วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564

Idol Story(!) - ฮารุคาว่า โซระ - ตอนที่ 1

 


(ณ ทางเดิน) (ฤดูใบไม้ผลิ)

โซระ: HaHa~ HiHi~♪ HuHu~ HeHe~ HoHo~...♪

HaHiHuHeHo~...♪

หืม~ หืมม? อะไรของเธอเนี่ย ช่วยเงียบหน่อยสิ~?

ไม่ได้ยินเสียงเลยนะ~... ได้ยินหรือเปล่า? เสียงของน้ำ ที่ไหลจากทางนู้นมาทางนี้ไงครับ!

นั่นน่ะ~ เสียงของน้ำประปาน่ะ~? ฟังออกหรือเปล่า~ โซระฟังออกนะครับ!

เพราะว่าหูดีนี่นา~ แต่เรียกว่ามองเห็น จะดีกว่าได้ยินเสียงนะ~? เสียงของน้ำน่ะ~ ส่วนใหญ่จะมีสีฟ้าไงล่ะครับ!

เป็นสีเดียวกับ "เซ็มไป" เลยนะ~ แล้วก็เป็นสีเดียวกับชุดนักเรียนแล้วก็สีของท้องฟ้า(โซระ)ด้วยนะ~?

ที่บอกว่าท้องฟ้าเนี่ย ไม่ได้หมายถึงโซระแต่เป็นท้องฟ้านะ? ถึงเป็นโซระ ก็ไม่รู้สีของตัวเองอยู่ดีน้า~?

โซระชื่อว่าโซระน้า~ ฮารุคาว่า โซระเองครับ! ไม่รู้จักเหรอ? แต่โซระรู้จักนะ HaHa~♪

เธอคือ อันสึเหรอ? ชื่ออันสึสินะ~? ยินดีที่ได้รู้จัก~ จากนี้ก็ฝากตัวด้วยนะ!

"ชิโชว(อาจารย์)" สอนมาว่า ต้องทักทายว่า "ยินดีที่ได้รู้จัก" กับคนที่พึ่งรู้จักด้วยน่ะครับ!

อ๊ะ พอพูดแล้วก็เริ่มแยกเสียงไม่ออกแล้วสิ~? อันสึ ช่วยหลบไปหน่อยได้หรือเปล่า? เงียบๆเอาไว้น้า~? เดี๋ยวจะแยกเสียงไม่ออกเอา... อืม~ อืมมมม~?

HaHa~ HiHi~♪ อ๊ะ ตรงนี้ไงครับ! เจอแล้ว เจอแล้ว ค่อยยังชั่ว~

HuHu~ นี่น่ะน้า~ เซ็มไปน่ะนะ~ เผลอทำของที่เรียกว่าพาวเวอร์สโตน? ไหลลงห้องน้ำไปน่ะนะ~?

โซระ กำลังตามหามันอยู่ล่ะครับ!

ห้องน้ำเนี่ย เชื่อมกับท่อน้ำนี่นะ~? พาวเวอร์สโตนเนี่ย~ น่าจะไหลมาล่ะน้า~? ถ้าฟังเสียง เดี๋ยวก็จะเจอเองล่ะครับ!

ถ้าหาเจอล่ะก็ เซ็มไปจะชมหรือเปล่าน้า~? HaHa~♪

โอ๊ะ เริ่มไหลไปอีกแล้วนะ~? เพราะมีเสียง โซระก็เลยรู้ได้!

ต้องรีบตามไปแล้ว... เออ อันสึมีธุระอะไรกับโซระหรือเปล่า? โซระกำลังยุ่งอยู่ เอาไว้ที่หลังได้ม้า?

HoHo~? เพราะเห็นว่าหมอบอยู่บนทางเดิน ก็เลยเป็นห่วงว่าไม่สบายหรือเปล่าเหรอ? พูดเข้าใจยากจังน้า~?

โซระสบายดีครับ ก็วันนี้แสงแดดสดใสตั้งแต่เช้าเลยนี่นา~♪

พออากาศดี ดวงอาทิตย์ส่องสว่าง โซระก็แจ่มใส☆ นะ~ เข้าใจสิน้า~?

ช่วยหลบหน่อยสิ~? ตรงนี้ๆ พาวเวอร์สโตนค่อยๆไหลไปเรื่อยๆแล้วครับ!

ต้องรีบตามไปแล้ว~ โซระไม่ได้ไม่สบายหรอก ไม่ต้องห่วงนะครับ! ขอตัวน้า~♪


(ณ ชายหาด)

โซระ: HaHa~ HiHi~? HuHu~ เจอแล้ว♪

HeHe~ ไหลมาที่ทะเลจริงๆด้วย! พาวเวอร์สโตน~♪

ยอดนักสืบโซระ สัญนิตฐานได้อย่างแม่นยำ! จะเป็นท่อน้ำหรือว่าอะไร ส่วนใหญ่ก็ต้องเชื่อมกับทะเลอยู่แล้วล่ะนะ~? HoHo~ เป็นอย่างที่ชิโชวบอกเลย~♪

หืม~? อ้าว อันสึ? เจอกันบ่อยจังน้า~?

ดูสิๆ เจอพาวเวอร์สโตนอย่างปลอดภัยแล้วล่ะครับ! เซ็มไปต้องดีใจแน่เลยนะ~ โซระเองก็ Happy นะ~♪

เหวอ จู่ๆทำอะไรน่ะ?

อ๋อ เพราะว่าตัวเปียกก็เลยใช้ผ้าขนหนูเช็ดให้สินะ~? เข้าใจแล้วครับ! ถ้าปล่อยให้ตัวเปียกล่ะก็เดี๋ยวเป็นหวัดเอาสินะ~ เดี๋ยวอุณหภูมิในร่างจะต่ำลงสินะ~?

ให้ทุกๆคนอบอุ่น ดีที่สุดแล้วล่ะครับ! HaHa~♪

หรือว่าอันสึ จะตามโซระมาเหรอ~? ว่างเหรอ~? ไม่ต้องเป็นห่วงก็ได้นะครับ โซระแข็งแรงดี!

จริงสิ เพื่อเป็นการตอบแทนสำหรับผ้าขนหนู... จะให้ขนมน้า~

น่าจะมีอยู่ในกระเป๋านี่ล่ะ ขนมที่ฮินะจังทำเองกับมือ... อ้าว?

ไม่มี ไม่มีนี่นา? ไปตกอยู่ที่ไหนกันน้า~ อืม~?

อ๊ะ เจอแล้ว อยู่ในทะเลครับ! คงจะหล่นปลิวไประหว่างหาพาวเวอร์สโตนหรือเปล่านะ~?

อ๋า เปียกแฉะไปหมดแล้ว~...

อันสึ กินม้า? ถ้าไม่กินล่ะก็โซระจะกินเอง ก็ฮินะจังทำมาให้โซระนี่นา ง่ำๆ♪

HaHa~ อากาศดีจังน้า~ เหมาะแก่การอาบแดดสุดๆไปเลย ความสงบสุขนี่ Happy ดีจังน้า~

อันสึ ดูเหนื่อยๆหรือเปล่า? กินขนมม้า?

มีอันที่ไม่ค่อยเปียกอยู่ด้วย น่าจะอร่อยนะครับ! ฮินะจังน่ะน้า~ ทำขนมเก่งมากๆเลยน้า~♪

เอ้า เชิญเลย ให้นะให้นะ ถ้าได้กินขนมแล้ว ความเหน็ดเหนื่อยก็จะปลิวหายไปเลยน้า~♪

ขอตัวล่ะ โซระไปล่ะน้า! ไปหาเซ็มไป~ ต้องรีบเอาพาวเวอร์สโตนไปส่งแล้ว~

ถ้าได้เห็นนี่ล่ะก็ เซ็มไปจะร่าเริงไหมน้า~? เหมือนกับคุณพระอาทิตย์~♪

โอ๊ะ ตอนจะบ๊ายบายก็ต้องพูดทักด้วยสินะ~? สำคัญมากเลยล่ะนะ~ ชิโชวสอนมาแบบนั้นน่ะน้า~?

เออ... คำทักทายตอนจากลากัน...?

วันนี้ ขอตัวแต่เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ! เอาไว้พบกันใหม่นะ♪

ไปล่ะน้า บ้ายบาย~ HaHiHuHeHo~...♪

วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2564

เทศกาลทานาบาตะ - Epilogue 2 (จบ)

 

(ณ เวทีทานาบาตะ)

นาซึนะ: หึ อย่าคิดว่าจะเอาชนะเราได้ง่ายๆนะ~ พวกเราค่อยๆเติบโตขึ้นทุกๆวัน เพราะงั้นจะไม่เหมือนกับครั้งที่แล้วหรอกนะ

ความอัปยศในตอนที่สู้กันครั้งก่อน จะเอาคืนในเทศกาลทานาบาตะนี้ล่ะ♪


เคย์โตะ: โฮ่ จะไม่พูดว่า "ก่อนหน้านี้เราเคยสู้กับ Ra*bits ด้วยเหรอ? จำไม่เห็นได้เลย" หรอกนะ

นั่นเป็นยูนิตที่นิโตะทุ่มเทกายใจสร้างขึ้นมา ไม่คิดจะดูถูกหรอก


โทโมยะ: เอ๋ นี่จังได้รับการยอมรับสูงเลยนะเนี่ย? รองประธานสภานักเรียน ลีดเดอร์ของอาคัตสึกิถึงกับออกปากพูดแบบนั้นเลย...?


ฮาจิเมะ: นั่นสินะครับ ก็นี่จังเนี่ย... เป็นถึงคนที่อยู่ในโรงเรียนยูเมะโนะซากิที่ความฝันของผู้คนมากมายพังทลายและลาออกไปได้อย่างจนยาวนานจนกลายเป็นนักเรียนปีสาม...จนเกือบจะจบการศึกษาเลยนี่นา

เวลาที่ใช้มามากกว่าพวกเราหลายต่อหลายเท่านั้น... คงจะสั่งสมอะไรหลายๆอย่าง จนได้รับพลังและการยอมรับล่ะมั้งครับ

การที่มีคนแบบนั้น มาพบเจอ ดูแลเอาใจใส่พวกเราอย่างหวงแหนเนี่ย ถือว่าเป็นเกียรติมากเลยล่ะครับ

เพื่อที่จะไม่เป็นตัวถ่วงนี่จังผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเรา ไม่สิ เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณเขาได้ มาพยายามให้เต็มที่กันเถอะนะครับ♪

อา แต่ว่า ตื่นเต้นจังเลยครับ... การแสดงคิวแรกเนี่ย เป็นที่จับตามองที่สุดด้วยสิ


ฮาจิเมะ: จะไหวหรือเปล่านะ ถึงจะซ้อมมาเยอะแล้วก็เถอะ! แต่สั่นหงึกๆไปทั้งตัวเลยล่ะครับ!


โทโมยะ: ใจเย็นๆไว้น่า ฮาจิเมะ เราอยู่บนเวทีแล้วนะ ผู้ชมมองดูเราอยู่ ยืดอกอย่างสง่าผ่าเผยแล้วทำในสิ่งที่ตัวเองทำได้ให้เต็มที่ก็พอแล้วล่ะ


วาตารุ: ใช่แล้วล่ะครับ โทโมยะคุง! เติบโตขึ้นแล้วสินะ ผมเองก็จะคอยเฝ้าดูด้วยความรักนะครับ!

ใช้เวทีนี้ เบ่งบานให้เต็มที่ไปเลยนะครับ! Amazing....☆


โทโมยะ: หนวกหูน่า เจ้าหน้ากากโรคจิต! อย่ามาคุยกันนะ ไม่อยากถูกคิดว่าเป็นคนรู้จักกับคุณหรอก!


มิตสึรุ: เลิกบ่นแล้วเริ่มกันซักทีเถอะน่า? ผู้ชมเค้ารอจนเอียนแล้วนะ ฉันเองก็คันไม้คันมือจนทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน~♪

อาคัตสึกิ เป็นยูนิตที่แซงหน้าพวกเราอยู่ตลอด

ถึงตอนแรกอาจจะไม่ชนะก็จริง แต่จะครั้งที่สอง หรือครั้งที่สาม หรืออีกกี่ร้อยครั้งก็จะพุ่งเข้าชน!

แล้วจากนั้นหนทางก็จะเปิดออก และมุ่งต่อไปข้างหน้าได้! ฉันจะลองใช้หัวพุ่งเข้าชนด้วยความเร็วสุดขีด โดยไม่คิดอะไรดูนะ!

แบบนั้นน่ะ จะสมเป็นฉันมากกว่านี่นา♪

มุ่งหน้าเต็มกำลัง แดชแดช~! จะวิ่งไปสู่ทางช้างเผือก โดยไม่หยุดยืนหรือหันหลังกลับเลย☆


คุโร่: ฮะฮะ ร่าเริงกันดีนี่นา ได้รีแมทช์กันเร็วกว่าที่คิดไว้เสียอีก มาต่อสู้กันอย่างซึ่งๆหน้า และขาวสะอาดดีกว่า

คราวนี้ล่ะ จะทำให้เต็มที่เพื่อไม่ให้มีอะไรคาใจเลย

เพื่อให้โอริฮิเมะซังกับฮิโกโบชิซังที่กำลังสนุกสนานกับการเดตในท้องฟ้ายามราตรีนี้ ไม่ต้องเบื่อหน่ายจนต้องหลบซ่อนตัวหลังก่อนเมฆไป...

ก็ต้องแสดงเวทีอันแสนสุดยอดให้เห็นใช่ไหมล่ะ


เคย์โตะ: อา เวทีที่อันสึ... โปรดิวเซอร์จัดเตรียมไว้ให้นี้... ไอดอลอย่างพวกเราจะทำให้มันล้มเหลวไม่ได้เด็ดขาด

แม้จะน่าเจ็บใจ แต่จำนวนผู้ชมกับกระแสตอบรับเกินที่คาดไว้อีก คราวนี้จะถือว่าสอบผ่านก็แล้วกัน

แต่อย่าได้หลงลำพองตนซะล่ะ ครั้งต่อไปก็ขอฝากด้วยนะโปรดิวเซอร์ เพื่อเป็นการตอบแทนที่ทำงานได้ดี งั้นก็จะขอทำให้เทศกาลทานาบาตะนี้น่าตื่นเต้นจนถึงขีดสุดเลยก็แล้วกัน!


โซมะ: อืม! มาร่ายรำกันเถิด เหล่าสหายอาคัตสึกิเอ๋ย! แล้วก็ "ราบิสสึ" เอ๋ย เหล่าคู่แข่งในโรงเรียนยูเมะโนะซากิเอ๋ย!

ประกายแสงอันส่องสว่างของผองเรา จักกลายเป็นทางช้างเผือกเหนือผืนดิน!

เอาล่ะ เริ่มการตัดสินกันได้! จนกว่ายามรุ่งสางจะมาถึง การพบพานของเราก็จะยังไม่จบลงหรอกนะ...☆


[เทศกาลทานาบาตะ - จบ]

เทศกาลทานาบาตะ - Epilogue 1

 


(ณ เวทีทานาบาตะ)


วาตารุ: Amazing! เหล่าสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย ขออภัยที่ให้รอนาน ได้เวลาเริ่มเทศกาลทานาบาตะแล้วล่ะครับ!

ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นพิธีกรอยู่ในตอนนี้ ที่มาทำหน้าที่เองโดยไม่ได้มีใครร้องขอให้ทำนั้น คือเอนเตอเทนเนอร์ผู้เป็นที่ภาคภูมิใจของโรงเรียนยูเมะโนะซากิ!

ฮิบิกิ วาตารุของคุณ ที่ทุกท่านรู้จักดียังไงล่ะครับ...☆

ในช่วงที่สภาพอากาศแปรปรวนเช่นนี้นั้น ท้องฟ้ายามราตรีกลับช่างปลอดโปร่งราวกับปาฏิหาริย์! โปรดมองดูที่ทางช้างเผือก ที่พร่างพราวไปด้วยหมู่ดาวเต็มท้องฟ้าสิครับ!

มาร้องเพลงและเต้นรำเพื่อเป็นการอวยพรต่อการพบพานของโอริฮิเมะกับฮิโกโบชิกันเถอะครับ...☆

ขอความรัก คำอำนวยพร และAmazingแห่งปาฏิหาริย์! อยู่เคียงข้างทุกท่าน! ในค่ำคืนแห่งปาฏิหาริย์นี้!


เคย์โตะ: ...เจ้างั่งนั่น ทำไมถึงบินอยู่ด้วยบอลลูนพร้อมตะโกนเสียงดังเหมือนอย่างคนบ้าแบบนั้นกัน?

บอลลูนอันนั้น บางทีก็เห็นอยู่บ่อยๆนะ เป็นของส่วนตัวของฮิบิกิงั้นเหรอ?

งี่เง่าจริงๆ ทั้งที่ทางช้างเผือกปลอดโปร่งงดงามขนาดนี้แท้ๆ ดันปล่อยลำแสงเจ็ดสีออกมาจากบอลลูนนั่นจนมองแทบไม่เห็นเลย จะวุ่นวายเกินไปแล้ว

ใครก็ได้ไปหยิบธนูของฉันจากโรงยิงธนูมาให้ที ฉันจะยิงไอ้ความอับอายของโรงเรียนยูเมะโนะซากินั่นให้กระจุยเลย


โซมะ: ช่างเถิด ฮาสึมิโดโนะ งานเทศกาลรื่นเริงทั้งที ผ่อนคลายเข้าไว้เถิด

ดูนั่นสิ ฮิบิกิโดโนะโปรยกระดาษจำนวนมากลงมาจากบอลลูนด้วย

เหมือนจะไม่ได้เอามาลอยเล่นๆ โดยไม่มีความหมายอะไรหรอกนะ ถือว่าเป็นการแจกจ่ายกระดาษที่แสนสำคัญของเทศกาลทานาบาตะให้แก่ผู้ชมไง?


เคย์โตะ: ถ้างั้นก็ไม่จำเป็นต้องบินขึ้นฟ้าไม่ใช่หรือไง ค่อยแจกที่ประชาสัมพันธ์ก็ได้นี่นา

ให้ตายสิ เอย์จิจะเลี้ยงดูเจ้าคนประหลาดนั่นไปจนถึงเมื่อไหร่กันนะ แค่ดูอย่างเดียวก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว


คุโร่: เฮ้ยๆ ไหวหรือเปล่าน่ะนั่น ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกลนะ เทศกาลทานาบาตะเป็นการแข่งแบบเซอไวเวิล ยิ่งชนะเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องอยู่ยาวเท่านั้นล่ะ

...แน่นอนว่าคงไม่คิดจะยอมแพ้ใช่ไหมล่ะ?


เคย์โตะ: แน่อยู่แล้ว ไม่มอบเวทีให้ใครหรอก จะแสดงเพอฟอร์แมนซ์อันแสนสุดยอดจนไม่ว่าใครหน้าไหนก็หมดใจจะสู้เลยล่ะ

เวทีเทศกาลทานาบาตะนี้ พวกเราอาคัตสึกิจะเป็นคนยึดครองเอง

จะสอนให้เหล่านักเรียนในโรงเรียนยูเมะโนะซากิ และคนทั่วทั้งโลกได้รับรู้เอง... ว่าอะไรคือไอดอลที่แท้จริง

จะแสดงไลฟ์ และศิลปะที่แท้จริงให้เห็นเอง จะได้ไม่มีพวกหน้าโง่กล้าหันคมดาบใส่เราอีกเป็นครั้งที่สอง วันนี้พวกเรา ก็จะชนะเหมือนอย่างเคยนั่นล่ะ


นาซึนะ: หึหึ ได้ใจใหญ่เลยนะ~? ไอดอลของโรงเรียนยูเมะโนะซากิไม่ได้มีแค่พวกนายหรอกนะ เป็นเพราะมีคนอยู่มากมายหลายแบบนี่ล่ะถึงได้สนุก♪

นี่เป็นเวทีที่อันสึเป็นคนจัดการวางแผน โดยที่ปรารถนาจะทำให้ทุกคนสนุกตื่นเต้น และมีรอยยิ้มได้

ไม่ยอมปล่อยให้อาคัตสึกิที่อึดอัดและน่าเบื่อเป็นคนดูแลได้หรอก~♪


เคย์โตะ: นิโตะเองเหรอ เกินคาดเลยนะที่ Ra*bits เข้ามาท้าทายเองแบบนี้ ย่อมได้ เป็นคู่มือที่สูสีในการเริ่มเปิดศึกแรกเลย

 ก่อนอื่นก็ ขอจัดการบดขยี้พวกแกก่อนก็แล้วกัน

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2564

เทศกาลทานาบาตะ - อธิษฐานต่อดวงดาว/ตอนที่ 4

 

(ณ ห้องซ้อมเต้น)

โทโมยะ: ขอโทษนะครับ! อาจจะช้าไปหน่อย แต่พาตัวมิตสึรุมาแล้วล่ะ~♪


นาซึนะ: โอ๊ะ โทโมะจิน เหนื่อยหน่อยนะ~ รออยู่เลยล่ะ♪


มิตสึรุ: งือ... โทโมะจังกับอันสึเน่จัง จับแขนซ้ายขวาเอาไว้จนหนีไม่ได้เลย

เหมือนถูกมนุษย์ต่างดาวจับตัวเอาไว้เลย อันตัวข้าคือ--- มนุษย์--- ต่าง--- ดาว---


นาซึนะ: อย่าทำเสียงแปลกๆสิ แล้วก็นั่งตรงนั้นซะ

ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมนายถึงทำตัวเหนื่อยหน่ายไม่เข้ากับตัวเองแบบนั้น แต่มีอะไรก็บอกมาเถอะ ปรึกษากับนี่จังได้นะ

เป็นอะไรไปเหรอมิตสึรุจิน ช่วงนี้ไม่สมเป็นมิตสึรุจินเลยนะ

ทุกคนเค้าเป็นห่วงกันนะ~ ทั้งฉัน ทั้งฮาจิเมะจิน ทั้งโทโมะจิน อันสึเองก็เหมือนกัน สำนึกไว้ด้วยล่ะ~?

เมฆหมอกน่ะ ไม่เหมาะกับทั้งทานาบาตะและมิตสึรุจินหรอกนะ แสดงรอยยิ้มอันส่องประกายเจิดจ้าเหมือนอย่างเคยทีสิ~?


มิตสึรุ: งือ~... ขอโทษนะ ไม่ได้อยากจะทำให้ทุกคนต้องเป็นห่วงหรอก

แต่ว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับทุกคนใน Ra*bits ด้วย เพราะงั้น... ฉันก็เลยไม่อยากทำให้ทุกคนต้องลำบากน่ะ

เพราะว่า Ra*bits น่ะ กำลังจะเริ่มต่อจากนี้ไปต่างหาก

ต้องพยายามพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆเพื่อที่จะกลายเป็นยูนิตอันแสนสุดยอด ก็เลยไม่อยากให้วุ่นวายกับเรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะ~?


โทโมยะ: เจ้าหมอนี่ ทำตัวห่างเหินชะมัดเลย เป็นแค่มิตสึรุแท้ๆ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า ทั้งที่ตอนปกติชอบทำตัวเอาแต่ใจจนน่าโมโห แล้วก็สร้างปัญหาตลอดยังไม่ยอมสำนึกแท้ๆ


มิตสึรุ: งือ~... พูดแบบนั้นก็เถียงไม่ออกพอดีน่ะสิ ขอโทษน้า?

แต่ว่าฉัน เพิ่งเคยเจอแบบนี้เป็นครั้งแรก ก็เลยไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดีนี่นา!


นาซึนะ: เอ้าๆ อย่าไปว่าเค้ามากนักเลย โทโมะจิน แต่ที่บอกว่าทำตัวห่างเหินมันก็จริงนั่นล่ะ

พวกเราเป็นเพื่อนร่วมชะตากันนะ ถึงจะยังเป็นแค่ไข่ของไอดอลที่ยังไม่ฟักก็เถอะ...

เพราะงั้น ต้องร่วมแรงร่วมใจสนับสนุนกันสิ แบ่งปันความอบอุ่นให้กัน เพื่อที่ซักวันจะได้ฟักออกมาอย่างงดงาม

ถึงจะไม่หรอกนะว่าเรื่องอะไร แต่ต้องไม่เป็นไรแน่ วางใจเถอะนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถึงจะเลวร้ายขนาดไหน นี่จังก็จะปกป้องเอง


มิตสึรุ: นี่จัง.... แงงงงงง ขอโทษจริงๆน้า!

ฉันผิดไปแล้วล่ะ ยังไงฉันก็ยังอยากอยู่ใน Ra*bits อยู่ดี! อยากจะอยู่ด้วยกันกับทุกคนที่ทั้งอบอุ่น อ่อนโยน อยู่กับทุกคนที่ฉันรัก!


ฮาจิเมะ: มะ... หมายความว่ายังไงเหรอครับ? พูดเหมือนจะไปที่ไหนเลย หรือว่าจะย้ายโรงเรียนเหรอ? ทะ... ทำไงดีล่ะ!


นาซึนะ: ...หืม? อันสึรู้เรื่องอะไรด้วยเหรอ ช่วยอธิบายหน่อยได้หรือเปล่า? มิตสึรุจินเป็นพวกพูดเรียงลำดับขั้นตอนไม่เก่ง ก็เลยฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่

หืม มิตสึรุจิน ทำสถิติในการแข่งขันกรีฑาได้ยอดเยี่ยมเลยงั้นเหรอ อ๋อ~ แบบนี้นี่เอง เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้แล้ว


ฮาจิเมะ: เอ๊ะ? แล้วมันมีปัญหาตรงไหนเหรอครับ น่ายินดีออกนี่นา?


มิตสึรุ: อือ มันก็ใช่อยู่หรอก

แต่ฉันไม่ค่อยมีผลงานในฐานะไอดอลเลยนี่นา...

แถมยังถูกคนใหญ่คนโตชักชวนให้เลิกเป็นไอดอล แล้วหันไปเอาดีด้านกรีฑาแทนด้วย

บอกว่าการจะเป็นนักกีฬาโอลิมปิกก็ไม่ใช่แค่ความฝัน อะไรแบบนี้... แต่ว่าฉันก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นหรอก แค่ดีใจที่ทำสถิติได้แล้วถูกชมเฉยๆแค่นั้นเอง

แต่ว่า ฉันอยากเป็นไอดอล! อยากจะอยู่ด้วยกันกับทุกคนใน Ra*bits!

ก็ ถึงจะเร็วขนาดไหนก็ยังวิ่งไล่ตามรถไม่ทันอยู่ดีนี่นา

แต่ถ้าเป็นไอดอลล่ะก็ ถ้าเป็นบทเพลงล่ะก็ สามารถส่งไปถึงทั่วโลกได้ภายในชั่วพริบตาเลย! จะวนรอบโลกด้วยความเร็วแสงเลยก็ยังได้!

เพราะงั้นฉันก็เลยอยากเป็นไอดอล... จนมาเข้าโรงเรียนยูเมะโนะซากินี่ล่ะ ถึงจะชอบวิ่งด้วยก็เถอะ

แต่ก็ถูกบอกว่าถ้าไม่ใช้พรสวรรค์ที่มีล่ะก็ มันจะเสียของเอาเปล่าๆ

ก็เลยไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี... ฉันไม่ถนัดเรื่องใช้สมองด้วย เพราะงั้นก็เลยวิ่งไปเรื่อยๆ เพื่อให้ความรู้สึกที่มัวหมองนี้ปลิวไปนั่นล่ะ!


โทโมยะ: อ๋อ เพราะงั้นนายถึงได้วิ่งหนีสินะ...

ไม่คิดจะหยุดยืนคิดบ้างเลยหรือไง ไหงถึงต้องเอาแต่วิ่งแบบนั้นด้วยล่ะเนี่ย นี่นายเป็นปลาทูนาที่ถ้าไม่ว่ายน้ำล่ะก็จะตายหรือไง?

แต่ว่า อย่างนั้นเองเหรอ... การที่ไม่ "ธรรมดา" เองก็ลำบากเหมือนกันนะ การที่มีพรสวรรค์ก็ด้วย

ยังไงนี่เป็นชีวิตของมิตสึรุ ฉันว่าอะไรไม่ได้หรอก แต่การได้กังวล ลังเลแบบนี้ น่าอิจฉาจริงๆเลยนะ

หมายความว่านายเลือกทางได้หลายทางไงล่ะ แล้วไม่ว่ามิตสึรุจะเลือกทางไหน นายก็จะต้องวิ่งไปได้อย่างเต็มกำลังด้วยความยินดีจนถึงท้ายที่สุดแน่

เพราะงั้น ฉันก็เลยอิจฉานายไงล่ะ มิตสึรุ


มิตสึรุ: โทโมะจัง... ถ้าแลกกันได้ล่ะก็อยากจะแลกนั่นล่ะ พูดจาโหดร้ายจังเลยนะ?

ใช่แล้ว นี่คือชีวิตของฉันนี่นา เส้นทางของฉัน ฉันก็ต้องเลือกด้วยตัวเอง มีแต่ต้องวิ่งไปเท่านั้นล่ะ

แต่ว่า ทั้งที่หากมองรอบๆตัวล่ะก็ ยังมีทุกคนใน Ra*bits อยู่แท้ๆ

ทำเอาฉันที่มัวแต่อารมณ์เสียอยู่คนเดียวแบบนี้ เหมือนเป็นคนบ้าเลยล่ะ~


นาซึนะ: เอาน่า ยังไม่ต้องรีบร้อนด่วนตัดสินใจก็ได้นี่นา ค่อยๆคิดไปเถอะ พวกนายยังอยู่แค่ปีหนึ่งกันเองนะ~
?

ยังมีเวลาอยู่อีกนะ~♪

ถ้าไม่รู้ว่าจะเดินไปเส้นทางไหนดีล่ะก็ มาพึ่งพาพวกเราสิ อันสึเองก็เหมือนกัน เธอไม่ได้ตัวคนเดียวหรอกนะ

เพราะงั้น อย่าวิ่งหนีไปไหน โดยที่เหมือนละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไปเลยนะ...?


ฮาจิเมะ: ใช่แล้วครับ มิตสึรุคุง ถึงแม้ว่าซักวันหนึ่งจะต้องเดินไปในเส้นทางที่แตกต่างกันก็ตาม แต่ตอนนี้ก็จะอยู่ข้างๆเองนะครับ จะอยู่ข้างๆในที่ๆเสียงและกลิ่นของพวกเราส่งไปถึง

ได้โปรด อย่าลืมเรื่องนั้นไปเลยนะ... เดี๋ยวจะเตรียมชาให้นะครับ พักหายใจหายคอกันหน่อยนะ♪

ถึงจะได้พบเจอกันเพียงปีละหนก็ตาม แต่สายสัมพันธ์ของโอริฮิเมะกับฮิโกโบชิ และความรักนั้น จะไม่เสื่อมคลายไปแน่ครับ พวกเราเองก็เป็นพวกพ้องที่เชื่อมต่อกันด้วยสายสัมพันธ์เช่นนั้นเหมือนกัน...♪

เทศกาลทานาบาตะ - อธิษฐานต่อดวงดาว/ตอนที่ 3

 

(ณ ห้องซ้อมเต้น)

ฮาจิเมะ: แบบนี้เหรอครับ นี่จัง?


นาซึนะ: นั่นแหล่ะนั่นแหล่ะ ยังแข็งๆไปบ้างแต่ก็ดีแล้วล่ะ หมุนตัวแล้วกางแขนออกมาให้เหมือนกับปีกนะ... เก่งมาก เก่งมาก♪

นึกถึงอิมเมจของเหล่านกที่ใช้ตัวเองเป็นสะพานข้ามเพื่อให้โอริฮิเมะกับฮิโกโบชิได้พบกันเข้าไว้ กางปีกออก~ แล้วก็โดด☆



ฮาจิเมะ: หวา ยากจังเลยครับ~ ก้นจ้ำเบ้าซะแล้ว โอ๊ย...


นาซึนะ: สู้เค้า~ ยืนไหวหรือเปล่า? เอ้าฮึ้บ นี่จังจะช่วยดึงให้เอง♪


ฮาจิเมะ: ขะ ขอโทษด้วยนะครับ ที่ผมอืดอาดไปหน่อย... เฮ้อ เหงื่อออกซะแล้วสิ


นาซึนะ: อะฮะฮะ แต่ฮาจิเมะจินก็เคลื่อนไหวได้ดีกว่าแต่ก่อนแล้วนะ ตอนที่เจอกันครั้งแรกยังเต้นห่วยอยู่เลยนี่นา~?


ฮาจิเมะ: อือ... คงจะสร้างปัญหาเอาไว้มากเลยใช่ไหมครับ ถึงผมจะร้องเพลงเก่งก็จริง แต่เต้นไม่ได้เรื่องเลย

แต่ก็คิดว่าซักวันหนึ่ง อยากจะทำให้ได้ทุกอย่างเหมือนกันนะครับ...♪


นาซึนะ: อื้มๆ ฮาจิเมะจินเป็นคนช่างพยายามจริงๆเลยนะ นี่จังเองก็จะเอาใจช่วยด้วยเหมือนกัน☆


ฮาจิเมะ: ผมเคารพชื่นชมนี่จังที่เก่งทั้งการร้องการเต้นมากเลยล่ะครับ กระโดดดึ๋งๆได้เหมือนกับ Ra*bits... เหมือนกับกระต่ายจริงๆเลย♪


นาซึนะ: อ๊ะ ท่าเมื่อกี๊น่ารักดีนี่นา ใส่ลงไปในท่าเต้นด้วยดีกว่า~ เท่านี้เพลงใหม่สำหรับใช้ในเทศกาลทานาบาตะก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว♪


ถ้ารวมเพลงเดิมที่เรามี กับเพลงใหม่ของเทศกาลทานาบาตะที่ซ้อมอยู่ตอนนี้ล่ะก็... น่าจะแสดงเพอฟอร์แมนซ์ที่หลากหลายได้เลยล่ะ~♪

พวกเรา Ra*bits เอง ก็มาพยายามเพื่อให้ไม่น้อยหน้ายูนิตอื่นกันเถอะ~♪


ฮาจิเมะ: ครับ เอาแต่ทำงานพิเศษในโรงเรียนจนแทบจะลืมไปเลยว่าพวกเราเป็นไอดอลกัน

เป็นไลฟ์ที่ไม่ได้ทำมาซะนานเลย มาพยายามด้วยกันเถอะครับ...♪

แต่ว่า จำเป็นต้องมีเพอฟอร์แมนซ์ที่หลากหลายถึงขนาดนี้เลยเหรอครับ?

ต้องจำหลายๆอย่างจนตาลายไปหมดแล้วนะครับ~...?

ถึงผมจะไม่ค่อยเข้าใจรูปแบบของเทศกาลทานาบาตะเท่าไหร่ก็เถอะ

แต่ถ้าเป็นรูปแบบทัวร์นาเม้นต์เหมือนอย่าง DDD ล่ะก็ พวกเราจะแพ้อย่างรวดเร็วเลยนะครับ...?


นาซึนะ: งึ้ย ถึงใน DDD จะเป็นแค่โชคช่วยก็เถอะ แต่พวกเราก็สู้ชนะจนไปถึงรอบท้ายๆไม่ใช่เหรอ

ถ้าท้าทายโดยที่เตรียมใจแพ้ไว้แล้วจะได้อะไรขึ้นมา ฮาจิเมะจินต้องมุ่งมั่นกว่านี้หน่อยสิ!


ฮาจิเมะ: อ๊ะ ครับ นั่นสินะ ขอโทษด้วยครับ... ผมเองก็คิดว่าถ้าได้ไลฟ์ร่วมกันกับทุกคนไปนานๆก็คงจะดีเหมือนกัน!


นาซึนะ: ต้องแบบนั้นสิ เด็กดี~ เด็กดี~?


ฮาจิเมะ: เอะเฮะเฮะ~♪


นาซึนะ: อะแฮ่ม แต่ว่าเทศกาลทานาบาตะเนี่ย บริหารโดยอันสึนี่นา น่าจะมีรูปแบบแตกต่างจากดรีมเฟสเดิมๆอยู่บ้างแหล่ะ?

ให้ยูนิตสองยูนิตขึ้นไปบนเวทีเดี่ยว แล้วแข่งขันกันด้วยการไลฟ์ตามปกติ

ฝั่งที่ชนะก็จะยังอยู่บนเวที ฝั่งที่แพ้ก็จะต้องลงไป ถ้าชนะไปเรื่อยๆล่ะก็จะได้ไลฟ์ไม่อั้น เรียกว่าเป็นการต่อสู้แบบเซอไววัลเลยล่ะ~♪

ฝ่ายที่แพ้เอง ถ้าเวลาผ่านไปซักพักก็จะสามารถขึ้นเวทีอีกครั้งได้เหมือนกัน

ถ้าต้องการและมีไฟล่ะก็ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ร้องและเต้นได้ทุกเมื่อ

ไม่ใช่การห้ำหั่นกันอันแสนโหดร้ายที่หากแพ้แล้วทุกอย่างจะจบลง อันสึเป็นคนวางแผนดรีมเฟสอันแสนอ่อนโยนแบบนี้ขึ้นมาไงล่ะ


ฮาจิเมะ: งั้นเหรอครับ~ สมกับเป็นอันสึซังจังเลย...♪


นาซึนะ: แต่ก็มีด้านที่โหดสุดๆอยู่เหมือนกันนะ~ ถ้าชนะอยู่เรื่อยๆล่ะก็ ก็ต้องไลฟ์ไปไม่รู้จักจบจักสิ้นเลย

ไลฟ์จนกว่าจะหมดแรงหรือหมดเวลาเลยล่ะ

ถ้าใช้เพลงเดิมๆซ้ำๆกันล่ะก็ ผู้ชมเองก็จะเบื่อด้วยเหมือนกัน เพราะงั้นก็เลยจำเป็นต้องเตรียมเพอฟอร์แมนซ์ที่หลากหลายเอาไว้ไงล่ะ♪


ฮาจิเมะ: อ๋อ อย่างนี้นี่เอง... พวกเรา Ra*bits เพิ่งจะก่อตั้งได้ไม่นาน ก็เลยไม่ค่อยมีเพลงมากนักด้วย

ถึงจะงานหยาบไปบ้าง แต่ก็จำเป็นต้องทำให้ได้หลายๆอย่างสินะครับ

ไม่งั้นเดี๋ยวจะถูกรู้เอา ว่าไพ่ของพวกเรามีอยู่น้อย


นาซึนะ: ตามนั้นล่ะ

อันสึทุ่มเทเต็มที่เพื่อการวางแผนจัดการเทศกาลทานาบาตะ พวกเราไอดอลเองก็ต้องทุ่มเทเต็มกำลังเหมือนกันใช่ไหมล่ะ~♪


ฮาจิเมะ: นั่นสินะครับ มาพยายามกันเถอะ นี่จัง♪


นาซึนะ: อะฮะฮะ แต่ถ้าพวกเราพยายามกันแค่สองคนล่ะก็ไม่ไหวหรอกนะ~ มิตสึรุจินไปทำอะไรอยู่ที่ไหนกันล่ะเนี่ย ถึงโทโมะจินจะไปออกตามหาแล้วก็เถอะ... แต่ช้าจังนะ?

มิตสึรุจิน ลืมว่าวันนี้จะมาซ้อมกันที่ห้องซ้อมเต้นอีกแล้วหรือเปล่านะ

ต้องรีบแก้ไขนิสัยเหลวไหลของหมอนั่นแล้วสิ ไม่งั้นเข้าสังคมลำบากแน่


ฮาจิเมะ: มิตสึรุคุง เป็นอะไรไปกันนะ ช่วงนี้ชอบเอาแต่วิ่งหนีด้วย...

แถมยังไม่ค่อยเข้าร่วมกิจกรรมของ Ra*bits อีก

มิตสึรุคุงเป็นคนมีความสามารถ คงจะรังเกียจที่จะต้องมียูนิตกระจอกๆอย่างพวกเราเป็นเพื่อนหรือเปล่านะครับ?


นาซึนะ: อย่าพูดแบบนั้นนะ ฮาจิเมะจิน พวกเราไม่ได้กระจอกนะ แค่ยังอยู่ระหว่างพัฒนาตัวเองเท่านั้นล่ะ

มิตสึรุจินเอง ถึงจะดูเหมือนไม่ค่อยคิดอะไร แต่ก็คงมีเรื่องอะไรอยู่นั่นล่ะ~?

ถ้าโทโมะจินพามิตสึรุจินมาแล้ว ทุกคนมาเปิดอกคุยกันเถอะ พวกเราเป็นเพื่อนพ้องกันนะ ถึงจะยังอ่อนแออยู่ก็เถอะ...

เพราะงั้น มาสามัคคีกันไว้เถอะ♪


ฮาจิเมะ: ครับ นี่จัง...♪


นาซึนะ: ฮาจิเมะจิน ในช่วงที่เราพักกันอยู่นี่ ฝึกเรื่องแฟนเซอวิสอย่างการเซ็นลายเซ็นกับจับมือกันเถอะ

เรื่องร้องกับเต้น เอาไว้รวมตัวกันครบทุกคนไว้ค่อยซ้อมก็ได้


ฮาจิเมะ: เออ แฟนเซอวิสเหรอครับ? เพราะช่วงนี้พวกเรามีแฟนคลับเพิ่มขึ้นมาบ้างนิดหน่อยเหรอ...?


นาซึนะ: ก็ ในเทศกาลทานาบาตะมันมีกฎพิเศษอยู่นิดหน่อยน่ะ~

ก็ทานาบาตะเนี่ย ต้องเขียนคำอธิษฐานลงในกระดาษแล้วแขวนกับต้นไผ่ใช่ไหมล่ะ ในเทศกาลทานาบาตะเอง เหล่าผู้ชมก็จะเขียนคำอธิษฐานลงในกระดาษเหมือนกัน~♪

ดรีมเฟสตามปกติ จะใช้แสงแท่งไฟในการลงคะแนน แต่ในเทศกาลทานาบาตะจะนับด้วยกระดาษน่ะ

ตอนที่ผู้ชมเลือกว่าชอบการเต้นและร้องของยูนิตที่ประชันกันอยู่ยูนิตไหนมากกว่า...

จะชูกระดาษขึ้นพร้อมกับแท่งไฟแบบนี้ไงล่ะ

โหวตกันด้วยกระดาษสีประจำตัวของแต่ละยูนิต อย่าง fine จะเป็นสีขาว อาคัตสึกิจะเป็นสีแดง

และใช้จำนวนของกระดาษนั่นตัดสินแพ้ชนะไงล่ะ


ฮาจิเมะ: ว้าว สมเป็นทานาบาตะจริงๆเลยนะครับ ให้แสงของแท่งไฟแทนทางช้างเผือก และกระดาษคือคำอธิษฐานสินะ...

อันสึซังคงเป็นคนคิดสินะครับ โรแมนติกจัง~♪


นาซึนะ: อื้มๆ อันสึเองก็ช่างคิดจริงๆเลยนะ~♪

ก็ในทานาบาตะ ผู้ที่จะทำให้คำอธิษฐานในกระดาษเป็นจริงก็คือโอริฮิเมะกับฮิโกโบชิใช่ไหมล่ะ~ พวกเราเองก็จะเป็นคนที่ทำให้คำอธิษฐานสำฤทธิ์ผลเหมือนกัน

แต่การจะทำให้คำอธิษฐานที่เขียนไว้ในกระดาษทั้งหมดเป็นจริงได้มันจะเกินกำลังไปหน่อยใช่ไหมล่ะ~

เพราะงั้นยูนิตที่ชนะการแข่งขัน จะเลือกผู้ชมมาเพียงแค่คนเดียว

และทำให้คำอธิษฐานที่เขียนไว้ในกระดาษที่ใช้โหวตของคนๆนั้นเป็นจริงยังไงล่ะ

แน่นอนว่าถ้าทำให้เป็นจริงไม่ได้จริงๆล่ะก็... น่าจะเปลี่ยนเป็นการจับมือ เรียกชื่อ หรือเซ็นลายเซ็นเฉยๆนั่นล่ะ~?


ฮาจิเมะ: อ๋อ เพราะงั้นก็เลยต้องฝึกฝนแฝนเซอวิสเอาไว้สินะครับ

แบบนี้นี่เอง พวกเราจะกลายเป็นโอริฮิเมะกับฮิโกโบชิที่ทำให้คำอธิษฐานเป็นจริงสินะ...♪


นาซึนะ: อื้ม ผู้ชมเองก็คงจะดีใจกันแน่~ ยังไงก่อนหน้านี้ อันสึก็เคยเป็นแค่คนธรรมดาๆทั่วไปด้วย

คงจะเข้าใจความรู้สึกของผู้ชมอยู่แล้วล่ะ~♪


ฮาจิเมะ: นั่นสินะครับ ถึงการชมการร้องและเต้น จะสนุกมากพอแล้วก็จริง

แต่ถ้าไอดอลทำความปรารถนาของตนให้เป็นจริงให้ล่ะก็ จะต้องดีใจมากขึ้นกว่าเดิมแน่...♪

แบบนี้ก็ต้องแสดงเพอฟอร์แมนซ์อันแสนวิเศษ เพื่อให้ไลฟ์ชนะ แล้วทำความปรารถนาของเหล่าผู้ชมเป็นจริงให้ได้เยอะๆแล้วล่ะครับ♪


นาซึนะ: นั่นล่ะ~ เพราะงั้นมีแต่ต้องซ้อมเท่านั้น! มาพยายามกันเถอะ ฮาจิเมะจิน♪


ฮาจิเมะ: ครับ นี่จัง! ทานาบาตะหนึ่งปีมีแค่ครั้งเดียว อยากจะทำให้รอยยิ้มของเหล่าผู้ชมส่องประกายแสงระยิบระยับราวกับทางช้างเผือกเลยล่ะครับ...♪

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2564

เทศกาลทานาบาตะ - อธิษฐานต่อดวงดาว/ตอนที่ 2

 

(ณ สนาม)

มิตสึรุ: วู้ฮู้ว~☆

สูงจังเลย มองเห็นไปได้ไกลเลยล่ะ! ขึ้นขี่คอนี่สนุกจริงๆเลย~♪


คุโร่: งั้นเหรอ อย่าขยับมากนักล่ะ เดี๋ยวตกแล้วจะบาดเจ็บเอา


โทโมยะ: ขอโทษด้วยนะครับคิริวเซ็มไป ผมคนเดียวคงลากมิตสึรุไปด้วยคงยาก ขอบคุณที่ช่วยหิ้วไปนะครับ~♪


คุโร่: ไม่เป็นไรหรอก ฉันเองก็ถูกเจ้าฮาสึมิเรียกตัวพอดี เหมือนจะมีงานต้องใช้แรงน่ะ  ทั้งที่ทางนี้เองก็ยุ่งอยู่แล้วแท้ๆ

แต่ว่า เอาแต่นั่งทำงานอย่างเดียวไหล่ก็เลยตึงไปหมดแล้ว ถือซะว่าจะได้เปลี่ยนบรรยากาศด้วย


มิตสึรุ: อะฮะฮะ♪ นึกว่าคิริวเซ็มไปจะเป็นคนน่ากลัวซะอีก แต่ใจดีจังเลยนะ!

ดูจากการที่คอยใส่ใจ ไม่ให้ฉันตกก็รู้ได้แล้วล่ะ!

ฉันชอบนายขึ้นมาแล้วล่ะ! เย้ เย้☆


คุโร่: ไหงนายถึงได้ทำตัวเหมือนเด็กขนาดนั้นกันเนี่ย เป็นนักเรียนม.ปลายจริงๆใช่ไหม... แต่เอาเถอะ โดนตีสนิทแบบนี้ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรด้วย


โทโมยะ: ที่ผ่านมาผมอาจจะมองคิริวเซ็มไปผิดไปก็ได้

อะฮะฮะ พอดูแบบนี้แล้วเหมือนเป็นพ่อแม่ลูกกันเลยนะครับ~ คิริวเซ็มไปเป็นพ่อ ส่วนอันสึซังเป็นแม่♪


คุโร่: ฉันไม่ได้แก่ถึงขนาดจะถูกเรียกว่าพ่อซักหน่อย แล้วแบบนั้นแม่หนูอันสึเค้าก็ลำบากใจแย่น่ะสิ...

คงไม่อยากถูกเรียกเหมือนเป็นสามีภรรยากับคนอย่างฉันใช่ไหมล่ะ?

จะว่าไป นี่พวกนายไม่กลัวฉันกันหรือไง ทั้งที่เคยเจอเรื่องเลวร้ายมาในดรีมเฟสก่อนหน้านี้แท้ๆ

ไม่แปลกหรอกที่จะถูกเกลียดน่ะ


โทโมยะ: อ๋อ เคยมีเรื่องแบบนั้นด้วยนี่นะ ลืมไปเลยล่ะครับ จะว่าไปคิริวเซ็มไปเองก็อยู่อาคัตสึกินี่นะ...

แต่ว่า ตอนที่เราสู้กันในครั้งนั้น เรียกว่าเป็นความผิดของยุคสมัยจะดีกว่า

ผู้ชมทุกคน พอชมเพอฟอร์แมนซ์ของอาคัตสึกิกันจบก็กลับกันไปเลยนี่นา...

ทั้งที่พวกเรา Ra*bits ตั้งใจร้องเพลงกันอย่างสุดความสามารถแท้ๆ แต่กลับทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวซะได้

ตอนนั้นฮาจิเมะ ร้องไห้หนักมากเลย... ผมเองก็เจ็บใจ เสียจนตอนนี้ยังเก็บไปฝันอยู่เลยล่ะครับ แต่ว่า เราก็ใช้ความอัปยศนั้นเป็นเหมือนสปริง แล้วพยายามกันต่อไป

เพราะงั้น ถึงจะเรียกว่าขอบคุณคิริวเซ็มไปไม่ได้ก็จริง... แต่ก็ไม่ต้องใส่ใจไปหรอกนะครับ

เรื่องแบบนั้น ก็ถือว่าเป็นธรรมดาในวงการบันเทิงนี่นะ


มิตสึรุ: ใช่ๆ ถ้าเอาแต่หยุดยืนล่ะก็มุ่งไปข้างหน้าไม่ได้กันพอดี! พวกเรา Ra*bits น่ะ ยังอยู่ในวัยกำลังโตนะ~♪


คุโร่: งั้นเหรอ พวกนายนี่แข็งแกร่งกว่าที่เห็นจริงๆนะ ทำเอาฉันสบายใจขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ

ถ้าตอนที่สู้กันครั้งต่อไป ได้สู้กันอย่างขาวสะอาดก็คงจะดีนะ


โทโมยะ: อะฮะฮะ เรายังต่อกรกับอาคัตสึกิไม่ไหวหรอกครับ...♪


(ณ ลานก่อสร้างเวทีทานาบาตะ)

เคย์โตะ: คิริว ทางนี้... สถานการณ์น่าพิศวงจริงๆนะ ทำไมถึงมีคนขี่คออยู่ล่ะ?


คุโร่: ไง ฮาสึมิ โทษทีนะแม่หนู แต่ฉันขอแยกทางกันตรงนี้ล่ะ ตรงนี้อยู่ระหว่างเตรียมตั้งเวทีของเทศกาลทานาบาตะน่ะ ฉันถูกเรียกมาให้ช่วยงานที่นี่ล่ะ

ช่วยไปส่งเจ้าพวกตัวเปี๊ยกทั้งหลายทีนะ


โทโมยะ: เหนื่อยหน่อยนะครับ~ นี่ มิตสึรุ รีบๆลงมาจากคิริวเซ็มไปได้แล้ว อย่าหนีไปอีกล่ะ ขี้เกียจจะไล่ตามจับแล้ว


มิตสึรุ: เอ๋~? งั้นต่อไปขึ้นขี่หลังอันสึเน่จังแทนก็แล้วกัน! ฮึ้บ~♪


โทโมยะ: โห กระโดดได้ทั้งๆที่ขี่คออยู่แบบนั้น มิตสึรุตัวเบาเหลือเกินนะ

แต่ว่ายังไงก็ขี่คออันสึซังไม่ได้หรอกมั้ง ก็เป็นผู้หญิงนี่นา เดี๋ยวกระดูกคอเค้าจะหักเอา อย่าไปกระโดดใส่ล่ะ?

เอ๊ะ "ไม่เป็นไร" เหรอ? อันสึซังเนี่ยแข็งแกร่งจริงๆเลย แต่ว่าอย่าฝืนไปเลยนะครับ...?

นี่ มิตสึรุ เดี๋ยวฉันให้นายขี่หลังเอง ยังไงซะฉันก็เป็นผู้ชาย มีกำลังแขนมากกว่าอันสึซังอยู่แล้ว! เอ้าฮึ้บ~♪


มิตสึรุ: ตัวสั่นไปหมดแล้วนะ โทโมะจัง? สู้เค้า สู้เค้า♪


โทโมยะ: จะว่าไป ทำไมไม่เดินเองล่ะเนี่ย~?


เคย์โตะ: ...เดี๋ยวก่อน อันสึ ไหนๆก็ผ่านมาแล้ว ช่วยตรวจสอบเวทีทีสิ เหมือนว่าจะเป็นรูปเป็นร่างเร็วกว่าที่คาดเอาไว้แล้วล่ะ


มิตสึรุ: โห เป็นเวทีที่เหมือนหลุดออกมาจากหนังไซไฟด้วย! เท่สุดๆเลย~♪


เคย์โตะ: อืม เพราะว่าเป็นห่วงสภาพอากาศในช่วยนี้ ก็เลยต้องติดตั้งเวทีให้เป็นทรงครึ่งโดมเผื่อเวลาฝนตกด้วยน่ะ นี่เองก็เป็นไปตามข้อเสนอของอันสึเหมือนกัน

ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มีหลังคาสำหรับที่นั่งคนดูด้วย อย่างน้อยก็อยากให้กางเต้นท์ซักหน่อย

แต่ก่อนอื่นก็ต้องเน้นไปที่เวทีก่อนสินะ ถ้าหากเวทีลื่นเพราะฝนก็อาจจะเกิดลื่นล้มเป็นอุบัติเหตุได้

คิริว ช่วยจัดการงานช่างทีได้ไหม ถึงแกจะยุ่งอยู่กับการตัดชุดก็เถอะ


คุโร่: ไม่มีปัญหาหรอก นี่ใช้ลูกกลิ้งทาสีเอาสินะ ใช้ได้เลยนี่นา มีฝีมือศิลปะน่าดู อยากจะมาลองตัดชุดดูบ้างไหมล่ะ?


เคย์โตะ: หึ ฉันไม่คิดจะคล้อยตามงานอดิเรกของแกหรอกนะ อันที่จริง การติดตั้งเวทีแบบนี้ต้องให้ผู้รับเหมาเป็นคนทำแล้วล่ะ

แต่ตามข้อเสนอของอันสึแล้ว พวกเราจำเป็นจะต้องเตรียมการกันเอง

ให้ตายสิ มีแต่งานยุ่งยากเพิ่มขึ้นมาเต็มไปหมด ถึงจะช่วยทำให้ต้นทุนลดลงไปได้ก็เถอะ


คุโร่: ฮะฮะ แม่หนูคงจะคิดว่าการที่พวกเราเตรียมเวทีด้วยตัวเองมันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วล่ะมั้ง ก็ปกติมีแต่ประสบการณ์ดรีมเฟสแบบนั้นมาตลอดเลยนี่นา

การเริ่มสร้างอะไรจากศูนย์เนี่ย ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีเหมือนกันใช่ไหมล่ะ

จะเอาแต่เป็นผู้รับอยู่สบายๆอย่างเดียวไม่ได้หรอก ต้องเรียนรู้ของการทำงานเบื้องหลังด้วยเหมือนกันนะ พ่อหนู


เคย์โตะ: หึ ไม่ต้องถึงกับให้แกมาบอกหรอก ฉันคงจะลำพองใจกับตำแหน่งรองประธานมากไป จนลืมบรรยากาศของสถานที่จริงซะแล้วสิ...

ต้องใช้ลูกกลิ้งทาสีแบบนี้ ไม่สนุกเลยซักนิด


คุโร่: ดูมีชีวิตชีวาจังเลยนะ ฮาสึมิ จะว่าไปแล้วเอาแต่มาดูแลเรื่องสถานที่แบบนี้ พวกเราไม่ต้องไปฝึกร้องกับเต้นหรือไง?


เคย์โตะ: ก็ไม่ได้ถึงขนาดไม่จำเป็นหรอก ให้ตายสิ เป็นไปตามคาดในทางที่ไม่ดีจริงๆ

พอฝากให้อันสึทำงานวางแผนจัดการแล้วนึกว่าจะสบายขึ้นซะอีก ที่ไหนได้ ดันเหนื่อยมากขึ้นซะงั้น


โซมะ: ขออภัยที่เข้ามาขัดจังหวะ ฮาสึมิโดโนะ ข้าตัดไม้เรียบร้อยแล้ว ต่อไปให้ทำสิ่งใดดี?


เคย์โตะ: เหนื่อยหน่อยนะ งั้นช่วยทำงานไม้จากไม้ที่เพิ่งตัดเสร็จแล้วกัน


คุโร่: ไง คันซากิก็อยู่ด้วยเหรอ อาคัตสึกิพร้อมหน้าพร้อมตากันเลยนะ ถือโอกาสประชุมเรื่องเทศกาลทานาบาตะเลยไหมล่ะ?


เคย์โตะ: ก็ดีเหมือนกัน ประหยัดเวลาไปได้เยอะ แต่ว่าก็ยังไม่ได้ตัดสินใจกันนะว่าอาคัตสึกิจะแสดงในเทศกาลทานาบาตะหรือเปล่าน่ะ


คุโร่: มันก็ต้องแสดงอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง ทั้งชุด ทั้งเวที ส่วนใหญ่พวกเราก็ทำกันเองทั้งนั้น ถ้าให้เอาแต่ดูอย่างเดียวล่ะก็ฆ่ากันทั้งเป็นชัดๆ


โซมะ: ข้าเห็นด้วยกับคิริวโดโนะ น่าจะเป็นเพราะการวางแผนของอันสึโดโนะ เหมือนว่ายูนิตอื่นๆก็มารวมตัวกันด้วยแล้ว

ทั้ง "โทริคคุสึตา" และ "อันเดดโดะ" แม้แต่ "ไนซึ" ที่มักไม่รับงานมั่วซั่วก็เหมือนจะเข้าร่วมเลย

ในขณะที่ "ยูนิตโตะ" อันทรงพลังของโรงเรียนยูเมะโนะซากิกำลังมุ่งเข้าสู่สนามรบเช่นนี้ จะให้พวกเราอาคัตสึกิถูกทิ้งห่างแต่เพียงผู้เดียวได้อย่างไรกัน

เลือดมันชักจะพุ่งพล่านขึ้นมาแล้วสิ! เทศกาลทานาบาตะช่างน่าดูชมจริงๆเลย♪


คุโร่: ระวังอย่าตื่นเต้นเอาซะวันนี้ จนหมดแรงตอนถึงวันจริงซะล่ะ...  คันซากิน่ะ ชอบออกตัวนำบ่อยเกินไปตลอดเลย


เคย์โตะ: อืม อย่างที่คิริวว่านั่นล่ะ แต่ว่าถ้าเกิดพวกนายมีไฟล่ะก็ อาคัตสึกิก็จะเข้าร่วมด้วยไหมล่ะ

จะได้เป็นการย้ำเตือนให้เหล่านักเรียนได้รู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่งของขุมอำนาจที่เคยพ่ายแพ้มาแล้วอย่างพวกเราอีกซักครั้งเลย


คุโร่: ฮะฮะ แกเนี่ยก็บ้าดีเดือดกว่าที่คิดนะ ภายนอกเป็นตาแว่นดูสุขุมแท้ๆ แต่ว่าก็ไม่ชอบใจที่โดนหยามหน้าจริงๆนั่นล่ะ


โซมะ: อืม ถ้าหากเป็นอาคัตสึกิที่มีธีมเป็นวัฒนธรรมพื้นบ้านล่ะก็ คงจะเข้ากันดีกับทานาบาตะที่เป็นเทศกาลประจำปีเป็นแน่

เดี๋ยวข้าจะลองค้นคว้าเกี่ยวกับพิธี เพลง และการแสดงที่เกี่ยวกับทานาบาตะจากทั่วประเทศดูนะ


คุโร่: งั้นเหรอ ฮะฮะ เริ่มจะน่าสนุกขึ้นมาแล้วสิ

ถ้าวันทานาบาตะอากาศดีก็คงจะดีนะ อาจจะเร็วไปหน่อย แต่ว่าเขียนคำอธิษฐานในกระดาษว่า "ขอให้สภาพอากาศแจ่มใส" เอาไว้ก็แล้วกัน♪

เทศกาลทานาบาตะ - อธิษฐานต่อดวงดาว/ตอนที่ 1

 

(ณ โรงฝึกศิลปะการต่อสู้)

คุโร่: ขอโทษที่เรียกตัวมาแบบนี้นะ แม่หนู คงจะงานยุ่งน่าดูเลยสินะ

เอ้า ลองดูนี่สิ

ดรีมเฟสที่แม่หนูต้องจัดการเนี่ย... "เทศกาลทานาบาตะ" สินะ ฉันตัดชุดแรกเสร็จแล้วล่ะ

ถึงเธอจะยืนยันดีไซน์ให้แล้วก็จริง แต่ฉันว่ามาดูของจริงด้วยตาตัวเองน่าจะดีกว่าน่ะ

เป็นไงล่ะ แต่ฉันก็กะจะเพิ่มรายละเอียดให้มากกว่านี้อีกซักหน่อยนะ

ออกมาดูดีไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ ถึงจะฉูดฉาดไปหน่อยก็เถอะ... แต่ก็เป็นงานเทศกาลนี่นะ สภาพอากาศมันก็ต้องมืดๆอยู่แล้ว

ช่วงเวลาที่เปิดดรีมเฟสเอง ก็เหมือนจะเป็นตอนกลางคืนด้วย ให้ชุดมันออกโทนสว่างเอาไว้ก็ดีแล้วล่ะ

ไลฟ์ไปพร้อมกับชมทางช้างเผือกไปด้วยงั้นเหรอ ก็สมเป็นทานาบาตะดีนะ แต่ช่วงนี้มีแววว่าฝนจะตกด้วยสิ

ก็เลยทำให้ชุดมันกันน้ำไว้ เพื่อที่ถึงเปียกก็จะได้ไม่เป็นไรแล้วล่ะ

ถ้าเกิดไม่มีปัญหาอะไรล่ะก็ ไว้เดี๋ยวจะลองทำแพทเทิร์นอื่นๆดูบ้าง

ก็ในเทศกาลทานาบาตะ มียูนิตขึ้นแสดงหลายยูนิตเลยใช่ไหมล่ะ ถ้าเกิดชุดแบบเดียวกันไปหมด ผู้ชมก็แยกยูนิตไม่ออกกันพอดี

เป็นทานาบาตะทั้งที ก็อยากจะทำแนว "ฮิโกโบชิ" กับ "โอริฮิเมะ" น่ะ อย่างน้อยถ้าแยกออกเป็นสองแบบล่ะ่ก็ ตอนประชันไลฟ์กันจะได้แยกออกด้วย

ชุดของโอริฮิเมะ ก็ให้พวกน่ารักๆอย่าง Ra*bits เป็นคนใส่ไป

แต่ว่า ฉันไม่ค่อยมีหัวเรื่องน่ารักๆเท่าไหร่น่ะ

แม่หนูช่วยออกแบบให้หน่อยได้หรือเปล่า เดี๋ยวฉันจัดการเรื่องแบบแปลนกับการตัดเย็บเอง

แต่ว่า แม่หนูก็คงจะยุ่งอยู่ใช่ไหมล่ะ?

หืม? จะช่วยออกแบบให้เหรอ ขอบใจนะ กระตือรือร้นจริงๆเลยนะแม่หนูเนี่ย

ก็นี่เป็นงานใหญ่ครั้งแรกของเธอในฐานะโปรดิวเซอร์เลยนี่นะ

ไม่ใช่ดรีมเฟสที่เป็นไปตามระเบียบแบบแผนของสภานักเรียน แต่เป็นของแม่หนูที่เป็นผู้ผลิกโฉมโรงเรียนยูเมะโนะซากินี้ไงล่ะ

ทุกคนตั้งตารอชมเทศกาลทานาบาตะอยู่นะ แน่นอนว่าฉันก็เหมือนกัน

แต่ก็อย่าฝืนตัวเองล่ะ เพราะมีพวกที่จะคอยบุกน้ำลุยไฟเพื่อช่วยเหลือแม่หนูอยู่เพียบเลยล่ะ

พึ่งพาคนอื่นเถอะนะ ฉันเองก็จะตัดชุดนี่ให้ออกมาสมบูรณ์แบบด้วยเหมือนกัน


คุโร่: เรื่องนั้นไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แล้วสินะ แต่ขอบใจนะที่วางใจให้ฉันเป็นคนตัดชุดน่ะ

ไอเดียมันหลั่งไหลออกมาเรื่อยๆจนหยุดไม่อยู่เลยล่ะ

เจ้าฮาสึมิเองก็ชมเหมือนกันนะ บอกว่าดูไม่ออกเลยว่าเพิ่งเคยวางแผนเป็นครั้งแรก

ถึงจะเป็นการเลียนแบบดรีมเฟสที่เคยจัดขึ้นมาในอดีตก็จริง แต่ก็เห็นถึงความเป็นตัวของตัวเองอยู่ด้วยเหมือนกัน

...เป็นอะไรไป สีหน้าดูไม่ดีเลยนะ กลัวว่าเทศกาลทานาบาตะจะไปได้สวยหรือเปล่างั้นเหรอ

หรือว่าจะเหนื่อยที่ต้องวิ่งวุ่นเตรียมงานอยู่ทุกวันกันล่ะ?

เอ้าๆ ไม่เป็นไรหรอก จากนี้ไปอาจจะถูกไหว้วานให้ทำงานวางแผนแบบนี้อีกก็ได้ ลำบากในตอนนี้เอาไว้ก่อนเถอะ

ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ มันก็จะกลายเป็นประสบการณ์ให้แม่หนูแน่

ถ้าไม่ไหวขึ้นมาจริงๆล่ะก็ จะมาพึ่งพาฉันก็ได้นะ

โอ๊ะ ออกแบบเสร็จแล้วเหรอ ไหนขอดูหน่อยซิ แม่หนูนี่งานเร็วจริงๆเลยนะ... ไม่ต้องอายไปหรอกน่า ขอดูหน่อย ไม่มีใครเค้าหัวเราะเยาะหรอก

โอ๊ะ น่ารักดีนะ อย่างฉันคงออกแบบไม่ได้แหงๆ...

แต่ว่ามันออกจะดูเป็นเด็กผู้หญิงไปหน่อยหรือเปล่า ถ้าให้น้องสาวฉันใส่ก็คงจะดีใจอยู่หรอก แต่จะมีผู้ชายคนไหนยอมใส่หรือเปล่านะ

อา ไม่ได้บอกว่าใช้ไม่ได้หรอกนะ เดี๋ยวจะลองตัดจากดีไซน์นี้ดู

ถ้าตัดเสร็จแล้วเดี๋ยวจะเรียกนะ ช่วยพาใครก็ได้ใน Ra*bits มาทีสิ

ถ้าเป็นเจ้าพวกนั้นล่ะก็น่าจะใส่เข้านะ ถ้าช่วยลองชุดให้ล่ะก็จะดีมากเลย

จะให้แม่หนูลองชุดก็ได้อยู่หรอกนะ แต่ยังไงรูปร่างของผู้ชายกับผู้หญิงมันก็ต่างกันนั่นล่ะ

ส่วนฉันใส่ไม่ได้หรอก ไซส์ก็ไม่พอดีตัว แถมยังไม่เข้ากับของน่ารักๆอีก

.....หืม? ข้างนอกเอะอะจังนะ เท็ตสึที่ออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งกลับมาแล้วเหรอ?

อ้อ เท็ตสึที่อยู่ในชมรมคาราเต้ของฉันเป็นพวกซุ่มซ่ามน่ะ ก็เลยพยายามไม่เข้ามาอยู่ใกล้ๆตอนที่กำลังตัดชุด

พอหมอนั่นบอกว่าจะช่วย สุดท้ายก็เผลอทำผ้าฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยตลอดเลย

แถมถ้าฉันดุจนหมอนั่นเกิดหงอยไปล่ะก็น่าสงสารแย่


โทโมยะ: หยุดนะะะ! แกนะแก วันนี้ล่ะ ไม่ปล่อยให้หนีไปแน่!


มิตสึรุ: ละ... ไล่ตามมาทำไมล่ะเนี่ย โทโมะจัง! เพราะฉันเป็นซุปเปอร์สตาร์เหรอ หรือเพราะคาริสม่าที่เอ่อล้นของฉันมันดึงดูดกัน!?


คุโร่: เฮ้ย เอะอะอะไรกันเนี่ย ก่อนจะเข้าโรงฝึกต้องโค้งคำนับก่อนครั้งนึงนะ แล้วก็ต้องถอดรองเท้าด้วย ให้ตายสิ เสียมารยาทจริงๆเลย


โทโมยะ: เหวอ คิคิ.. คิริวเซ็มไปจากชมรมคาราเต้!?

ขะ... ขอโทษด้วยครับ! เพราะนายเลยโดนโกรธเลยเนี่ยมิตสึรุ! เพราะนายเอาแต่หนีวิ่งพล่านไปทั่วนั่นล่ะ~!


มิตสึรุ: เอ๋~? ถ้าโทโมะจังไม่ไล่ตามมาล่ะก็ ฉันก็ไม่หนีหรอกน่า! ฮึ้ม ฮึ้ม!


คุโร่: อา จะยังไงก็ช่างเถอะ มีเรื่องอะไรล่ะ ตอนนี้กำลังทำงานอยู่ อย่ารบกวนนักได้หรือเปล่า แล้วฉันก็ไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรหรอก


โทโมยะ: อ๋า ต้องขอโทษที่รบกวนจริงๆนะครับ!

อ๊ะ อันสึซัง! เมื่อกี๊นี่จังกำลังตามหาตัวอยู่เลยครับ เห็นว่าอยากจะปรึกษาเรื่องเพลงประกอบ กับเพลงที่จะใช้ในงานเทศกาลทานาบาตะน่ะ!


คุโร่: ฮะฮะ งานยุ่งจริงๆเลยนะโปรดิวเซอร์ เอ้า ไปสิ เดี๋ยวฉันจะตัดชุดให้เสร็จเอง


มิตสึรุ: หึหึหึ จังหวะนี้ล่ะ... แดชหนีไปเลยดีกว่า บรื้นนน~☆


คุโร่: ฮึ้บ ก็บอกว่าอย่าใส่รองเท้าวิ่งในโรงฝึกไง ไร้มารยาทจริงๆนะ ไม่รู้หรอกว่ามีเรื่องอะไร แต่ถ้านายเป็นลูกผู้ชายล่ะก็อย่าหนีสิ


มิตสึรุ: งือ~! ขยับไม่ได้อ่ะ พอโดนหิ้วหลังคอแล้วรู้สึกเหมือนทั่วทั้งร่างกายมันอ่อนแรงขึ้นมาเลย!


โทโมยะ: อา ขอบคุณมากครับคิริวเซ็มไป! เอ้า ไปหาพวกนี่จังกันได้แล้ว

ให้ตายสิ ทุกคนเค้าเป็นห่วงกันแทบแย่เลยนะ? ช่วงนี้นายแปลกๆไปหรือเปล่า?


มิตสึรุ: งืออออ~ พวกโทโมะจินไม่เกี่ยวซักหน่อย! นี่เป็นปัญหาของฉันนะ ช่วยเมินๆไปทีได้หรือเปล่า~?


โทโมยะ: (โถ่ ถึงจะพูดแบบนั้นแต่จะให้ปล่อยไปได้ยังไงกันเล่า ก็เราเป็นทั้งเพื่อน และ Ra*bits เหมือนกันนี่นา ทำตัวห่างเหินจังเลยนะ มิตสึรุ)

(ถ้ามีปัญหาล่ะก็มาพึ่งพากันบ้างก็ได้แท้ๆ ถึงพวกเราอาจจะทำประโยชน์อะไรให้ไม่ได้ก็เถอะ แต่ก็ยังพอช่วยให้คำแนะนำได้นะ)

(...พอคิดดูแบบนั้นแล้ว อันสึซังเนี่ยสุดยอดไปเลยนะ ทั้งถูกพึ่งพาจากทุกๆคน แถมยังได้รับฝากฝังให้ทำงานใหญ่อีก)

(ทุกคนต่างรักอันสึซัง ไม่ใช่แค่เพราะเป็นโปรดิวเซอร์หรอกนะ เรียกว่าเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวหรือเปล่า?)

(ทั้งที่เมื่อตอนที่พบกันครั้งแรกในเดือนเมษายน... ยังรู้สึกว่า "ธรรมดา" เหมือนเราเลยแท้ๆ)

(กลายเป็นคนที่สุดยอดผิดหูผิดตาไปเลยนะ)

(ฉันกับอันสึซัง แตกต่างกันตรงไหนนะ น่าอิจฉา ไม่สิ น่าชื่นชมจริงๆเลย)

(ฉันเองก็จะเอาอันสึซังเป็นแบบอย่าง แล้วก้าวไปข้างหน้าอีกซักก้าวดีกว่า! พยายามเติบโตให้มากกว่านี้อีก!)

(เพื่อการนั้นแล้ว ก่อนอื่นก็ต้องจัดการปัญหาของมิตสึรุ... ของพวกเรา Ra*bits ให้ได้ซะก่อนล่ะนะ)

Obbligato - ศรัทธาต่อคาเซฮายะ ทัตสึมิ/ตอนที่ 4

  <เวลาเดียวกัน ห้องโหลยโท่ยของโรงเรียนเรย์เมย์> ทัตสึมิ: ーครับ เท่านี้ก็ไม่เป็นไรแล้วล่ะ คานาเมะ: ......... ทัตสึมิ: ผมขอให้ทุกคนออกไ...