไปกินที่โรงอาหารก็ได้ เลือกตามที่เธออยากได้เลย
ข้าวกล่อง...? งั้นเหรอ เธอเป็นสายพกข้าวกล่องมาสินะ
บางทีฉันเองก็ควรพกข้าวกล่องมาเพื่อประหยัดเงินบ้างเหมือนกัน
...แต่ว่า แย่ล่ะสิ ถ้ามีข้าวกล่องอยู่แล้ว จะไปโรงอาหารก็ไม่ได้ซะด้วย
อันสึ เดี๋ยวฉันไปซื้ออะไรจากร้านขายของก่อนนะ รออยู่ตรงนี้ก่อน
ไม่เป็นไร ก็รู้สึกขอบคุณอยู่หรอกที่จะแบ่งข้าวกล่องให้ฉัน แต่ส่วนของเธอก็จะน้อยลงด้วยน่ะสิ ขอรับไว้แค่น้ำใจก็แล้วกัน


อโดนิส: ทำมาเยอะเกินไป...? งั้นเหรอ ถ้ากินไม่หมดมันก็น่าเสียดายสินะ
ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ ฉันขอรับส่วนแบ่งไว้ด้วยความเต็มใจเลย
จะกินที่ห้องเรียนก็ได้อยู่หรอก... แต่วันนี้อากาศดีด้วย ไปที่ดาดฟ้ากันเถอะ
อา ต้องซื้อเครื่องดื่มด้วยสิ เดี๋ยวฉันเลี้ยงตอบแทนที่แบ่งข้าวกล่องเอง อยากได้อันไหนก็บอกมานะ

มาโคโตะ: ............
(มะ เมื่อกี๊มันอันสึจังกับโอโตการิคุงใช่ไหม!?)
(เหมือนทั้งสองคนจะไม่รู้สึกตัวถึงผมก็จริง... แต่สองคนนั้นสนิทกันถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?)
(ก็ ก็เป็นถึงเพื่อนที่ไปกินข้าวกลางวันด้วยกันเลยนะ! แถมยังเป็นข้าวกล่องทำมือของอันสึจังอีก!)
(ฮือ ผมเองก็อยากกินข้าวกล่องฝีมืออันสึจังเหมือนกันนะ! โอโตการิคุงน่าอิจฉาชะมัดเลย!)
(...ทำยังไงดีล่ะ แอบตามไปซักหน่อยดีไหมนะ)
(แต่ว่า ถ้าความแตกคงโดนอันสึจังเกลียดเข้าแหงเลย...? ถ้าโดนเกลียดล่ะก็คงช็อกจนตั้งตัวไม่ได้แน่)
(อืม ตรงนี้เงียบไว้แล้วมองส่งดีกว่าー)
............
(แต่ว่า ปล่อยไว้แบบนี้ต้องติดใจจนคืนนี้นอนไม่หลับแน่!)
(ดะ ดีล่ะ ลองแอบตามไปไม่ให้ทั้งสองคนสังเกตดีกว่า)


(ณ ทางเดิน)

อโดนิส: ............

มาโคโตะ: ............

อโดนิส: ............

มาโคโตะ: ............

อโดนิส: ...รู้นะว่าแอบอยู่หลังเสานั่น แอบตามพวกเรามามีธุระอะไร?

มาโคโตะ: (คะ ความแตกแล้ว!? นี่เพิ่งเข้ามาในอาคารเรียนเองนะ ทำไมอะ!?)
(ถ้าอ้างไปว่าแค่บังเอิญจะไปทางเดียวกันเฉยๆ ก็คงตบตาโอโตการิคุงไม่ได้ด้วย...)
(ฮือ คงมีแต่ต้องสารภาพตามตรงซะแล้วสิ)
อะ อะฮะฮะ อันสึจัง โอโตการิคุง ยะ ยะโฮ~♪

อโดนิส: ............

มาโคโตะ: อึ๊ย! อย่าจ้องกันนักสิ! ดะ เดี๋ยวอธิบายให้ก็ได้~!!
เออ... คือว่า ถึงจะฟังดูน่าอายสุดๆ ไปเลยก็เถอะ แต่สงสัยที่โอโตการิคุงกับอันสึจังออกจากห้องเรียนมาด้วยกันอย่างสนิทสนมน่ะ
กะ ก็เลยคิดว่า กำลังนอกใจไปหา [UNDEAD] หรือเปล่าน้า~ งี้ อ๊ะ แต่แน่นอนว่าผมเชื่อใจอันสึจังนะ!
แล้วก็ใช่ว่าอันสึจังจะสังกัดอยู่ [Trickstar] ด้วย
ถึงจะสนิทกับสมาชิกยูนิตอื่น ก็ไม่มีสิทธิ์ไปบ่นจู้จี้หรอก
...แต่มันก็ อดใจไม่ไหวจนต้องแอบตามมาซะได้ โอโตการิคุง อันสึจัง ขอโทษจริงๆ นะครับ...!!

วันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2566

ฝึกพิเศษ! การซ้อมคู่อันตะกุกตะกัก - Epilogue (จบ)

 

(ณ หน้าประตูโรงเรียน)

โทริ: ปกติจะให้คนขับรถเป็นคนมารับส่งก็จริง แต่นานๆ ทีก็ต้องคบค้ากับสามัญชนบ้างล่ะเนอะ~♪
ที่จริงก็ดีใจนิดหน่อยอยู่หรอกที่ได้เพื่อนใหม่ แต่ไม่ใช่ว่าเคยใฝ่ฝันว่าจะได้เดินกลับบ้านด้วยกันกับเพื่อนอะไรแบบนี้หรอกนะ?
เพราะฮาจิเมะดึงดันอยากกลับบ้านกับผมให้ได้ ก็เลยยอมมาด้วยเฉยๆ หรอก อย่าลืมซะล่ะ~?

ฮาจิเมะ: ครับ โทริคุง ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ...♪

โทริ: ฮึฮึ้ม ฮาจิเมะเป็นคนว่านอนสอนง่ายด้วย จะยอมให้เป็นขี้ข้าหมายเลขสามก็ได้นะ...☆
ขี้ข้าหมายเลขหนึ่งอย่างยูซึรุน่ารำคาญเกินเหตุด้วย มีแค่ก็ขี้ข้าหมายเลขสองอย่างอันสึแล้วก็ขี้ข้าหมายเลขสามอย่างฮาจิเมะอยู่ก็พอแล้วล่ะเนอะ~♪

วาตารุ: โอ๊ะโอ ถ้าคุณพ่อบ้านอยู่ตรงนี้ด้วยเขาจะเสียใจเอานะครับ? อาจจะเศร้าเกินทนเสียจนหยิบเลื่อยยนต์มาไล่จ้วงองค์หญิงเลยก็ได้นะ...☆

โทริ: อย่าพูดอะไรน่ากลัวสิ!
ว่าแต่ ทำไมเจ้าผมยาวถึงอยู่ด้วยล่ะ~? จะไปไหนก็ไปไป๊! ชิ้วๆ!

วาตารุ: โถ่ พูดจาได้น่าปวดร้ายเสียนี่กระไร! ทว่า องค์หญิงเอ๋ย มันจะได้ผลตรงกันข้ามแทนนะครับ...?
ผมเป็นพวกที่ยิ่งถูกเกลียดเท่าไหร่ ก็ยิ่งอยากแหย่อีกฝ่ายมากขึ้นไปอีกนะครับ☆

โทริ: อึ๊ย น่ารำคาญสุดขีดเลย!
รองประธาน~ อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้สิครับ ช่วยทำอะไรซักอย่างกับเจ้าผมยาวนี่ที!

เคย์โตะ: อย่าโยนเรื่องมาให้ฉันสิ

โทริ: อ๊ะ รองประธานกะจะหนีไปเองคนเดียวสินะครับ~? รองประธานเป็นคนที่ซ้อมคู่กับเจ้าผมยาวด้วย คงชิดเชื้อกับเจ้าผมยาวขึ้นมานิดหน่อยแล้วหรือเปล่าครับ?

เคย์โตะ: ............

วาตารุ: หุหุหุ คุณมือขวาเค้าขี้อายน่ะครับ...☆ คงไม่อยากแม้แต่จะปริปากหรอกครับว่าสนิทชิดเชื้อกับผมน่ะ!

เคย์โตะ: อย่าเข้ามาใกล้น่า มันอึดอัด
จริงอยู่ที่ฉันได้เรียนรู้อะไรจากการซ้อมร่วมกันกับแก แต่อย่าเข้าใจผิดไปซะล่ะว่าทัศนคติของฉันที่มีต่อแกจะเปลี่ยนไปด้วย
แกมันก็เป็นแค่เซลส์มะเร็งของเอย์จิ ไม่รู้ว่าซักวันจะแว้งมาทำลายเอย์จิเมื่อไหร่ด้วยซ้ำ
ฉันจะต้อง ลากแกลงมาจาก [fine] ให้ได้ ตอนนี้ก็แค่ผ่อนผันเวลาไปก่อนเท่านั้น จำเอาไว้ให้ขึ้นใจซะ

วาตารุ: เป็นการประกาศสงครามสินะครับ! วิเศษจริงๆ...!
ทว่า ผมเองก็เป็นหนึ่งใน "สามประหลาด" จะขอดิ้นรนขัดขืนให้ถึงที่สุดแล้วกันนะครับ☆ ฟุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...☆

คานาตะ: ปุก้า ปุก้า...♪
เพิ่งเคยได้กลับบ้านพร้อมคนเยอะแยะขนาดนี้ เป็นครั้งแรกเลยครับ
ทั้งครึกครื้น แล้วก็สนุกมากๆ เลยล่ะ...♪

โซมะ: ข้าเองก็เพิ่งได้มีประสบการณ์กลับบ้านกับคนหมู่มากเป็นครั้งแรกเช่นกัน เพราะข้าถูกผู้อื่นหลบเลี่ยงด้วยเหตุผลอันใดก็ไม่ทราบน่ะขอรับ...?
ผู้อื่นนอกจากอโดนิสโดโนะ พอเห็นข้าก็พอันหนีหายไปหมด อันสึโดโนะเองตอนเห็นข้าทีแรกก็ตั้งท่าจะหนีเหมือนกัน
นี่ข้า ทำอะไรพลาดตรงไหนกันนะ...?

ยูตะ: เออ... คันซากิเซมไป...? คิดว่าในกรณีของคันซากิเซมไปเนี่ย ปัญหาหลักๆ มันก็คือดาบที่ถืออยู่ในมือนั่นล่ะครับ

โซมะ: มุ ดาบนี้คือจิตวิญญาณของข้า มาบอกว่ามันคือปัญหานั้นหมายความว่าอย่างไรกัน?

ยูตะ: หวา อย่าหันดาบมาทางนี้สิ!
อันนี้เป็นของจริงไม่เหมือนกับชูริเคนของชิโนบุคุงด้วย ถ้าเผลอมือลื่นขึ้นมาจะทำยังไงล่ะครับ~!?

โซมะ: ข้านั้นได้หมั่นเพียรฝึกฝนเป็นประจำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่มีวันทำร้ายเจ้าโดยพลาดพลั้งแน่

ยูตะ: ถะ ถึงจะว่าอย่างนั้น โดนดาบจ่ออยู่ตรงหน้าไม่ว่าใครก็ต้องคิดว่า โดนฆ่าแหงๆ...! กันทั้งนั้นล่ะครับ
คิดว่าคนที่เห็นคันซากิเซมไปแล้วหนีเนี่ย ก็น่าจะด้วยเหตุผลนั้นนะครับ...?

โซมะ: มุ นี่ข้าทำให้ผู้อื่นหวาดกลัว โดยที่ตนเองไม่รู้ตัว...... อย่างนั้นหรือ
ถ้าเช่นนั้น ก็แปลว่าแค่แสดงหลักฐานว่าดาบเล่มนี้ปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว! อาโออิ หยุดอยู่ตรงนั้นอย่าขยับไปไหนนะ

ยูตะ: เอ๋ เดี๋ยว...!
คันซากิ โซมะ จะไปล่ะนะ
เชสโตะ...!

ชิโนบุ: มะ ไม่ได้นะขอร้าบบบ!!

ยูตะ: เอ๋? ชิ ชิโนบุคุง?

ชิโนบุ: อย่าทำร้ายเพื่อนของข้าน้อยเลยนะขอรับ!! ไม่อย่างนั้นก็ฟันข้าน้อยแทนเถอะ!
หวาาาาา แงงงงง...!

โซมะ: มุ แย่ล่ะสิ ข้าแพ้น้ำตาเด็กซะด้วย แม้ข้าจะไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายอาโออิก็เถอะ...
อะไรนะ อันสึโดโนะจะมาเป็นคนกลางให้งั้นหรือ? หากเป็นอันสึโดโนะล่ะก็ คงแก้ไขสถานการณ์นี้ได้แน่
เช่นนั้น อันสึโดโนะ ขอฝากที่เหลือด้วย

ชิโนบุ: ฮึก... ฮือ......
เอ๋? ก่อนหน้านี้อันสึโดโนะเองก็เคยเกือบจะโดนดาบฟันมาแล้ว...? (ในเนื้อเรื่องโซมะตอนที่1 https://ensemble-stars-th.blogspot.com/2021/04/idol-story-1_20.html)
แต่ก็ ปลอดภัยดีสินะขอรับ! ได้ยินแบบนั้นก็ค่อยสบายใจหน่อยขอรับ~♪
คะ คือว่า อันสึโดโนะ ช่วยหันไปข้างหลังหน่อยขอรับ
อายุขนาดนี้แล้วยังร้องไห้งอแงให้อันสึโดโนะเห็นอีก รู้สึกอับอายซะจนแทบตายเลยขอรับ...
ขอเช็ดด้วยผ้าเช็ดหน้าก่อน... อื้ม เรียบร้อยแล้วขอรับ☆
อันสึโดโนะ! เซนโกคุ ชิโนบุ ฟื้นคืนชีพโดยสมบูรณ์แล้วขอรับ~♪


ชิโนบุ: หวา อย่าลูบหัวสิขอรับ! มะ มันก็ดีใจอยู่หรอก แต่มันน่าอายมากกว่านะขอรับ~!!

ยูตะ: อะฮะฮะ ชิโนบุคุง หน้าแดงถึงหูแล้วนะ~
ฮือ เรื่องนั้นไม่ต้องพูดก็ได้ขอรับ~!? ยูตะคุงนี่ก็ขี้แกล้งกว่าที่คิดนะขอรับเนี่ย!

ยูตะ: เอ๊ะ อย่างนั้นหรอกเหรอ? ถ้าบอกว่าเป็นอานิกิที่ขี้แกล้งก็ยังพอเข้าใจได้อยู่หรอก
แต่ว่าฉันกับอานิกิเองก็มีสายเลือดเดียวกันด้วย อาจเผลอทำตัวแบบนั้นกับคนที่วางใจก็ได้ล่ะมั้ง~?
ก็ชิโนบุคุงเป็นคนแปลกๆ แล้วก็ตลกดีนี่นา ดูได้ไม่มีเบื่อเลยล่ะ~♪

ชิโนบุ: ยะ อย่างนั้นหรือขอรับ? ยูตะคุงที่สนิทกับข้าน้อยได้เองก็ใช่ย่อยอยู่เหมือนกันนะ~?

ยูตะ: อืมมม แต่ชิโนบุคุงก็คุยด้วยง่ายอยู่นะ? ถ้าไม่ได้อันสึซังช่วยจับคู่ซ้อมให้ล่ะก็เราคงไม่สนิทกันถึงขนาดนี้หรอก
ต้องขอบคุณอันสึซังแล้วสิ~♪

ชิโนบุ: ข้าน้อยเองก็รู้สึกขอบคุณอันสึโดโนะเช่นกันขอรับ~♪
ที่คนขี้อายอย่างข้าน้อยสนิทกับยูตะคุงได้เนี่ย เป็นเพราะอันสึโดโนะเลยนะขอรับ!
อันสึโดโนะเนี่ย เป็นเหมือนเทวทูต... ไม่สิ เหมือนเทพธิดาสำหรับข้าน้อยเลยล่ะขอรับ♪

ฝึกพิเศษ! การซ้อมคู่อันตะกุกตะกัก - ตอนที่ 7

 

(ณ ห้องซ้อมเต้น)

ชิโนบุ: ชึ้บ... ฮึ้บ... หวา หวาหวา!


ชิโนบุ: นุ นุนุนุนุนุ... ยะ ยืนได้แล้ว! ยืนได้แล้วล่ะขอรับ~!!

ยูตะ: สุดยอด สุดยอด! ชิโนบุคุง มีพรสวรรค์เลยล่ะ♪
งั้น ต่อไปก็เป็นพื้นฐานของการจักกลิ้ง เอาเป็นฝึกโยนบอลก็แล้วกัน
แต่ว่า ให้เริ่มด้วยสามลูกแต่แรกก็คงยากไป ค่อยๆ ฝึกจากลูกเดียวก่อนแล้วกันนะ☆
ถือบอลด้วยมือขวา แล้วโยนส่งให้มือซ้าย

ชิโนบุ: ฮึ้บ...!

ยูตะ: อื้มๆ ทำได้ง่ายๆ เลยสินะ~☆ งั้นต่อไปก็ลองสองลูก~!
ใช้มือขวาโยนบอลให้มือซ้าย แล้วก็โยนบอลในมือซ้ายไปที่มือขวาก่อนที่บอลลูกแรกจะร่วงลงมือซ้าย

ชิโนบุ: อึ้บ... ฮึ้บ...!

ยูตะ: อะฮะฮะ เก่งมากๆ☆ สุดท้ายนี้ลองสามลูกไปเลย~!
ถือบอลไว้ที่มือขวาสองลูก มือซ้ายหนึ่งลูก ก่อนอื่นเริ่มโยนจากมือขวาก่อนนะ
แล้วก็โยนบอลในมือซ้ายตามก่อนบอลแรกจะร่วง แล้วก็โยนบอลอีกลูกในมือขวาก่อนบอลมือซ้ายจะร่วง

ชิโนบุ: ฮึ๊บ... โอ๊ะ... วะ หวา!
(มะ ไม่ไหวขอรับ! แบบนี้ปล่อยให้ร่วงไปー)

ยูตะ: ชิโนบุคุง สู้เค้า!

ชิโนบุ: (ยูตะคุง? แล้วก็ อันสึโดโนะเองก็กำลังให้กำลังใจข้าน้อยอยู่ด้วย... แบบนี้ไม่ใช่เวลาจะมาท้อแล้วสิขอรับ!)
(จะทำให้สำเร็จให้ได้เลยขอรับ~!)
นุ นุนุนุนุนุนุ......
...! ดะ ได้แล้ว! ทำได้แล้วล่ะขอรับ~!!

ยูตะ: ยินดีด้วย~♪ เท่านี้ชิโนบุคุงก็เป็นนักจักกลิ้งเต็มตัวแล้วล่ะ☆
งั้น ต่อไปก็ตาฉันสินะ~?
เออ ชิโนบุคุงเขียนเอาไว้ว่าจะสอนเพอฟอร์แมนซ์แบบนินจาให้ก็เถอะ แต่โดยรูปธรรมแล้วมันต้องทำยังไงล่ะ?

ชิโนบุ: เรื่องนั้นข้าน้อยจะอธิบายเองขอรับ~
แค่ถือชูริเคนไว้มือซ้าย แล้วมือขวาโพสท่าประสานอินแบบนี้ เดี๋ยวเดียวก็ได้นินจาแบบด้นสดมา 1ea แล้วขอรับ♪

ยูตะ: เอ๋ แค่นั้นก็พอเหรอ?
ว่าแต่ ชูริเคนนี่มันไม่อันตรายไปหน่อยเหรอ? ตรงปลายมันคมด้วย ถ้าไปถูกใครเข้าน่าจะแย่เอานะ...

ชิโนบุ: ยูตะคุงไม่ต้องห่วงขอรับ! นี่เป็นชูริเคนที่ทำจากยาง ถึงจะไปถูกใครเข้าก็ไม่มีปัญหาขอรับ♪

ยูตะ: หวา จริงด้วยสิ หยุ่นๆ เลยแฮะ~♪


ยูตะ: เอ ถือชูริเคนไว้มือซ้าย แล้วมือขวาโพสท่าประสานอิน งี้สินะ?

ชิโนบุ: โห ดูเหมือนยิ่งกว่าข้าน้อยอีกขอรับ~♪ เท่านี้ยูตะคุงเองก็เป็น "นินจา" เต็มตัวแล้วนะขอรับ!

ยูตะ: นินจานี่เป็นกันได้ง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ...? แต่เอาเถอะ ขอแค่สนุกเป็นพอแล้วล่ะเนอะ~♪

ชิโนบุ: ถ้ายูตะคุงไม่ได้สังกัดชมรมไหนอยู่ก่อน ก็คงชวนเข้าร่วมสมาคมนินจาแล้วล่ะขอรับ...
แต่ว่า ถึงจะแค่ไม่นานแต่ก็ดีใจมากเลยขอรับที่เหมือนได้พวกพ้องเพิ่ม~♪
ยูตะคุง อันสึโดโนะ ขอบพระคุณจริงๆ นะขอรับ!

วันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2566

ฝึกพิเศษ! การซ้อมคู่อันตะกุกตะกัก - ตอนที่ 6

 

(ณ ห้องซ้อมเต้น)

ชิโนบุ: อันสึโดโนะ~!
ดูสิๆ! เพราะอันสึโดโนะช่วยแก้ไซส์ให้ เลยเอาแขนลอดผ่านแขนเสื้อชุดของยูตะคุงได้แล้วล่ะขอรับ~♪
ถึงข้าน้อยจะคิดง่ายไปว่าอยู่ปีหนึ่งเหมือนกัน ร่างกายคงไม่ต่างกันนักก็เถอะ
แต่ไม่นึกเลยว่ายูตะคุงจะสูงกว่าข้าน้อยถึงสิบเซนต์... ฮือ อิจฉาซะจนอยากเกาะยูตะคุงเป็นกาฝากแล้วขอรับ~



ยูตะ: เหวอ! ชิโนบุคุง ใจเย็นก่อนนะ!
ถึงอันสึซังจะแก้ชุดให้แล้วก็จริงแต่ก็เป็นการเย็บแบบหยาบๆ ด้วย ถ้าจู่ๆ กระโจนเข้ามาแบบนั้นกลัวมันจะขาดเอา
ถึงอย่างนั้น อันสึซังเนี่ยเก่งงานฝีมือจังเลยนะครับ ได้ยินมาว่าเป็นคนทำชุดของ [Trickstar] ด้วย
พอได้เห็นทักษะนั้นต่อหน้าตัวเองแล้วก็ทำเอาตกใจเลยครับ เร็วซะจนตามองไม่ทันเลย... อาจารย์ของอันซึซังจะต้องเป็นคนที่สุดยอดมากแน่ๆ~
คิริวเซมไปที่อยู่ปีสาม...? คิริวเซมไปนี่ คือคนที่ทำทั้งชุดของ [อาคัตสึกิ] แล้วก็ [ริวเซย์ไต] ด้วยใช่ไหมครับ?
อ๊ะ แต่ว่า ถ้าอันสึซังเป็นลูกศิษย์ของคิริวเซมไปล่ะก็ แปลว่าเราก็ขอให้อันสึซังช่วยทำชุดให้ได้ด้วยน่ะสิ
ชุดของ [Trickstar] เองก็เป็นที่เลื่องลือด้วย ฉันเองก็อยากให้อันสึซังช่วยทำให้บ้างจัง~♪

ชิโนบุ: ยูตะคุง ออกนอกหน้ามากเกินไปแบบนี้ไม่ได้นะขอรับ!
เพราะว่าอันสึโดโนะ เป็น [โปรดิวเซอร์] ของทุกคนนะ!
แล้วก็ ข้าน้อยเองก็อยากให้อันสึโดโนะทำชุดให้บ้างเหมือนกัน! ทำให้ยูตะคุงคนเดียวมันขี้โกงนะขอรับ~

ยูตะ: หวา อย่าร้องไห้สิ! เจ็บใจถึงขนาดร้องไห้แบบนี้ ชิโนบุคุงนี่เคารพรักอันสึซังจริงๆ นะเนี่ย~

ชิโนบุ: แน่นอน! ข้าน้อยเคารพอันสึโดโนะเท่าๆ กับอิซาระโดโนะเลยขอรับ~
ถึงบางครั้งจะเย็นชากับข้าน้อยบ้างจนน่าตกใจก็เถอะ แต่โดยพื้นฐานแล้วอันสึโดโนะก็ใจดีกับข้าน้อยนะขอรับ~?
แม้เวลาแสดงวิชานินจาให้เห็น จะมองด้วยสายตาแบบ "อะไรของเด็กนี่เนี่ย..." ก็ตาม แต่ก็คอยยอมอยู่กับข้าน้อยจนถึงท้ายที่สุด!
ผู้ที่ใจดีถึงขนาดนั้น นอกจากอิซาระโดโนะแล้วก็มีเพียงอันสึโดโนะแหละขอรับ...☆

ยูตะ: งะ งั้นเหรอเนี่ย จากที่ฟังมา ทำเอาอยากจี้จุดว่าที่จริงแล้วเค้ากำลังเอือมอยู่มากกว่าหรือเปล่าก็เถอะ
แต่จะช็อตฟีลชิโนบุคุงที่กำลังดีใจได้ยังไงล่ะเนอะ...?
อืม ปิดเรื่องนี้เอาไว้ดีกว่า

ชิโนบุ: ยูติคุง เป็นอะไรหรือขอรับ พยักหน้าอืมๆ แบบนั้น~?

ยูตะ: อะ อะฮะฮะ ไม่มีอะไรหรอก~? เอาเป็นว่าไหนๆ ก็แลกเสื้อกันแล้ว มาซ้อมกันเลยไหม?

ชิโนบุ: ซ้อมๆ! ซ้อมขอรับ~♪
เช่นนั้น อันสึโดโนะ ขอความกรุณาด้วยขอรับ!
อ๊ะ อันนี้ตารางซ้อมสินะขอรับ! หืมๆ ให้ยูตะคุงสอนวิธีการทรงตัวบนลูกบอลยักษ์ให้... งั้นหรือขอรับ?
แถมให้ทรงตัวพร้อมเล่นจักกลิ้งไปด้วยอีก ทักษะชั้นสูงที่ต้องใช้ประสาทสัมผัสด้านความบาลานซ์! ข้าน้อย ไม่ถนัดอะไรที่มันเวียนหัวด้วยสิขอรับ~

ยูตะ: หืม~ นึกว่าชิโนบุคุงจะชอบอะไรแบบนี้ซะอีก?

ชิโนบุ: ข้าน้อย ไม่ถูกกับความรู้สึกเวลาที่เท้าไม่แตะพื้นน่ะขอรับ!
แล้วก็ เซนส์ด้านกีฬาของข้าน้อยก็ไม่ค่อยจะดีด้วย~ ถ้าขึ้นไปทรงตัวล่ะก็ต้องลื่นตกลงมาแน่เลย!
ฮือ กลัวจังเลย~ บรื๋อ!

ยูตะ: อะฮะฮะ ฉันเองก็พอจะเข้าใจความรู้สึกนั้นนะ ตอนขึ้นไปทรงตัวครั้งแรกก็ตัวสั่นงกๆ เหมือนชิโนบุคุงนั่นแหละ

ชิโนบุ: ยูตะคุงด้วยเหรอ...?

ยูตะ: อืม ตอนนั้นยังเด็กอยู่ด้วยแหละ~ แต่ว่าพอลองขึ้นดูแล้วก็สนุกเกินคาดเลย
การเรียนรู้วิชาเองก็สนุกด้วย จนกลายเป็นงานอดิเรกไปโดยไม่รู้ตัวเลยล่ะ~
เพราะงั้น ชิโนบุคุงก็อย่าเพิ่งยอมแพ้ว่าตัวเองจะทำไม่ได้ แต่ต้องลองดูเท่าที่จะทำได้ก่อนนะ
บางที อาจจะมีพรสวรรค์ใหม่ๆ อะไรตื่นขึ้นมาก็ได้~?

ชิโนบุ: ยูตะคุงเนี่ยจูงใจคนเก่งจังเลยนะขอรับ♪
ข้าน้อย จะลองดูขอรับ! ถึงจะกลัวแต่ก็จะลองท้าทายการขึ้นทรงตัวบนลูกบนดูขอรับ~

ยูตะ: อื้มๆ เอาเลย~☆

ฝึกพิเศษ! การซ้อมคู่อันตะกุกตะกัก - ตอนที่ 5

 

(ณ ห้องซ้อมเต้น)

วาตารุ: Amazing! ทุกวันช่างเป็นวันที่แสนสงบสุข...☆
เอ้า เชิญมองดูด้านนอกหน้าต่างเถิด! เหล่าวิหคกำลังโผบิน ราวกับอวยพรให้แก่เส้นทางของพวกเราอยู่เลยนะครับ...!
1 2 3...☆
หุหุหุ เป็นอย่างไรล่ะครับ? วิเศษไปเลยใช่ไหมล่ะ...!
ห้องซ้อมเต้นเต็มไปด้วยดอกกุหลาบเลย☆ เท่านี้สวนพฤกษชาติขนาดย่อมก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์แล้วล่ะครับ...!
เอ้าๆ เชิญรับชาได้เลยครับ~♪ ชาฝรั่งที่ดื่มด่ำท่ามกลางดอกกุหลาบล้อมรอบ จะมีรสชาติล้ำเลิศยิ่งขึ้นไปอีกนะ
อ๋อ ไม่ต้องห่วงนะครับเพราะมีให้เติมเพิ่มอยู่แล้ว☆ อันสึซังจะรับเป็นชานมไหมล่ะครับ?
เช่นนั้นจะขอชงชาดิมบูล่าให้เองครับ! โปรดดื่มได้เลย~☆

เคย์โตะ: ............

วาตารุ: โอ๊ะโอ เคย์โตะคุง ทำหน้าตาราวกับสะกดกลั้นอาการปวดหัวไว้เช่นนั้น เป็นอะไรไปหรือครับ?

เคย์โตะ: ...แกนี่มันเกินเยียวยาแล้วจริงๆ
โปรยดอกกุหลาบไปทั่วแบบนี้ แล้วใครจะเป็นคนเก็บกวาด? แค่ขยับตัวนิดหน่อยก็เจ็บเพราะโดนหนามกุหลาบตำแล้ว ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมแกถึงยังดื่มชาอย่างสบายใจเฉิบได้อีก
เฮ้ย อันสึ รีบหยุดการกระทำพิลึกพิลั่นของเจ้านี่เดี๋ยวนี้เร็วเข้า จะลงไม่ลงมือบ้างก็ไม่ว่ากัน แต่ช่วยเอาเจ้านี่ไปให้พ้นๆ จากสายตาของฉันทีเถอะ

วาตารุ: หุหุหุ โดนรังเกียจเสียแล้วสิครับ? ทว่า ยิ่งใจร้ายใจดำแบบนั้นมากเท่าไหร่ ก็ทำให้ผมยิ่งอยากโชว์ของอีกเยอะๆ เลยล่ะครับ☆

เคย์โตะ: สร้างปัญหาเก่งซะจริง... ชักเริ่มไม่เข้าใจความคิดของเอย์จิที่เอาแกมาใช้งานขึ้นมาซะแล้ว

วาตารุ: ผมไม่เข้าใจความคิดของฝ่าบาท "จักรพรรดิ" หรอกครับ เพราะผมเป็นเพียงแค่ "ตัวตลก" เท่านั้นนี่นา
วันนี้เองก็จะขอเต้นระบำอย่างหรรษา เพื่อไม่ให้ฝ่าบาท "จักรพรรดิ" ต้องทรงเบื่อหน่ายนะครับ...! ฟุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า☆

เคย์โตะ: น่ารำคาญชะมัด อยู่กับเจ้านี่แล้วรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้าขึ้นมาจริงๆ เลย
อันสึ ฉันขอกลับก่อนล่ะ
...เฮ้ ไม่ต้องมาดึงแขนเสื้อเลย ...เออ เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้วน่า ปล่อยมือได้แล้ว
อยากจะบอกว่า ถ้าไม่ซ้อมร่วมกับฮิบิกิก็จะไม่ยอมให้กลับงั้นสิ
ยังไงก็สัญญากับแกเอาไว้แล้วด้วย ฉันเองก็เตรียมใจจนมาถึงตรงนี้แล้ว
แต่ว่า ฮิบิกิก็เมินเรื่องการซ้อมแล้วโปรยดอกกุหลาบไปซะทั่วเลยนี่นา แถมยังช่วนให้มาดื่มชากันอีก... ให้ตายเถอะ เหลือจะเชื่อจริงๆ
ไม่มีอะไรที่ฉันจะต้องเรียนรู้จากเจ้าคนแบบนี้หรอก ฉันจะคอยชี้นำ [อาคัตสึกิ] ในแบบของฉันเอง นั่นแหละคือคำตอบที่ฉันได้

วาตารุ: ฟุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า☆

เคย์โตะ: !? อะ อะไรเนี่ย จู่ๆ ก็หัวเราะเสียงสูง... ในที่สุดก็เป็นบ้าไปจริงๆ แล้วสินะ?

วาตารุ: ไม่ว่าเมื่อไหร่ ผมก็ให้อารมณ์เช่นนี้เสมอล่ะครับ...☆
แต่ว่า จะคอยชี้นำ [อาคัตสึกิ] อย่างคนเป็นมือขวางั้นหรือครับ ความมุ่งมั่นนั้นช่างแสนวิเศษจริงๆ...!
ทว่า มีแค่ความมุ่งมั่นเพียงอย่างเดียวนั้นมันกินไม่ได้!
หมายถึงเคย์โตะคุงผู้หัวดีนั่นล่ะครับ ได้คำตอบอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ ว่าตนควรจะทำอย่างไรกันแน่...?
ผมเชื่อมั่นนะครับ ว่าคุณไม่ใช่ผู้ที่จะปล่อยให้อนาคตของ [อาคัตสึกิ] และความพยายามที่ทำมาต้องสูญเปล่า เพียงเพราะเหตุผลที่ว่ารังเกียดผมน่ะ☆

เคย์โตะ: ...พอเริ่มเข้าใจที่จะสื่อก็ชักจะทำเอาหงุดหงิดขึ้นมายังไงไม่รู้สิ แต่ที่แกพูดมามันก็ถูก
ฉันเองก็ไม่ใช่เด็กแล้ว ถ้าเพื่อ [อาคัตสึกิ] ล่ะก็ ถึงต้องขายวิญญาณให้กับปีศาจฉันก็จะทำ

วาตารุ: หุหุหุ แววตาดูดีนี่ครับ...☆ ต้องแบบนี้สิจึงจะเป็นมือขวาของฝ่าบาท "จักรพรรดิ"!
เช่นนั้นก็ รีบๆ เปลี่ยนเป็นชุดนี้เถอะครับ☆

เคย์โตะ: นี่มัน... ชุดของ [fine] ?

วาตารุ: ครับ เพราะคิดว่าเริ่มต้นจากรูปลักษณ์น่าจะดีกว่าน่ะ☆ เอ้าๆ เชิญเลยครับ~♪

เคย์โตะ(ถอดแว่น): เดี๋ยว อย่าถอดแว่นสิ มันมองไม่เห็น...!
วะ แว่นตาสำรอง... ฮึ้ย กระเป๋าอยู่ตรงไหนยังไม่รู้เลย!
อันสึ ระหว่างที่พวกเราเปลี่ยนชุดช่วยหากระเป๋าฉันให้หน่อยได้หรือเปล่า?
ขอโทษที แต่ฝากด้วยล่ะ

วาตารุ: อันสึซัง โปรดตั้งตารอได้เลยครับ! แม้จะเป็นชุดของ [อาคัตสึกิ] ก็จะขอส่วมใส่อย่างสง่างามให้ได้เห็น☆ ฟุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...☆


เคย์โตะ: ...แว่นอยู่ไหน?
แว่นฉัน อยู่ไหน...?

เคย์โตะ(ใส่แว่น): อะ อ้อ อันสึ ขอบคุณมาก... พอไม่มีแว่นแล้วใจมันอยู่ไม่สุขจริงๆ
ฉันที่โดนขโมยแว่น ก็เหมือนนกที่โดนขโมยปีกไปนั่นแหละ
เอาเถอะ ที่สำคัญกว่า ฮิบิกิ ถ้าเริ่มสอนแล้วล่ะก็ฉันจะไม่มีทางยอมโอนอ่อนให้เด็ดขาด เตรียมใจเอาไว้ซะ


วาตารุ: หุหุหุ อย่างที่ต้องการเลยครับ...☆

เคย์โตะ: ก่อนอื่นก็ตั้งขลุ่ยไว้ให้ขนานกับริมฝีปาก... ใช่ แบบนั้นแหละ
ส่วนวิธีเล่นให้เกิดเสียงก็ ให้เอาปากไปแนบไว้ด้านข้างー ฮะ เฮ้ย ถึงจะพยายามเป่าแบบทันทีทันใด เสียงมันก็ไม่ออกมาหรอกน่า
แกยังเป็นแค่มือใหม่อยู่นะ? หัดทำไปตามขั้นตอนสิ แล้วค่อยๆ คุ้นชินกับวิธีเล่นเอา
อย่าคิดที่จะกระโดดข้ามขั้นเชียว เฮ้ย นี่ฟังอยู่หรือเปล่าเนี่ย...?


วาตารุ: ♪~♪~

เคย์โตะ: ...!
(อัจฉริยะมากความสามารถ ที่ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ทำได้เหนือกว่าคนทั่วไป)
(แปลว่าแม้แต่ตอนนี้เอง ชื่อของ "สามประหลาด" ก็ไม่ได้มีดีไว้แค่อวดสินะ... ถึงจะน่าเจ็บใจ แต่ก็ต้องยอมรับความสามารถของเจ้านี่)

วาตารุ: เป็นอย่างไรบ้างล่ะครับ? ทำเอาเผลอเคลิ้มตามเลยใช่ไหมล่ะ...!
แต่ว่า ขลุ่ยนี่ก็สนุกดีเหมือนกันนะครับ☆ นับแต่คราวหน้าลองปรากฎตัวบนเวทีพร้อมกับเป่าขลุ่ยไปด้วยดีกว่า...!

เคย์โตะ: หยุดเถอะ อย่าทำตัวแปลกไปมากกว่านี้เลย

วาตารุ: แหม น่าเสียดายจัง ถ้าเช่นนั้นก็ ต่อไปถึงตาของเคย์โตะคุงแล้วนะครับ...!

เคย์โตะ: ............

วาตารุ: ยิ่งรังเกียจเท่าไหร่ก็ยิ่งทำเอาอยากแกล้งขึ้นเท่านั้นนะครับ☆ หุหุหุ คงอยากจะพูดความใจในตอนนี้ออกมาให้หมดเปลือกเลยสินะครับ!

เคย์โตะ: ช่างเถอะน่า จะทำอะไรก็รีบเข้า

วาตารุ: โอ๊ะโอ ทำให้โกรธซะแล้วเหรอครับเนี่ย? ขอเรียกนกพิราบออกมาเป็นการไถ่โทษนะครับ!

เคย์โตะ: เหวอ... อุ๊บ... กะ แก ทำอะไรー

วาตารุ: ลืมไปแล้วเหรอครับ? ว่าเคย์โตะคุงมาที่นี่เพื่อเรียนรู้เรื่องความโดดเด่นจากผมน่ะ
ดังนั้นแล้ว ก็เลยจะขอให้เคย์โตะคุงเรียนมายากลเสียหน่อยน่ะครับ...☆
แต่ว่า ถ้าให้เล่นเทคนิคยากๆ ในปุ๊ปปั๊ปเลยก็จะมาตรฐานสูงไปหน่อย เอาเป็นว่าลองเรียกนกพิราบออกมาจากหมวกนี้ดูสิครับ...!

เคย์โตะ: ถึงจะมาบอกให้เรียกนกพิราบออกมาก็เถอะ... โอ๊ย เจ็บ! เฮ้ย อย่าใช้จงอยปากจิกสิ! มันเจ็บนะ...!

วาตารุ: เคย์โตะคุง ให้ผมสอนเรื่องดีๆ ให้ไหมล่ะครับ? นกพิราบน่ะ พออยู่ในที่มืดแล้วจะสงบเสงี่ยมนะ
หรือก็คือ แค่ย้ายพวกนกพิราบเข้ามาอยู่ในหมวกนี้ได้ก็พอแล้ว ง่ายดายใช่ไหมล่ะครับ...☆


เคย์โตะ: อึก... เอาหมวกนั่นมาซะ! ถ้าแกทำได้ ก็ไม่มีทางที่ฉันจะทำไม่ได้
ฮึ ไอ้เจ้านกพิราบ จะทำให้เสียใจไปจนถึงชาติหน้าเลย ที่บังอาจมาแข็งข้อกับฉัน

Obbligato - ศรัทธาต่อคาเซฮายะ ทัตสึมิ/ตอนที่ 4

  <เวลาเดียวกัน ห้องโหลยโท่ยของโรงเรียนเรย์เมย์> ทัตสึมิ: ーครับ เท่านี้ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ คานาเมะ: ......... ทัตสึมิ: ผมขอให้ทุกคนออกไ...