(ณ ห้องชมรมดนตรี)
มาโคโตะ: เออ.... แล้วผมล่ะครับ...?
เรย์: อืม ยูกิ มาโคโตะ เจ้านั้นไม่ได้เรื่องเลยซักนิด
มาโคโตะ: ไม่ได้เรื่องเลยเหรอ!? กะ ก็จริงอยู่ที่ถ้าเทียบกับอาเคโฮชิคุงหรือฮิดากะคุงแล้ว ผมร้องเพลงกับเต้นห่วยกว่าก็เถอะ!
เรย์: รู้ตัวเองก็ดีแล้ว แต่ไม่ต้องกดตัวเองให้ต่ำลงจนถึงขนาดนั้นหรอก
เจ้ามีประกายแสงของเจ้าอยู่ แต่กลับทอดทิ้งมันไปด้วยตัวของเจ้าเอง
เจ้าไม่ได้ปิดกั้นความสามารถเอาไว้แบบฮิดากะคุง
แต่เจ้ากำลังหวาดกลัวและลังเลที่จะเผยตัวของตนเองออกมา เจ้าพรั่นพรึงสิ่งใดเสียขนาดนั้นกันนะ?
มาโคโตะ: ..........
เรย์: วางใจเถิด เพื่อนพ้องของเจ้านั้น ทุกคนเป็นเด็กดี จะต้องร่วมเดินเคียงข้างไปด้วยกันกับเจ้าอย่างแน่นอน
หากแต่เจ้ากลับถอยร่นไปก้าวหนึ่งเพื่อที่จะได้ไม่สร้างความลำบากให้ผู้อื่น..... เช่นนั้น เจ้าจะไม่มีวันไล่ตามเพื่อนๆของตัวเองได้ทันไปตลอดกาล
จะปล่อยให้เพื่อนพ้องผู้อ่อนโยนของเจ้าต้องรอคอยงั้นหรือ นั่นคือบาปมหันต์เชียวล่ะ หากรู้ตัวว่าตนเองขาดตกบกพร่องล่ะก็ จงพยายามจนเจียนตายเสียเถิด
จากนั้นก็จงยืดอกยืนหยัด ร่วมเคียงข้างไปกับเพื่อนพ้องของเจ้า
ทักษะที่จำเป็นในการจะทำเช่นนั้นได้นั้น ต้นอ่อนแห่งประกายแสงนั้น ได้อยู่ภายในตัวของเจ้าเองอยู่แล้ว
แม้นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยทำร้ายเจ้ามาก่อนก็ตาม แต่นั่นก็เป็นอาวุธเพียงหนึ่งเดียวที่เจ้ามีอยู่
จงใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุดเถิด หากต้องมามัวแต่ปกป้องเพื่อนพ้องผู้อ่อนแอล่ะก็ จักไปสู้ใครเขาได้กันเล่า?
เพราะฉะนั้น ต่อจากนี้คงต้องให้ยูกิคุงได้พบเจอกับนรกเสียหน่อยแล้วล่ะ♪
วังโกะ จับหมอนี่ไปฝึกเสียให้หนักเลยนะ
อย่าอ่อนข้อให้จนกว่าเขาจะกรีดร้องโวยวายออกมาว่า "ฆ่าผมทีเถอะ!" เชียวล่ะ ต้องให้ได้รับการรักษาขั้นเด็ดขาดด้วยการฝึกนรกแตกแบบนี้นี่ล่ะ♪
โคงะ: หา? อย่ามาสั่งกันนะเฟ้ย ไหงข้าต้องทำด้วยวะ?
เรย์: อืม จะโอหังและไม่เห็นหัวคนอื่นก็จริง แต่เจ้าก็เป็นคนที่เก่งกาจ
หากต้องขึ้นขี่ม้าพยศล่ะก็ ถึงจะเป็นมือสมัครเล่นแต่ก็จะพัฒนาตัวเองขึ้นได้แน่ ถึงเขาอาจจะไม่ได้ต้องการแบบนั้นก็เถอะนะ
หากไม่พัฒนา ก็เพียงแค่ตกม้าตายเท่านั้นเอง คึคึคึ♪
โคงะ: นี่แกเป็นปีศาจหรือไงฟะ ทำมาเป็นหัวเราะน่ารังเกียจแบบนั้น
เฮ้ย ไอ้พวกอาเคโฮชิหน้าโง่ นี่พวกแกมาข้อร้องผิดคนแล้วหรือเปล่าเนี่ย?
โฮคุโตะ: ไม่หรอก ถึงจะเห็นแบบนี้ แต่เราก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้คำชี้แนะจากซาคุมะเซ็มไป
พวกเราจำเป็นต้องมีอาจารย์ที่เข้มงวด และการฝึกหฤโหดเหมือนกับในการ์ตูนโชเน็น
ไม่อย่างนั้น ก็ไม่อาจต่อสู้กับสภานักเรียนที่แข็งแกร่งหาใดเทียบได้หรอก
สุบารุ: ฮกเก้นี่เลือดร้อนยิ่งกว่าที่คิดอีกนะเนี่ย แต่ฉันเองก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน☆
มาโคโตะ: ส่วนผมนี่อยากจะวิ่งหนีหางจุดตูดไปซะมากกว่า...... เออ.... ฝากตัวด้วยนะ โอกามิคุง!
โคงะ: ห๋า!? อย่ามาเรียกกันง่ายๆนะเว้ย เติมคำว่า "ท่าน" เข้าไปด้วยเซ่ เจ้าแว่นถั่วงอก!
มาโคโตะ: แว่นถั่วงอก!? หวาาา น่ากลัวชะมัดเลย! แต่ผมเอง ก็อยากทำประโยชน์ให้ทุกคนได้บ้างเหมือนกัน! ผมจะพยายาม! แต่ถ้าเกิดตายขึ้นมาล่ะก็ช่วยฝังศพกันด้วยนะ.....!?
เรย์: คึคึคึ! ชักจะน่าสนุกขึ้นมาแล้วสิ น่าตื่นเต้นเสียจริง♪
มาโคโตะ: แต่แบบนี้จะดีเหรอครับ? นอกจากซาคุมะเซ็มไปแล้ว ยังให้ทุกคนในชมรมดนตรีมาช่วยกันฝึกพวกผมด้วยแบบนี้อีก.....?
มาส่งสัญญาณควันแห่งการปฏิวัติ แล้วทำให้พวกสภานักเรียนต้องหลั่งน้ำตากันเถิด ต่อสู้ให้ราวกับเป็นหมาจนตรอก แต่พวกเราไม่ใช่หมาทัพมารเชียวนะ♪
อาละวาดเสียให้หนำใจเถิด เป้าหมายคือ "ดรีมเฟส - S1" ที่จะจัดขึ้นในอีกสองสัปดาห์ใช่ไหมเล่า
เช่นนั้นก็เป็นการแข่งขันแบบทางการ สภานักเรียนเองก็ไม่อาจบดขยี้เราได้โดยง่ายเฉกเช่นเดียวกับการแข่งขันแบบขาจรเมื่อวานหรอก
ในยามนั้นจะเป็นจุดที่เราลุกขึ้นต่อต้าน เป็นวันแห่งการปฏิวัติ ข้าจะเฝ้ารอเวทีนั้นอย่างใจจดใจจ่อเชียวล่ะ♪
วังโกะ เก็บอาการหงุดหงิดของเจ้าเอาไว้รอเสียจนถึงวันนั้น แล้วจงปล่อยออกมาเมื่อถึงศึกตัดสินเถิด ความแค้นในวันวานเจ้าต้องชำระด้วยตัวเอง
ข้าเองก็จะให้ยืมพลังเช่นกัน เหมือนเป็นพระมาโปรดเลยใช่ไหมเล่า?
โคงะ: หา!? ก็บอกว่าไม่ได้ขอให้ช่วยไงเล่า ข้าจะไปเอาคืนสภานักเรียนด้วยตัวคนเดียวให้ดู!
เรย์: น่าน่า ไม่เห็นเป็นกระไรเลย ไหนๆก็จะได้กัดมันให้จมเขี้ยวแล้วทั้งทีนี่นา วังโกะ ข้าไม่ห้ามแต่จักช่วยให้ฝังเขี้ยวลึกขึ้นไปอีกเลยนะ
เป็นหนึ่งหน้ากระดาษอันทรงคุณค่า ที่ยังไม่เคยมีใครพบเจอมาก่อน!
การที่จะได้พบพานช่วงเวลานั้น ถือเป็นความรุ่งโรจน์ของข้ายิ่งนัก!
ตื่นเต้นเสียจนร่างกายสั่นไปหมดทั้งตัวเลย โปรดช่วยแสดงประกายแสงอันส่องสว่างจนแทบจะทำให้ข้าแหลกสลายกลายเป็นขี้เถ้าให้ได้เห็นทีเถิด! เหล่าหมู่ดาวที่ซ้อนเร้นความฝันทอแสงส่องประกายอันเลอค่าเอ๋ย!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น