วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2564

Main Story - บท Rebellion ตอนที่ 33 [เทพเจ้า]

 

(ณ โถงทางเดิน)

สุบารุ: .......อะฮะฮะ เธอคงจะสับสนสินะ~ โทษทีนะที่เอาแต่ตื่นเต้นอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้

ฉันน่ะ ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกเป็นทุกข์ กังวล หรือสับสนมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วล่ะ ก็เลยเห็นอกเห็นใจคนอื่นไม่ได้เท่าไหร่

ฉันเนี่ย คงจะขาดความเป็นมนุษย์ไปส่วนใดส่วนหนึ่งล่ะมั้ง..... เหมือนอารมณ์ความรู้สึกส่วนไหนซักส่วน ถูกถอดออกไปโดยสมบูรณ์เลย

เพราะงั้น ถึงได้เผลอไปทำร้ายคนรอบตัวเข้าหลายต่อหลายครั้งล่ะมั้ง

ก็ ร่าเริงไว้มันก็ดีกว่าหดหู่นี่นา

หัวเราะย่อมดีกว่าร้องไห้ สว่างไสวย่อมดีกว่ามืดมิด

ระยิบระยับไว้ ย่อมดีกว่ามัวแต่อมทุกข์!

แล้วก็เข้าใจไปว่าทุกคนเองก็คิดแบบนั้นแน่นอนเหมือนกัน

แต่ฉันคิดผิดไป คนอื่นๆนอกจากฉันต่างสับสนและเป็นทุกข์ แล้วก็มีคนที่สบายใจที่เป็นแบบนั้นอยู่ด้วย

ฉัน ไม่เคยรู้เรื่องนั้นมาก่อนเลย

เพราะงั้นเมื่อก่อน.... สมัยอยู่ปีหนึ่งที่ยังไม่ได้เจอกับพวกฮกเก้ ฉันเอาแต่ทำตัวดี๊ด๊าใส่เพื่อนในห้องตลอด

เอาแต่พร่ำพูดว่า "มาหัวเราะกัน มาสนุกกัน มาเฮฮาแล้วเปล่งประกายไปด้วยกัน" เพราะนึกว่าทุกคนเองก็เป็นเหมือนกันกับฉัน

ถึงตอนนี้ก็ยังแก้นิสัยแบบนั้นไม่ได้เลย ทั้งที่ฮกเก้ก็ช่วยบอกแล้วแท้ๆ ว่าแบบนี้มีแต่จะทำให้บางคนต้องแบกรับภาระหนักยิ่งขึ้นไปอีก

ไม่เข้าใจเลยแฮะ ยังจับจุดไม่ได้เลย

ทำเอารู้สึกเศร้าขึ้นมานิดหน่อย นี่คงจะเป็น "ความเศร้า" สินะ ฉันไม่เคยรู้จักความรู้สึกนั้นมาก่อนเลย

นึกว่าตัวเองจะได้หัวเราะ ได้มีความสุข.....

แต่พอไม่เป็นไปตามนั้น หัวใจฉันก็คงโศกเศร้าและเจ็บปวดขึ้นมา

ถึงจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด แต่ก็ได้รับบาดแผลไปซะแล้ว.....

จากนั้นหัวใจของฉันก็เริ่มค่อยๆบิดเบี้ยว ผิดเพี้ยนยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ แต่คนที่ทำให้ฉันรู้สึกตัวถึงเรื่องนั้นได้ ก็คือพวกฮกเก้ไงล่ะ

พวกเขาเป็นเพื่อนคนสำคัญที่ช่วยชีวิตฉันเอาไว้ เพราะงั้นก็เลยอยากจะตอบแทนอะไรกลับไปบ้าง

ถึงฉันจะทำเป็นแค่หัวเราะ และร้องเพลงเท่านั้นก็เถอะ แต่ก็อยากจะทำให้เต็มที่ เพื่อทำฝันของทุกคนให้เป็นจริง

เพราะฉันคิดว่ารอยยิ้มนั้น คือสิ่งที่สำคัญที่สุดนี่นา

เพราะเชื่อมั่นว่าทุกคน ต่างมีชีวิตอยู่เพื่อจะได้พบเจอกับความสุข

เพราะยังไงซะ ฉันก็ชอบอะไรที่มันเปล่งประกายระยิบระยับมากกว่าจริงๆนั่นล่ะ

เมื่อก่อน ที่ฉันโดดเดี่ยวอยู่ในห้องเรียน เป็นเหมือนกับตัวตลกที่เอาแต่พูดพร่ำเพ้อไปเรื่อย....

ถ้าเกิดว่าแม้แต่ฉันก็ยังไม่ยอมรับในตัวเองขึ้นมา ตัวฉันสมัยก่อนก็น่าสงสารแย่น่ะสิ

เพราะงั้น ก่อนอื่นฉันจะยอมรับตัวเองในอดีต เพื่อตัวฉันเองด้วยเหมือนกัน

แล้วหลังจากนั้น ถึงค่อยตอบแทนพวกเพื่อนๆ

สุดท้ายก็ จะทำให้ทั่วทั้งโลกนี้โปรยปรายไปด้วยความฝันระยิบระยับไปเลย

จะเปล่งประกายทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ให้ได้เห็นเอง!

จะไม่ขอให้เธอร่วมมือ หรือเห็นใจกันหรอกนะ

แค่อยากให้เธอรู้เอาไว้ ว่าฉันเป็นคนแบบนี้เท่านั้นนั่นล่ะ

เพราะหลังจากนี้ เราจะเป็นพวกพ้องกันใช่ไหมล่ะ

ฉันเองก็อยากรู้เรื่องของเธอด้วยเหมือนกันนะ

โอ๊ะ มองเห็นหอประชุมแล้วล่ะ

ก็ฉันสัญญาเอาไว้แล้วนี่นาว่าจะไปดูดรีมเฟสของชิโนะน่อนน่ะ เท็นโคเซย์เองก็ไปด้วยกันเถอะ!

แล้วก็ ที่พามานี่ก็เพราะมีอีกอย่างที่อยากจะพูดด้วยเหมือนกัน!

จากนี้ก็คงเป็นเหมือนเพื่อนร่วมชะตาชีวิตกันไปอีกซักพักใช่ไหมล่ะ เพราะงั้นขอฝากตัวด้วยนะ คู่หู♪

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Obbligato - ศรัทธาต่อคาเซฮายะ ทัตสึมิ/ตอนที่ 4

  <เวลาเดียวกัน ห้องโหลยโท่ยของโรงเรียนเรย์เมย์> ทัตสึมิ: ーครับ เท่านี้ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ คานาเมะ: ......... ทัตสึมิ: ผมขอให้ทุกคนออกไ...