(ณ เวทีของเทศกาลวิวาทะ)
เอย์จิ: อา... ได้ยินเสียงกลองงานเทศกาลด้วย
ศึกเปิดตัวของ "เทศกาลวิวาทะ" ท่าทางจะน่าตื่นเต้นน่าดูเลยนะ เป็นไปตามแผนของเธอเลยล่ะ อันสึจัง
ฝีมือยอดเยี่ยมไปเลยนะ เริ่มจะคู่ควรกับตำแหน่งโปรดิวเซอร์ของโรงเรียนยูเมะโนะซากิแล้วสิ
เปลี่ยนไปจากครั้งแรกที่เจอกันมากเลยล่ะ
หึหึ ทั้งที่ผมชมอยู่แท้ๆ ทำไมถึงต้องเกรงอกเกรงใจนักล่ะ น่ารักจังนะ... หืม ถูกเคย์โตะตำหนิติเตียนมาซะเต็มที่เลยงั้นเหรอ
ใจร้ายจริงๆเลยนะ ไม่อ่อนโยนมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้วล่ะ แต่ว่าผมควรจะเข้าข้างเขาในฐานะเพื่อนสมัยเด็กของเคย์โตะดีไหมนะ
เคย์โตะน่ะ ไม่มีทางบังคับคนที่ทำไม่ได้จริงๆหรอกนะ
เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าเธอทำได้ เขาถึงได้เข้มงวดว่ากล่าวตักเตือนไงล่ะ แทนที่จะบอกว่าปากไม่ตรงกับใจ ควรเรียกว่าเจ้ากี้เจ้าการมากกว่าล่ะเนอะ...
เก็บเรื่องที่ผมพูดไว้เป็นความลับด้วยนะ?
เดี๋ยวจะโดนโกรธเอา ผมเอียนกับคำบ่นของเคย์โตะเต็มทีแล้วล่ะ
อา... ช่วยหยิบเครื่องพ่นออกซิเจนที่อยู่ตรงนั้นให้หน่อยได้หรือเปล่า
พอเต้นในไลฟ์มากๆเข้า ก็จะทำให้หายใจติดขัดน่ะ ก็เลยมีเตรียมเอาไว้อยู่ตลอด... ไม่สิ เธอเป็นคนเตรียมให้เองสินะ?
เตรียมพร้อมดีจังเลยนะ เก่งมาก เก่งมาก♪ อา ขอโทษทีนะ แต่ช่วยส่งมาเร็วๆหน่อยสิ ที่จริง แค่คุยกันแบบนี้ก็รู้สึกทรมานจนแทบจะตายอยู่แล้วล่ะ
ซู้ด ฮ่า... อืม ใจเย็นลงแล้วล่ะ รู้สึกสดชื่นยันเซลล์ทั่วทั้งร่างเลย แต่ถ้าเธอช่วยถ่ายออกซิเจนให้แบบปากต่อปากล่ะก็ ผมคงจะแข็งแรงขึ้นกว่านี้นะ...♪
ล้อเล่นน่า ลมหายใจออกส่วนใหญ่ก็มีแต่คาร์บอนไดออกไซต์ด้วย กลับจะยิ่งทรมานมากขึ้นซะอีก
แล้วเดี๋ยวจะทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นด้วย ไม่ดีต่อสุขภาพหรอก
อืม พอแกล้งอันสึจังเล่นก็รู้สึกสบายขึ้นแล้วล่ะ ศาลเจ้ามิโคชิก็คงจะใกล้มาถึงแล้ว ผมเองก็ต้องอุ่นเครื่องร่างกายเตรียมไว้ก่อนแล้วสิ♪
เป็นอะไรไป ถ้ามีอะไรอยากจะพูดล่ะก็พูดออกมาให้ชัดๆเลยเถอะ
ผมไม่ใช่เผด็จการอีกต่อไปแล้วล่ะ กะว่าจะลองรับฟังความเห็นของประชาชนดูบ้างน่ะ
แต่ถ้าเป็นการขอให้ผมไม่ขึ้นแสดงใน "เทศกาลวิวาทะ" ล่ะก็ ขอปฏิเสธนะ
ถึงสำหรับโปรดิวเซอร์แล้ว คงจะลำบากใจที่ต้องฝืนให้ไอดอลที่สภาพร่างกายไม่ดีขึ้นแสดงก็เถอะ
เอย์จิ: แต่นี่น่ะ เป็นการแข่งสำคัญที่ผมจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด ถ้าหากทำให้มันจบลงด้วยดีได้ล่ะก็ถึงตายก็ไม่เป็นไร เพราะงั้นอย่ามาขวางกันเลยนะ
เด็กดี... อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ไม่เป็นไรหรอก
สบายใจ แล้วคอยเฝ้าดูเถอะนะ ถึงเป็นแบบนี้ผมก็เป็นลูกผู้ชายคนนึงเหมือนกัน มีทั้งทิฐิ และความมุ่งมั่นอยู่แล้ว
ในที่สุดเคย์โตะก็ตอบรับการท้าทายของผมซักทีนี่นา
โอกาสแบบนี้ ไม่มีอีกเป็นหนที่สองแล้วล่ะ ถึงจะรู้สึกสมเพชตัวเองที่มาป่วยกระเสาะกระแสะเอาในเวลาสำคัญแบบนั้นก็เถอะ
เมื่อก่อนน่ะนะ... สมัยที่ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ผมเป็นจอมเผด็จการตัวน้อยแสนเอาแต่ใจเลยล่ะ
ผม เติบโตขึ้นมาบ้างหลังจากตอนนั้นแล้วหรือยังนะ?
ผมคือทายาทของตระกูลเท็นโชอิน ผู้มีอิทธิพลอย่างมากของวงการบันเทิง ไม่สิ ของโลกใบนี้
คนรอบตัว ก็มีแต่พวกที่ทำตัวราวกับเป็นข้าทาสบริวาร ที่คอยรับใช้ผมอย่างว่าง่ายเท่านั้น
"สุดยอดไปเลยท่านเอย์จิ สมแล้วที่เป็นท่านเอย์จิ" ผมเติบโตขึ้น ท่ามกลางเหล่าคนที่คอยเอาแต่ประจบประแจง เลียแข้งเลียขา
แน่นอนว่าตัวผมสมัยเป็นเด็ก... เผลอคิดหลงผิดไปว่าตนเองเป็นราชา หรือแม้กระทั่งพระเจ้าอะไรเทือกนั้นเลย
ผมน่ะ ขี้โรคมาแต่เกิดแล้วล่ะ... ต้องเฉียดตายอยู่ตลอด หมอเองก็คอยพร่ำบอกอยู่เสมอว่าผมเหลือเวลาอยู่ไม่มากแล้ว
แม้ในตอนนี้เอง ก็ไม่รู้ว่าจะยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกนานเท่าไหร่
ดังนั้นถึงได้สิ้นหวัง เคียดแค้นต่อโลกใบนี้ ระบายความขุ่นเคืองกับคนใช้ที่ไร้ความผิด จนทำให้พากันลาออกไป
เงินเองก็ใช้แบบทิ้งๆขว้างๆ สิ่งที่ต้องการก็ได้รับมาหมดทุกอย่าง
แต่ว่าก็ยังกลวงเปล่าอยู่ดี ความหวาดกลัวต่อความตาย ไม่ได้ลดลงไปเลยแม้แต่นิดเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น