(ณ หน้าประตูโรงเรียน)
โทริ: ปกติจะให้คนขับรถเป็นคนมารับส่งก็จริง แต่นานๆ ทีก็ต้องคบค้ากับสามัญชนบ้างล่ะเนอะ~♪
ที่จริงก็ดีใจนิดหน่อยอยู่หรอกที่ได้เพื่อนใหม่ แต่ไม่ใช่ว่าเคยใฝ่ฝันว่าจะได้เดินกลับบ้านด้วยกันกับเพื่อนอะไรแบบนี้หรอกนะ?
เพราะฮาจิเมะดึงดันอยากกลับบ้านกับผมให้ได้ ก็เลยยอมมาด้วยเฉยๆ หรอก อย่าลืมซะล่ะ~?
ฮาจิเมะ: ครับ โทริคุง ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ...♪
โทริ: ฮึฮึ้ม ฮาจิเมะเป็นคนว่านอนสอนง่ายด้วย จะยอมให้เป็นขี้ข้าหมายเลขสามก็ได้นะ...☆
ขี้ข้าหมายเลขหนึ่งอย่างยูซึรุน่ารำคาญเกินเหตุด้วย มีแค่ก็ขี้ข้าหมายเลขสองอย่างอันสึแล้วก็ขี้ข้าหมายเลขสามอย่างฮาจิเมะอยู่ก็พอแล้วล่ะเนอะ~♪
วาตารุ: โอ๊ะโอ ถ้าคุณพ่อบ้านอยู่ตรงนี้ด้วยเขาจะเสียใจเอานะครับ? อาจจะเศร้าเกินทนเสียจนหยิบเลื่อยยนต์มาไล่จ้วงองค์หญิงเลยก็ได้นะ...☆
โทริ: อย่าพูดอะไรน่ากลัวสิ!
ว่าแต่ ทำไมเจ้าผมยาวถึงอยู่ด้วยล่ะ~? จะไปไหนก็ไปไป๊! ชิ้วๆ!
วาตารุ: โถ่ พูดจาได้น่าปวดร้ายเสียนี่กระไร! ทว่า องค์หญิงเอ๋ย มันจะได้ผลตรงกันข้ามแทนนะครับ...?
ผมเป็นพวกที่ยิ่งถูกเกลียดเท่าไหร่ ก็ยิ่งอยากแหย่อีกฝ่ายมากขึ้นไปอีกนะครับ☆
โทริ: อึ๊ย น่ารำคาญสุดขีดเลย!
รองประธาน~ อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้สิครับ ช่วยทำอะไรซักอย่างกับเจ้าผมยาวนี่ที!
เคย์โตะ: อย่าโยนเรื่องมาให้ฉันสิ
โทริ: อ๊ะ รองประธานกะจะหนีไปเองคนเดียวสินะครับ~? รองประธานเป็นคนที่ซ้อมคู่กับเจ้าผมยาวด้วย คงชิดเชื้อกับเจ้าผมยาวขึ้นมานิดหน่อยแล้วหรือเปล่าครับ?
เคย์โตะ: ............
วาตารุ: หุหุหุ คุณมือขวาเค้าขี้อายน่ะครับ...☆ คงไม่อยากแม้แต่จะปริปากหรอกครับว่าสนิทชิดเชื้อกับผมน่ะ!
เคย์โตะ: อย่าเข้ามาใกล้น่า มันอึดอัด
จริงอยู่ที่ฉันได้เรียนรู้อะไรจากการซ้อมร่วมกันกับแก แต่อย่าเข้าใจผิดไปซะล่ะว่าทัศนคติของฉันที่มีต่อแกจะเปลี่ยนไปด้วย
แกมันก็เป็นแค่เซลส์มะเร็งของเอย์จิ ไม่รู้ว่าซักวันจะแว้งมาทำลายเอย์จิเมื่อไหร่ด้วยซ้ำ
ฉันจะต้อง ลากแกลงมาจาก [fine] ให้ได้ ตอนนี้ก็แค่ผ่อนผันเวลาไปก่อนเท่านั้น จำเอาไว้ให้ขึ้นใจซะ
วาตารุ: เป็นการประกาศสงครามสินะครับ! วิเศษจริงๆ...!
ทว่า ผมเองก็เป็นหนึ่งใน "สามประหลาด" จะขอดิ้นรนขัดขืนให้ถึงที่สุดแล้วกันนะครับ☆ ฟุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...☆
คานาตะ: ปุก้า ปุก้า...♪
เพิ่งเคยได้กลับบ้านพร้อมคนเยอะแยะขนาดนี้ เป็นครั้งแรกเลยครับ
ทั้งครึกครื้น แล้วก็สนุกมากๆ เลยล่ะ...♪
โซมะ: ข้าเองก็เพิ่งได้มีประสบการณ์กลับบ้านกับคนหมู่มากเป็นครั้งแรกเช่นกัน เพราะข้าถูกผู้อื่นหลบเลี่ยงด้วยเหตุผลอันใดก็ไม่ทราบน่ะขอรับ...?
ผู้อื่นนอกจากอโดนิสโดโนะ พอเห็นข้าก็พอันหนีหายไปหมด อันสึโดโนะเองตอนเห็นข้าทีแรกก็ตั้งท่าจะหนีเหมือนกัน
นี่ข้า ทำอะไรพลาดตรงไหนกันนะ...?
ยูตะ: เออ... คันซากิเซมไป...? คิดว่าในกรณีของคันซากิเซมไปเนี่ย ปัญหาหลักๆ มันก็คือดาบที่ถืออยู่ในมือนั่นล่ะครับ
โซมะ: มุ ดาบนี้คือจิตวิญญาณของข้า มาบอกว่ามันคือปัญหานั้นหมายความว่าอย่างไรกัน?
ยูตะ: หวา อย่าหันดาบมาทางนี้สิ!
อันนี้เป็นของจริงไม่เหมือนกับชูริเคนของชิโนบุคุงด้วย ถ้าเผลอมือลื่นขึ้นมาจะทำยังไงล่ะครับ~!?
โซมะ: ข้านั้นได้หมั่นเพียรฝึกฝนเป็นประจำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่มีวันทำร้ายเจ้าโดยพลาดพลั้งแน่
ยูตะ: ถะ ถึงจะว่าอย่างนั้น โดนดาบจ่ออยู่ตรงหน้าไม่ว่าใครก็ต้องคิดว่า โดนฆ่าแหงๆ...! กันทั้งนั้นล่ะครับ
คิดว่าคนที่เห็นคันซากิเซมไปแล้วหนีเนี่ย ก็น่าจะด้วยเหตุผลนั้นนะครับ...?
โซมะ: มุ นี่ข้าทำให้ผู้อื่นหวาดกลัว โดยที่ตนเองไม่รู้ตัว...... อย่างนั้นหรือ
ถ้าเช่นนั้น ก็แปลว่าแค่แสดงหลักฐานว่าดาบเล่มนี้ปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว! อาโออิ หยุดอยู่ตรงนั้นอย่าขยับไปไหนนะ
ยูตะ: เอ๋ เดี๋ยว...!
คันซากิ โซมะ จะไปล่ะนะ
เชสโตะ...!
ชิโนบุ: มะ ไม่ได้นะขอร้าบบบ!!
ยูตะ: เอ๋? ชิ ชิโนบุคุง?
ชิโนบุ: อย่าทำร้ายเพื่อนของข้าน้อยเลยนะขอรับ!! ไม่อย่างนั้นก็ฟันข้าน้อยแทนเถอะ!
หวาาาาา แงงงงง...!
โซมะ: มุ แย่ล่ะสิ ข้าแพ้น้ำตาเด็กซะด้วย แม้ข้าจะไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายอาโออิก็เถอะ...
อะไรนะ อันสึโดโนะจะมาเป็นคนกลางให้งั้นหรือ? หากเป็นอันสึโดโนะล่ะก็ คงแก้ไขสถานการณ์นี้ได้แน่
เช่นนั้น อันสึโดโนะ ขอฝากที่เหลือด้วย
ชิโนบุ: ฮึก... ฮือ......
เอ๋? ก่อนหน้านี้อันสึโดโนะเองก็เคยเกือบจะโดนดาบฟันมาแล้ว...? (ในเนื้อเรื่องโซมะตอนที่1 https://ensemble-stars-th.blogspot.com/2021/04/idol-story-1_20.html)
แต่ก็ ปลอดภัยดีสินะขอรับ! ได้ยินแบบนั้นก็ค่อยสบายใจหน่อยขอรับ~♪
คะ คือว่า อันสึโดโนะ ช่วยหันไปข้างหลังหน่อยขอรับ
อายุขนาดนี้แล้วยังร้องไห้งอแงให้อันสึโดโนะเห็นอีก รู้สึกอับอายซะจนแทบตายเลยขอรับ...
ขอเช็ดด้วยผ้าเช็ดหน้าก่อน... อื้ม เรียบร้อยแล้วขอรับ☆
อันสึโดโนะ! เซนโกคุ ชิโนบุ ฟื้นคืนชีพโดยสมบูรณ์แล้วขอรับ~♪
ชิโนบุ: หวา อย่าลูบหัวสิขอรับ! มะ มันก็ดีใจอยู่หรอก แต่มันน่าอายมากกว่านะขอรับ~!!
ยูตะ: อะฮะฮะ ชิโนบุคุง หน้าแดงถึงหูแล้วนะ~
ฮือ เรื่องนั้นไม่ต้องพูดก็ได้ขอรับ~!? ยูตะคุงนี่ก็ขี้แกล้งกว่าที่คิดนะขอรับเนี่ย!
ยูตะ: เอ๊ะ อย่างนั้นหรอกเหรอ? ถ้าบอกว่าเป็นอานิกิที่ขี้แกล้งก็ยังพอเข้าใจได้อยู่หรอก
แต่ว่าฉันกับอานิกิเองก็มีสายเลือดเดียวกันด้วย อาจเผลอทำตัวแบบนั้นกับคนที่วางใจก็ได้ล่ะมั้ง~?
ก็ชิโนบุคุงเป็นคนแปลกๆ แล้วก็ตลกดีนี่นา ดูได้ไม่มีเบื่อเลยล่ะ~♪
ชิโนบุ: ยะ อย่างนั้นหรือขอรับ? ยูตะคุงที่สนิทกับข้าน้อยได้เองก็ใช่ย่อยอยู่เหมือนกันนะ~?
ยูตะ: อืมมม แต่ชิโนบุคุงก็คุยด้วยง่ายอยู่นะ? ถ้าไม่ได้อันสึซังช่วยจับคู่ซ้อมให้ล่ะก็เราคงไม่สนิทกันถึงขนาดนี้หรอก
ต้องขอบคุณอันสึซังแล้วสิ~♪
ชิโนบุ: ข้าน้อยเองก็รู้สึกขอบคุณอันสึโดโนะเช่นกันขอรับ~♪
ที่คนขี้อายอย่างข้าน้อยสนิทกับยูตะคุงได้เนี่ย เป็นเพราะอันสึโดโนะเลยนะขอรับ!
อันสึโดโนะเนี่ย เป็นเหมือนเทวทูต... ไม่สิ เหมือนเทพธิดาสำหรับข้าน้อยเลยล่ะขอรับ♪
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น