(ณ ห้องสภานักเรียน)
เอย์จิ: เหมือนจะออกนอกเรื่องไปนิดหน่อยนะ ตอนนี้พวกเธออาจจะยังไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูดไป แต่ก็ช่วยเก็บไปคิดดีๆล่ะ
ผมอยากให้พวกเธอร่วมสร้างประโยชน์ เพื่อวงการไอดอลในอนาคตด้วยเหมือนกัน
โฮคุโตะ: จะบอกว่าให้พวกเราเป็นทหารของคุณงั้นเหรอ.... ท่าน "จักรพรรดิ"
เอย์จิ: ไม่ใช่ของผมหรอก แต่เป็นทหารของวงการไอดอลมากกว่า หรือจะพูดให้ถูกก็คือข้ารับใช้น่ะ
เป็นข้ารับใช้ผู้แสนสุข ที่คอยรับใช้ด้วยความยินดีน่ะ
ผมคอยคิดการณ์ไกล และระบบเอาไว้แล้ว ไม่ได้สนใจเรื่องของการแพ้ชนะหรอก
เพื่อไม่ให้ตัวตนที่เรียกว่าไอดอลนั้นจบลงเพียงแค่เป็นการทะเลาะวิวาทถือตัวอวดดีอยู่แต่ภายในประเทศ ผมจึงอยากจะวางรากฐานให้มันกลายเป็นดั่งศิลปะการต่อสู้ ดั่งฮีโร่ ดั่งวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ที่จะต้องถูกจารึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์
ผมน่ะ ยกไอดอลเอาไว้สูงเหมือนเป็นวัฒนธรรม... ไม่สิ เป็นสิ่งที่เหนือชั้นยิ่งกว่านั้นขึ้นไปอีก
และอยากให้พวกเธอในเรื่องนั้นด้วยเหมือนกัน ถ้าเป็นพวกเธอที่มีพรสวรรค์และความสามารถล่ะก็ต้องทำได้แน่ จะต้องมอบผลลัพธ์อันยิ่งใหญ่ได้อย่างแน่นอน
เพราะคาดการณ์ไว้เช่นนั้น ถึงได้เรียกมาแบบนี้ไงล่ะ
ฮิดากะคุง ผมเสนอเรื่องนี้ไปให้ผู้ปกครองของเธอแล้วล่ะ เหมือนว่าพวกท่านจะสนับสนุนเสียด้วย ถ้าระแวงผมอยู่ล่ะก็ไปยืนยันกับทางพวกท่านได้เลยนะ
ต้องเลิกทำเป็นเล่น และก้าวเข้าสู่สมรภูมิของจริงได้แล้วล่ะ
โฮคุโตะ: มะ ไม่เกี่ยวกับผู้ปกครองจะว่ายังไงซักหน่อย ถ้าเป็นพ่อแม่ของฉันที่เป็นพวกชอบอะไรที่เป็นระบบแบบแผน ก็คงจะต้องเห็นด้วยกับความคิดของคุณอยู่แล้วล่ะ
เพราะฉันไม่อยากจะเป็นฟันเฟืองที่ไร้หัวใจ ถึงได้มาปฏิบัติหน้าที่ในฐานะของ Trickstar
เอย์จิ: นั่นก็แค่เพราะอยู่ในวัยต่อต้านเท่านั้นล่ะ โตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้วล่ะฮิดากะคุง
ช่วงเวลาวัยรุ่นนั้นแสนสั้น พอเริ่มเหนื่อยล้าจนขยับไม่ไหว จะเสียใจก็สายไปแล้ว
การแข่งขันได้เริ่มขึ้นแล้ว ผู้ที่ยังยืนอยู่นั้นต้องงัดทุกอย่างที่มีออกมาใช้ ไม่เว้นแม้แต่พ่อแม่ของตัวเอง
ทั้งที่มีสภาพแวดล้อมที่เพรียบพร้อม และใช้ประโยชน์ได้ขนาดนี้แท้ๆ จะยอมปล่อยให้มันเปล่าประโยชน์ไปเหรอ?
โฮคุโตะ: ...........
เอย์จิ: แน่นอนว่าต้องมีสิ่งตอบแทนให้อยู่แล้วล่ะ ก็ผมขอให้พวกคุณสละช่วงเวลาวัยรุ่นอันมีค่า และวันเวลายามเยาว์วัยของพวกเธอ เพื่อผมเลยนี่นา
นั่นสินะ ก็เลยเตรียมเงินที่จำนวนสมน้ำสมเนื้อมาให้แล้วล่ะ นั่นสินะ เอาเป็นคนละสิบล้านเยนเป็นไง?
โฮคุโตะ: คิดจะใช้เงินซื้อพวกเรางั้นเหรอ?
เอย์จิ: เรียกว่าเป็นการลงทุน ไม่สิ เป็นรางวัลอันคู่ควรแก่ความพยายามต่างหากสินะ
ถึงจะชนะการทะเลาะวิวาทไปซักเท่าไหร่ อย่างมากก็แค่ทำให้อารมณ์ดีขึ้นเท่านั้น แต่ทหารจะได้กำไรกลับคืนมาตามแต่ละบุคคลไงล่ะ
อาเคโฮชิคุง รู้สึกว่าเธอจะชอบเงินสินะ ถ้างั้นก็คงจะใช้เงินจัดการง่ายหน่อย ช่วยตอบตกลงให้กับเงินสิบล้านเยนนี้ได้หรือเปล่าล่ะ?
ถึงจะเป็นจำนวนเงินค่าจ้างเพียงเล็กน้อยสำหรับท็อปไอดอลก็จริง แต่สำหรับคนที่ยังไม่ได้สร้างผลสำเร็จอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแล้วก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่มากโขทีเดียว
ช่วยรับไว้ด้วยเถอะนะ ถือเป็นหลักฐานความคาดหวังของผมที่มีต่อเธอไงล่ะ
สุบารุ: อย่ามาเหลวไหลน่า
ถึงฉันจะชอบเงินก็จริง แต่เงินของนายมันไม่เปล่งประกายเลยซักนิด!
เอย์จิ: ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่เลย หรืออยากจะให้จ่ายเป็นเหรียญเงิน ทองคำ หรืออัญมณีกันล่ะ?
เอาเถอะ ผมก็ได้เสนอเงื่อนไขไปแล้ว ส่วนคนที่จะตัดสินใจว่าจะรับข้อเสนอของผมหรือไม่ ก็คือตัวของพวกเธอเอง
จะให้ฝืนบังคับก็ได้อยู่หรอก ถ้าพวกเธอสัมผัสได้ถึงความจริงใจของผมที่ไม่ทำแบบนั้นไปล่ะก็ จะดีใจมากเลย
ช่วยคิด ให้รอบคอบด้วยนะ
จริงสิ ต่อจากนี้จะมีดรีมเฟสที่ fine ของผมจะเข้าร่วมด้วยพอดี
อยากให้พวกเธอมาดูให้ได้เลยนะ ยังไงก็เป็นการแข่งขันขาจรแบบไม่เป็นทางการ.... หรือก็คือ B1 ด้วย ไม่ต้องซื้อตั๋วก็เข้าชมได้อยู่แล้วล่ะ
มามองดูพลังที่แท้จริงของผม แล้วเลือกว่าจะยอมเป็นพวกกัน.... หรือจะยังดิ้นรนขัดขืนอยู่
แล้วผมก็มีเรื่องที่จะประกาศอยู่นิดหน่อยด้วย ถึงมาดูก็ไม่เสียเที่ยวแน่นอน
ผมคาดหวังการตัดสินใจอันชาญฉลาดอยู่นะ การตัดสินใจของพวกเธอที่ยังไม่ได้เป็นซึ่งสิ่งใดน่ะ
แต่ว่า ผมไม่รอนานนักหรอกนะ ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็จะขอพูดทวนซ้ำ ว่าช่วงเวลาวัยรุ่นนั้นแสนสั้นนัก แต่ว่าชีวิตคนเรานั้นมีค่าเกินกว่าจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์แม้ซักวินาทีเดียวก็ตาม
ถ้าเกิดว่าจะต้องจบลงโดยที่ได้แต่สร้างความโกลาหลเพียงอย่างเดียวล่ะก็ ช่างสูญเปล่านัก
ที่นี่คือทางแยกของชีวิตสำหรับพวกเธอไงล่ะ ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนว่าจะเลือกไปยังเส้นทางใดกันดี เพราะสิ่งที่ต้องพบเจอจากนี้ไม่ใช่ความฝันอันครุมเครือ แต่คือความเป็นจริงอันโหดร้ายที่ต้องมีชีวิตอยู่ร่วมกับมันไงล่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น