(ณ โซนแผงลอยของเทศกาลวิวาทะ)
โซมะ: หืม? ทุกคน ดูนั่นสิ!
สิ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางฝูงชนนั่น คือศาลเจ้ามิโคชิมิใช่หรือ? ส่วนยอดของมัน เหมือนจะเป็นเวทีด้วย!
เคย์โตะ: อืม ไม่ผิดแน่ ดูดีทีเดียวเลยล่ะ... ไอ้นั่นมันจะขยับจริงๆเหรอเนี่ย?
ช่างเถอะ รีบไปกันเร็ว แต่ว่าคนแน่นซะจนขยับตัวแทบไม่ได้เลยแฮะ ระวังหกล้มจนชุดเปื้อนล่ะ
โซมะ: ฮาสึมิโดโนะ! ข้าควรจะฟันฝูงคนพวกนี้เพื่อเปิดทางหรือเปล่า?
คุโร่: เฮ้ยๆ ความป่าเถื่อนน่ะเกิดขึ้นแค่บนเวทีก็พอแล้วน่า ทำไมนายถึงได้เลือดร้อนขนาดนั้นกัน
เด็กจริงๆเลย ทำตัวสงบเสงี่ยมหน่อยเถอะ
แต่ว่า ไอ้ฉันหรือคันซากิน่ะไม่เท่าไหร่หรอก นายท่านฮาสึมินั่นล่ะที่ต้องระวังเอาไว้
อากาศมันอบอ้าวมากเลยนะ ถ้าโดนคลื่นมนุษย์ซัดจนล้มแล้วโดนเหยียบซ้ำเข้าล่ะก็ ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์แน่
โซมะ: หึหึ ฮาสึมิโดโนะเองก็ควรจะฝึกฝนร่างกายให้มากขึ้นเช่นพวกเรานะ♪
เคย์โตะ: ก็ฝึกอยู่บ้างน่า อย่าพูดเหมือนผู้ชายที่โตเต็มวัยแล้วอย่างฉันอ่อนแอสิ พวกแกต่างหากล่ะที่แปลก เจ้าพวกก้อนกล้ามเนื้อเอ้ย
(เอย์จิเองก็ขี้โรคเหมือนกัน การถูกฉันหรือคนรอบข้างหาว่าอ่อนแออยู่ตลอดเนี่ย... คงจะไม่ชอบเหมือนกันสินะ)
(หมอนั่นเอง ก็เป็นผู้ชายนี่นะ ต้องสำนึกซะแล้วสิ เพราะนั่นเป็นสาเหตุของเรื่องวุ่นวายในครั้งนี้นี่นา)
(จะไม่ดูแคลนอีกแล้วล่ะ... ไม่สิ ที่ผ่านมาฉันตั้งใจที่จะเคารพ และยอมรับในตัวของเอย์จิแล้วนะ...)
(แต่ยังไงเอย์จิก็คงมีความรู้สึกขุ่นเคืองอยู่บ้างไม่มากก็น้อยนั่นล่ะ)
(หลังจากทุกอย่างจบลงแล้ว ไปขอโทษหมอนั่นดีกว่า)
(แกน่ะ สามารถยืนหยัดและเดินต่อไปได้ด้วยตัวเองแล้วสินะ ถ้างั้นจะจับเทศน์ที่ดันทำเรื่องบ้าบอให้เต็มที่... โดยไม่เกรงใจเลยก็แล้วกัน)
(ไม่สิ ลองทะเลาะกันดูดีกว่า เอย์จิ เหมือนกับเด็กผู้ชายตัวเล็กๆน่ะ)
(ฉันจะไม่ลังเลอีกแล้ว จะไม่เป็นห่วงแกด้วย ไม่ดูถูก ไม่เหยียดหยาม และจะเผชิญหน้าด้วยกายใจทั้งหมดที่มี)
(เพราะในที่สุดฉันก็ได้เข้าใจแล้วไงล่ะ ว่านั่นคือความปรารถนาของแก)
(อาคัตสึกินั้น ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องเอย์จิจากภัยอันตรายภายนอกต่างๆทั้งมวล)
(แต่ว่าในช่วงเวลานี้ หน้าที่นั้นได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว พวกเราจะหลอมรวมไปกับความคึกคักของงานเทศกาล และปลดปล่อยตนเองออกมา)
(เหมือนว่านายจะชอบคนที่ยอมแลกหมัดด้วย มากกว่าคนที่คอยตามต้อยๆสินะ)
(ฉันเอง ก็ได้พบเจอสิ่งที่สำคัญทัดเทียมหรือเหนือยิ่งกว่าแกแล้วล่ะ แกเองก็คงจะเจอแล้วเหมือนกันใช่ไหมล่ะ สิ่งที่เปล่งประกายนั่นน่ะ)
(จากโรงเรียนยูเมะโนะซากิแห่งนี้)
(สำแดงมันออกมาให้เห็น แล้วจงภูมิใจเถอะ สหายเอ๋ย สิ่งที่พวกเราเคยขาดไป ก็คือ "สิ่งนั้น" ไม่ใช่เหรอ?)
คุโร่: นายท่าน ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมถึงมีทีท่าพึงพอใจซะตั้งแต่ก่อนเริ่มแสดงแบบนี้ แต่โทษทีนะที่ขัดจังหวะ
เพราะว่าเราซ้อมกันนานไปหน่อย ตารางก็เลยช้ากว่ากำหนดน่ะ ไม่มีเวลามาสบายใจเฉิบแล้วนะ?
อาจจะงานหยาบไปหน่อย แต่เดี๋ยวจะพาไปยันเวทีศาลเจ้ามิโคชิเลยนะ
ระวังแค่อย่าเผลอกัดลิ้นตัวเองก็พอ ถ้ากัดลิ้นจนพูดไม่ได้ขึ้นมา เดี๋ยวจะร้องเพลงไม่ได้เอา
แต่อย่างนายเนี่ย... คงจะทำให้เครียดสะสมเพราะเทศน์ไม่ได้ซะมากกว่า?
เคย์โตะ: หืม? หมายความไง แกจะทำอะไ...
เหวอ!?
โซมะ: โอ้ ฝีมือล้ำเลิศนัก! สมแล้วที่เป็นคิริวโดโนะ โยนฮาสึมิโดโนะไปได้แบบสบายๆเลย~☆
หึหึหึ! แม้ข้าจะเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้มาเช่นกัน แต่ยังเทียบความแข็งแกร่งของคิริวโดโนะไม่ได้เลยจริงๆ...♪
คุโร่: การแหวกฝูงชนคงจะยากเกินไปสำหรับนายท่านฮาสึมิใช่ไหมล่ะ ก็เลยช่วยเซอวิสซักหน่อย เจ๋งไปเลยใช่ไหมล่ะ?
ก็งานเทศกาลนี่นา ไม่ต้องไปสนกฎกติกามารยาทอะไรหรอก♪
ส่วนพวกเราก็ไปแบบธรรมดาๆกันเถอะ เร็วเข้าคันซากิ ตามฉันมาเลย!
โซมะ: เข้าใจแล้ว คิริวโดโนะ♪
เอาล่ะ จงสดับรับฟังเสีย! พวกเรานั้นคืออาคัตสึกิ! มาเพื่อยึดครองใต้หล้านี้แล้ว!
หลอมรวมใต้หล้าด้วยสรรพกำลัง วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...☆ (天下布武 เป็นคำพูดของโอดะ โนบุนากะ)
เคย์โตะ: แกกกกกก๊! จำไว้เลยนะ คิริว!
เหวอ ตัวเหวี่ยงแล้ว! น่ากลัวชะมัด แรงแขนอะไรกันเนี่ย!
โยนผู้ชายโตเต็มวัยได้อย่างกับลูกบอลเลย... อ๊ะ แว่นตาตกแล้ว!?
คุโร่: อย่าโวยวายน่า ลงจอดดีๆก็แล้วกัน ถ้าได้รับบาดเจ็บขึ้นมาล่ะก็เป็นอันจบกันแต่แรกพอดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น