(ณ การ์เด้นเทอแรนซ์)
วาตารุ: Amazing! เอาล่ะ ไม่ต้องกลัวไปนะครับ~ ปล่อยกายปล่อยใจไปกับผมนะ~?
คุณคือทารกแรกคลอด จงลืมเลือนสติและเหตุผลแล้วปล่อยทุกอย่างตามความรู้สึกไปเสีย~♪
มองที่เหรียญห้าเยนนี่สิครับ แล้วคุณจะค่อยๆเริ่มง่วงขึ้นมา...♪
นึกให้ออกสิครับ ความรู้สึกสมัยเป็นเด็กทารกที่หลับไหลภายใต้อ้อมกอดอันนิ่มนวลของมารดา! ไม่สิ สมัยที่ยังคงอยู่ในครรภ์น่ะครับ...♪
โซมะ: ขะ... ข้า... ข้าคือทารก... บาบู้ บาบู้...♪
วาตารุ: ใช่แล้วล่ะครับ~ แบบนั้นล่ะ~ Amazing...♪
เอย์จิ: ...ทำอะไรมาตั้งแต่เมื่อกี๊แล้วน่ะ วาตารุ?
โทริกับยูซึรุกำลังเตรียมงานเลี้ยงน้ำชาอยู่ ช่วยหยุดเล่นพิเรนทร์จนกว่าพวกเขาจะเตรียมกันเสร็จทีนะ
บางทีเด็กพวกนั้น ก็ติดคำพูดและการกระทำของเธอมาด้วยน่ะ
วาตารุ: โอ๊ะ อย่าเพิ่งมากวนนะครับเอย์จิ ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงสำคัญเลย โปรดรอซักครู่นะ ผมต้องรวบรวมสมาธิในการสะกดจิตเขาน่ะ...♪
สะกดจิต? เธอเนี่ยรู้วิชาเยอะจังเลยนะ แทบจะใช้ได้กระทั่งเวทมนต์แล้วล่ะมั้งเนี่ย
วาตารุ: การสะกดจิตมันก็คือศาสตร์การแพทย์นั่นล่ะครับ จุดขายของผมก็คือความสารพัดประโยชน์นี่นา!
นี่เองก็เป็นหนึ่งในทักษะที่มีอยู่มากมายเทียบเท่ากับกิเลศตัณหาของผม... ถึงจะไม่ค่อยได้ใช้ก็เถอะครับ
วิชาของผมใช้ไม่ได้ผลกับนักเรียนของโรงเรียนยูเมะโนะซากิที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง... ไม่สิ มีคาแรกเตอร์ล้ำลึกเท่าไหร่น่ะครับ
แต่ว่าเด็กคนนี้ ค่อนข้างเถรตรง หรือต้องบอกว่าไร้เดียงสาน่ะครับ~♪
ก็เลยสะกดจิตได้อย่างง่ายดายเลย เป็นวัตถุดิบที่น่าสนใจจริงๆเชียว จะช่วยดึงความทรงจำจากชาติก่อนให้ด้วยเลยก็แล้วกัน...☆
เอย์จิ: อย่าทำเหมือนคนเค้าเป็นของเล่นสิ แถมยังเป็นเด็กจากยูนิตนั้นอีก ถ้าเกิดอะไรขึ้นล่ะก็ไม่จบแค่เลือดตกยางออกแน่?
วาตารุ: ถือว่าเป็นการลงโทษที่ถือดาบพุ่งเข้ามาจู่โจมเฉยๆนั่นล่ะครับ ไม่แตะต้องไปถึงจิตใจส่วนลึกหรอก ไม่ได้มีสิทธิอะไรถึงขนาดนั้นนี่นา
ไม่ว่าจะผม หรือใครก็ตามน่ะนะ...♪
เอย์จิ: ก็ได้อยู่หรอก แต่ทำอะไรให้มันพอเหมาะพอควรด้วยนะ แล้วถึงจะไม่ต้องใช้การสะกดจิต ผมก็พอจะมองเหตุผลที่เขาพุ่งเข้ามาทำร้ายออกแล้วล่ะ
แต่การจะทำการยืนยันเหตุผลอีกที ก็ใช่ว่าจะเสียเวลาอะไรหรอก
วาตารุ: หุหุหุ! กิริยาท่าทางราวกับทุกสิ่งทุกอย่างอยู่บนฝ่ามือเลยนะครับ นั่นล่ะถึงจะเป็นองค์จักรพรรดิ...☆
เอย์จิ: แค่อยากรักษาเวลากับเรี่ยวแรงเอาไว้นั่นล่ะ ก็ผมไม่ค่อยจะมีทั้งสองอย่างเลยนี่นา
วาตารุ: ไม่ต้องถ่อมตนไปหรอกครับ อย่างไรมนุษย์ก็มีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงสองร้อยปี อย่างน้อยก็สนุกไปกับความฝันอันแสนสั้นดีกว่าเถอะครับ
เอาเป็นว่า สะกดจิตเสร็จแล้ว ตอนนี้ไม่ว่าจะถามอะไร เด็กคนนี้ก็คงจะตอบหมดล่ะครับ
แน่นอนว่าอาจจะมีความเข้าใจผิดของเขา และคำโกหกปนเปเข้ามาจนขาดความถูกต้องไปบ้างก็เถอะ
เอย์จิ: ก็นั่นเป็นการสะกดจิตนี่นะ เคยอ่านเจอในหนังสืออยู่... เออ คันซากิคุงสินะ อยากจะขอยืนยันอะไรซักอย่างนึงหน่อยน่ะ
ที่มาโจมตีพวกผม เป็นความตั้งใจของเธอเหรอ? หรือว่าเคย์โตะสั่งมาล่ะ?
โซมะ: ข้าน่ะ...
ข้าจะต้องกำจัด เจ้าเผด็จการ... เท็นโชอิน เอย์จิ ที่ทำให้ฮาสึมิโดโนะต้องเจ็บปวด...
ไม่ยอมให้ยุบอาคัตสึกิหรอก ข้าน่ะ ข้าน่ะ จะเป็นผู้ปกป้องอาคัตสึกิเอง
เอย์จิ: อืม ก็เป็นไปตามที่คาดนั่นล่ะ เด็กคนนี้ก่อเรื่องด้วยตัวเองสินะ...
น่าเบื่อจัง ถ้าเคย์โตะเกิดคิดอยากจะหมายหัวผมขึ้นมาจริงๆก็คงจะดีแท้ๆ
โซมะ: ฮาสึมิโดโนะเป็นผู้ทรงคุณธรรม ไม่ปรารถนาการนองเลือด ทั้งหมด ข้าทำเองโดยพลการ
แล้วที่จริงข้าเอง ก็อยากจะลองฟันคนด้วยดาบญี่ปุ่นดูนิดหน่อยด้วย...♪
เอย์จิ: ประโยคหลังจะทำเป็นไม่ได้ยินแล้วกันนะ อืม... พอได้แล้วล่ะ วาตารุช่วยคลายสะกดจิตหน่อยสิ?
แบบนี้ก็คุยโต้ตอบกันไม่ได้น่ะสิ ถ้าไม่ทำให้เด็กคนนี้เข้าใจล่ะก็เดี๋ยวจะถูกจู่โจมอีกซ้ำๆซากๆแน่?
วาตารุ: ช่วยไม่ได้นะครับ ออกจะสนุกแท้ๆเชียว เมื่อนับ อัน เดอร์ ทรัวส์(1 2 3 แบบฝรั่งเศษ) แล้ว คุณจะกลับมาเป็นปกตินะครับ...เอ้า☆
โซมะ: ...หะ นี่ข้าเป็นอะไรไป!? กะ...แก! ทำอะไรกับข้ากัน!?
เอย์จิ: ใจเย็นหน่อยสิ ถึงจะอิจฉาความตรงไปตรงมานั้นอยู่ก็จริง แต่เธอน่าจะมีวิสัยทัศน์ให้กว้างไกลกว่านี้ซักหน่อยนะ
คิดว่าการจู่โจม เพื่อสังหารผมเนี่ย จะทำให้เคย์โตะยินดีงั้นเหรอ?
เยือกเย็นแล้วมาคุยกันหน่อยเถอะ ความสามารถอย่างเธอน่ะถึงจะบุกเข้ามาซักกี่ร้อยครั้ง ก็ถูกวาตารุหรือยูซึรุหยุดไว้ได้อยู่ดี เมื่อ fine อยู่รวมตัวกันครบ ก็ไม่มีใครบนโลกนี้ที่ทำอะไรเราได้หรอก
วาตารุ: โปรดวางใจเถิดองค์จักรพรรดิ! ผมได้มัดจอมโจรผู้นี้เอาไว้อย่างแน่นหนาแล้ว แม้จะเป็นฮิคิ* เทนโกะ ก็ไม่อาจหลบหนีไปได้หรอก! (ฮิคิตะ เทนโกะ ยอดนักมายากลหญิงของญี่ปุ่น)
อา อยากได้วิชาเช่นนั้นบ้างจังเลย...☆
เอย์จิ: นี่เธอมุ่งหวังอะไร ถึงได้เอาแต่เรียนรู้ทักษะที่ไม่จำเป็นต่อไอดอลแบบนั้นกันล่ะเนี่ย...?
แต่เอาเถอะ อิสระนั่นล่ะก็คือตัวเธอ เพลิดเพลินไปกับชีวิตให้เต็มที่เถอะนะ ผมอิจฉาเธอจริงๆเลย
เอาล่ะ คันซากิคุง ใกล้จะเตรียมชาเสร็จแล้วล่ะ มาดื่มแล้วพูดคุยอย่างผ่อนคลายกันเถอะ
ถ้าเข้าใจเป้าหมายของผมล่ะก็ เธอเองก็จะยอมเป็นเพื่อนกับผมด้วยหรือเปล่านะ
โซมะ: อึก ไม่ต้องทำเป็นพูดดี! ว่ามาตามตรงเลยดีกว่า!
เหตุใดจึงต้องยุบอาคัตสึกิของพวกเราด้วย จนกว่าจะอธิบายให้ยอมรับได้ ไม่ว่าจะกี่ครั้งกี่หนข้าก็จะหมายหัวแกต่อไปนั่นล่ะ...!
เอย์จิ: พวกหัวโบราณเนี่ย ป่าเถื่อนจังเลยนะ...
จริงอยู่ที่พวกเธออาคัตสึกินั้น เป็น No.2 ของโรงเรียนยูเมะโนะซากิรองจากพวกผม fine การที่จะต้องยุบนั้น ไม่ทำให้ผมหรือใครได้ประโยชน์ขึ้นมาหรอก
ถึงพวกเธอจะสิ้นท่าให้ Trickstar มาหลายต่อหลายครั้งก็เถอะ...
แต่ก็มีผลงานมากมายเลยล่ะ แฟนคลับก็เยอะ ที่ได้ชื่อว่าเป็น No.2 น่ะ ไม่ได้ได้มาเล่นๆหรอก พวกเธอมีคุณค่าอยู่นะ
แต่ว่าเพราะแบบนั้น ผมถึงได้ไม่เข้าใจ
ทำไมอาคัตสึกิ ถึงพอใจกับการเป็นแค่ No.2 กันล่ะ
ขอพูดใหม่ก็แล้วกัน ทำไมเคย์โตะถึงไม่เข้ามาท้าทายผมกันล่ะ ทำไมอาคัตสึกิถึงหลบเลี่ยงที่จะต่อกรกับ fine ทั้งที่มีทั้งสิทธิ และความสามารถมากพอแท้ๆ
ทั้งที่ผมน่ะ เฝ้ารอคอยวันที่จะได้วันที่จะได้ทะเลาะเบาะแว้งอย่างเต็มที่กับเคย์โตะ... มาตลอดตั้งแต่เป็นเด็กๆแล้วแท้ๆ
ถ้าเกิดว่าเคย์โตะ ยังคิดว่าผมเป็น "คุณหนูขี้โรคที่ทำอะไรไม่ได้" อยู่ล่ะก็ ถ้าเขายังเห็นใจ และเกรงใจผมอยู่ล่ะก็...
ถึงตายไป ผมก็ไม่มีวันให้อภัยเคย์โตะหรอก
เรื่องในคราวนี้มันก็แบบนั้นล่ะ ผมน่ะ อยากจะเป็นเพื่อนกับเคย์โตะอย่างเท่าเทียม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น